คำว่า ‘Metaverse’ หรือ ‘โลกเสมือนจริง’ กลายเป็นคำที่ถูกค้นหามากสุดใน Google ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัท Facebook เป็น Meta สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับ Metaverse ที่มากขึ้น
โดยซักเคอร์เบิร์กยังกล่าวย้ำว่า จากนี้ไปจะต้องเป็น Metaverse-First ไม่ใช่ Facebook-First ยิ่งตอกย้ำความน่าสนใจของคำว่า Metaverse มากยิ่งขึ้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ในโลกของการลงทุนแล้ว บริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse ก็น่าจะได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศและฟิวเจอร์ส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง กล่าวว่า แน่นอนว่าหุ้น Facebook ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็น Meta โดยใช้สัญลักษณ์ใหม่ว่า MVRS จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอันดับแรกจากกระแส Metaverse
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ชิปและกลุ่มธุรกิจเกมถือเป็นกลุ่มแรกๆ ที่นักลงทุนน่าจะให้ความสนใจจากธีมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse รองลงมาคือกลุ่มเทคโนโลยี
“ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์น่าจะกลับมา เพราะนอกจากเรื่อง Metaverse แล้ว ยังมีเรื่องของคริปโตเคอร์เรนซีที่กลายเป็นกระแส ทำให้คนหันมาสนใจขุดเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีกันมากขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ ก็ต้องใช้พวกชิป กลายเป็นว่าเทรนด์ในยุคนี้ ฮาร์ดแวร์เริ่มกลับมา จากยุคก่อนหน้าที่เป็นเรื่องของซอฟต์แวร์”
สำหรับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชิป นอกจากจะมีบริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง คอร์ป (TSMC) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกแล้ว ยังมี Intel ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชิปรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาด้วย แต่ Intel อยู่ในช่วงของการ Turnaround ซึ่งน่าจับตาดูว่าจะทำได้ดีแค่ไหน เพราะถ้ากลับมาได้ดี เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ เนื่องจากรัฐบาลของโจ ไบเดน อยากให้มีโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชิปในสหรัฐฯ อยู่แล้ว
ส่วนธุรกิจเกมถือเป็นอีกอุตสาหกรรมที่น่าจะได้ประโยชน์โดยตรงจากกระแส Metaverse เพราะธุรกิจที่อยู่ในแวดวงเกมมีบางส่วนที่เข้าสู่โลก Metaverse มาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อกระแสนี้เริ่มได้รับความนิยมในวงกว้างมากขึ้น บริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเกม หรือบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งทำเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ก็น่าจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย เช่น NVIDIA
รัฐศรัณย์กล่าวด้วยว่า อีกกลุ่มที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมจากกระแส Metaverse คือกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนอาจกังวลเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ที่ปรับตัวขึ้นจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เตรียมลดขนาด QE ซึ่งกลุ่มนี้มักได้รับผลกระทบก่อน อย่างไรก็ตาม หากมองพื้นฐานของตัวธุรกิจ เชื่อว่ากลุ่มเทคโนโลยีจะได้รับประโยชน์จากกระแส Metaverse ด้วยเช่นกัน
วิริยะชัย จิตตวัฒนรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่าย Private Wealth Management ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีบริษัทใดที่มีรายได้จากตัว Metaverse อย่างชัดเจน แต่ในอนาคตแล้ว Metaverse ถือเป็นโอกาสใหญ่สำหรับการลงทุนที่ไม่ควรมองข้าม โดยเท่าที่ศึกษาพบว่า อนาคตน่าจะมาในรูปของเกมเสมือนจริงก่อน ดังนั้น บริษัทในกลุ่มเกมมิงจึงถือเป็นโอกาสลงทุนในกลุ่มแรกๆ
นอกจากนี้ สินค้าหรืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับโลก Virtual เช่น แว่นตา VR ที่เชื่อมเข้าสู่โลก Metaverse ถือเป็นอีกกลุ่มที่มีความน่าสนใจ โดยบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Samsung, Google น่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากกระแส Metaverse ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในมุมของราคาหุ้น ณ ปัจจุบันยังไม่ได้ตอบรับกับข่าวดังกล่าวมากนัก สะท้อนผ่านกองทุน VanEck Video Gaming and eSports ETF’ หรือ ‘ESPO’ ซึ่งเป็น ETF ที่ลงทุนในธีมอีสปอร์ต เกี่ยวข้องกับวิดีโอเกม และบริษัทที่ผลิตการ์ดจออย่าง NVIDIA ซึ่งผลตอบแทนของกองทุนนี้ยังไม่ได้ขยับมากนัก อาจเพราะ Metaverse เป็นเรื่องใหม่ ทำให้นักลงทุนยังต้องทำความเข้าใจเพิ่มว่าธุรกิจเหล่านี้จะหารายได้จากช่องทางไหนได้บ้าง
“เรื่องนี้ยังเป็นอะไรที่ใหม่มากๆ คิดว่านักลงทุนคงอยู่ในช่วงของการทำความเข้าใจว่าธุรกิจเหล่านี้จะหารายได้จากช่องทางไหนได้บ้าง ราคาหุ้นจึงยังไม่ได้ตอบรับมากนัก แต่คิดว่ากลุ่มเหล่านี้จะเป็นโอกาสที่ใหญ่มากสำหรับการลงทุนในระยะข้างหน้า”
จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หากมองในแง่โอกาสการลงทุนจากธีม Metaverse แล้ว น่าจะมี 4 กลุ่มใหญ่ที่เกี่ยวข้อง คือ
- กลุ่มที่มี Meta Platforms (Facebook) มาก และลงทุนใน Communication Platform
- กลุ่ม Network และ Cloud Solution ได้ประโยชน์จากการเติบโตของการใช้ Data
- กลุ่ม Online Gaming สร้างสังคมได้เร็วขึ้น Adoption สูง
- กลุ่ม Tech Electronic และ Hardware รอลุ้นเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ใหม่โลก Metaverse
“ที่น่าจะดึงคนเข้ามาใช้ได้มากสุดก็น่าจะเป็นเกม ซึ่งน่าจะโดดเด่นมาก อีกกลุ่มคือคอมมูนิเคชัน เพราะถ้า Facebook เปิดให้คนเข้ามาใช้งานในโลกเสมือนนี้มากขึ้น จะทำให้ความต้องการใช้งานพวกอินเทอร์เน็ตสูงขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งบริษัทที่ผลิตฮาร์ดแวร์เหล่านี้ก็น่าจะได้รับอานิสงส์ด้วยเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าธีม Metaverse แม้จะมีความน่าสนใจ แต่ต้องไม่ลืมว่าสิ่งเหล่านี้ยังเป็นเรื่องใหม่ บริษัทที่เข้ามาลงทุนคงจะยังไม่สร้างกำไรในทันที เพราะต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างมากในช่วงแรกๆ
สำหรับ ETF แนะนำ คือ IXP – iShares Global Comm Services โดยมีหุ้น Facebook สูงที่สุด รองลงมาคือ META – Roundhill Ball Metaverse ETF ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวข้องกับ Metaverse และ HERO – Global X Video Games and Esports ธุรกิจที่สามารถประยุกต์ใช้ Metaverse ได้มาก และคนเข้าถึงง่ายที่สุด
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP