หลังจาก Hearthstone Battlegrounds เพิ่งอัพเดตการ์ดชุดใหม่เข้ามาในเกม ใครที่เป็นแฟนเกมน่าจะได้ลองเล่นกันแล้ว ว่าเมต้าใหม่หลังจากอัพเดตมาครั้งนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากทีเดียว และในวันนี้เราจะมาสรุปให้ฟังกันว่า บรรดาการ์ดใหม่ทั้ง 17 ใบ ใบไหนบ้างที่เป็นตัวแสบของจริงในแพทช์ 17.4
Monstrous Macaw (ความแสบระดับ 5 ดาว)
ถ้าจะรีวิวการ์ดเทพประจำแพทช์นี้ ต้องเริ่มที่ Monstrous Macaw เ ป็นใบแรกเท่านั้น กับความโกงที่แทบจะทำให้คุณการันตี Top 4 ทันที ถ้าหากอะไรเข้าที่เข้าทาง
การ์ดที่สำคัญที่สุดในการเล่นคู่กับนกตัวนี้คือ Baron Rivendare ที่จะทำให้เอฟเฟค Deathrattle ทำงานสองรอบ ได้มาเมื่อไหร่เหมือนเราได้อยู่ในเส้นทางแห่งชัยชนะทันที ส่วน Deathrattle ที่จะเอามาคอมโบก็มีตัวเลือกหลายแบบ เช่น Spawn of N’Zoth หรือ Goldrinn, the Great Wolf ที่บัพการ์ดของเราในสนามเป็นต้น
อย่างไรก็ตามเรื่องที่ต้องระวังสำหรับการเล่นก็คือ เอฟเฟค Deathrattle ส่วนใหญ่จะเป็นการเสกยูนิตเป็นหลัก และเราจำเป็นจะต้องเลี่ยงการ์ดพวกนี้ เพราะมันจะทำให้บอร์ดเรามีพื้นที่ไม่พอ ส่วนคอมโบปลายทางของนกตัวนี้ คือการเล่นคู่กับ Beast ทั้งสนามแล้วบัพด้วย Goldrinn, the Great Wolf เป็นหลัก จัดเป็นคอมโบที่โหดมากตามคลิปด้านล่างครับ
Arcane Cannon (ความแสบระดับ 4 ดาว)
การ์ดอีก 1 ใบที่เรียกได้ว่าเปลี่ยนเมต้าของการเล่น ได้ด้วยตัวของมันเองเพียงแค่ใบเดียว กับความสามารถสุดโกงที่เล่นกับคอมโบได้หลากหลาย และต่อให้ไม่คอมโบกับอะไรเลย มันก็ยังเป็นการ์ดระดับ 2 ดาวที่โหดและอยู่ได้ทุกแผน ใส่เข้าไปในบอร์ดยังไงก็คุ้ม ได้แผนที่ต้องการค่อยขายทิ้งยังไงก็กำไรแบบไม่ต้องคิดมาก
ความโหดของมันคือการเป็นการ์ดที่มีค่าพลัง 2/2 และสามารถสร้างความเสียหายได้ 2-4 หน่วยเป็นอย่างต่ำ จะเทียบให้เห็นภาพว่ามันคือการ์ดที่มีค่าพลัง 6/2 ก็คงพอได้ และเมื่อมันคอมโบกับการ Deathrattle ที่เสกยูนิตได้ (ซึ่งมีมากมายเหลือเกิน) พลังทำลายล้างคงมันก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก ซึ่งการสุ่มเจอหรือไม่เจอมันต้นเกม หลายครั้งมีผลกับเกมมากทีเดียว
โดยหลักแล้วการ์ดใบนี้ไม่ได้สิงอยู่กับแผนไหนไปจนกระทั่งท้ายเกม แต่มันเป็นการ์ดต้น-กลางเกม ที่แทบจะหยิบได้ทันที เอามาเฝ้าบอร์ดไว้ก่อนที่การ์ดในแผนหลักเราจะครบทีหลัง ในเรื่องเดียวกันก็เป็นสิ่งที่คนเล่นจะต้องระวัง ว่าอย่ายึดติดกับมันมากเกินไป จนไม่ได้หาแผนที่จะเล่นในช่วงท้ายเกม เพราะการ์ดใบนี้จะโหดแบบไร้เทียมทานเมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
แพ็คเกจโจรสลัด (ความแสบระดับ 4 ดาว)
เหล่าบรรดาโจรสลัดก็มีคอมโบและแผนการเล่นของตัวเองเช่นกัน โดยแบ่งออกได้ 2 คอมโบหลักๆ ซึ่งอาจจะใช้แบบใดแบบหนึ่ง หรือใช้พร้อมกันในเกมเดียวก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วเกมที่เราจบด้วยอันดับ 1 หนึ่งจะต้องใช้ทั้ง 2 คอมโบร่วมกันเป็นหลักอยู่แล้ว
คอมโบชุดแรกคือการปั้น Salty Looter ด้วยความสามารถของ Cap’n Hoggarr ที่ทำให้เราซื้อ Pirate ได้ถูกลง จากเดิมเสียเงิน 2 บาทเมื่อซื้อมาแล้วขายคืนร้าน แต่จะเหลือเพียงแค่ 1 บาทหรือฟรี เมื่อมี Cap’n Hoggarr ตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไป และการซื้อ Southsea Strongarm กับ Freedealing Gambler ระหว่างทาง จะทำให้การใช้คอมโบนี้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม Cap’n Hoggarr เป็นการ์ดระดับ 5 ดาว จึงไม่ใช่ว่าในทุกๆ เกมเราจะสามารถใช้คอมโบนี้ได้ แล้วเรายังต้องมี Salty Looter รออยู่ในสนามเพื่อความคุ้มค่า ดังนั้นเช็คคู่แข่งในเกมนั้นให้ดีๆ ว่ามีคนเล่นเยอะแค่ไหน มันคุ้มรึเปล่าที่เราจะหมุนเพื่อหา Cap’n Hoggarr เพียงอย่างเดียว
อีกคอมโบซึ่งเป็นคอมโบบุกและคอมโบท้ายเกมของเรา คือการใช้ Seabreaker Goliath โจมตีเพื่อบัพ Pirate ของเราทั้งสนาม โดยมี Dread Admiral Eliza และ Ripsnarl Captain เป็นตัวเสริม และแกนกลางของคอมโบนี้คือการ์ด 5 ดาวเช่นกัน ดังนั้นต้องเช็คให้ดีว่าสภาพเกมให้ดี ว่าคุ้มค่าแก้การหมุนหาหรือไม่ แต่ถ้าฮีโร่ของเราอำนวย หรือเรามี Cap’n Hoggarr อยู่ในสนามอยู่แล้ว แผน Pirate ก็เป็นอะไรที่ง่ายและน่าเล่นมากๆ เช่นกัน
ส่วนการ์ด Pirate ใบอื่นๆ ที่เหลือ โดยมากแล้วจะเป็นส่วนเสริมไว้ประคองเกมและรอรับบัฟ ต่างๆ เป็นหลัก แต่การวัดว่าเราจะประสบความสำเร็จในการใช้แผนที่หรือไม่ ส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับการเจอการ์ด 5 ใบนี้ว่าเราสามารถหยิบมาได้เยอะแค่ไหนนั่นแหละครับ
และทั้งหมดนี้ก็คือการ์ดแสบทั้ง 7 ใบ ที่เข้ามาเขย่าเมต้าของ Hearthstone Battlegrounds หลังจากพวกมันอัพเดตเข้ามา โดยที่อีก 10 ใบที่เหลือ ก็ไม่ได้ถึงกับเป็นการ์ดที่ใช้งานไม่ได้ แต่เป็นการที่ความสำคัญระดับกลางๆ เลือกหยิบแค่ตามสถานการณ์เท่านั้น ซึ่งวันนี้เรามาเจาะกันที่ความสามารถและคอมโบของเหล่าบรรดาการ์ดกันก่อน เพราะเป็นส่วนประกอบสำคัญในบทความรีวิวฮีโร่ใหม่ทั้ง 4 ตัวในบทความถัดไป
จะมีตัวไหนโหด จะมีตัวไหนที่ควรเลี่ยงไม่น่าหยิบบ้าง มารอติดตามกันอีกครั้งกันนะครับ