สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำฮีโร่ที่มีเอกลักษณ์สกิลติดตัวในการดูดINTจากฝั่งตรงข้ามและสกิลใบ้หมู่ (Silence AOE) ที่ดีที่สุดในเกม นั้นก็คือ Silencer ซึ่งในแพชปัจจุบันที่มีการไฟท์เร็วและบ่อยขึ้นนั้น ฮีโร่ที่มีคูดาวน์สกิลทีมไฟท์นานอย่าง Silencer ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่ากับเมื่อก่อนอีกต่อไป ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงหน้าที่ในเกม สกิลต่าง ๆ การออกไอเท็มในแพชปัจจุบันและสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับฮีโร่ตัวนี้กันครับ
ที่มา : ภาพถ่ายจากผู้เขียน เกม DOTA2
หน้าที่ในเกม
Silencer สามารถเล่นได้ทั้ง Core และ Support ทุก Position แต่วันนี้เราจะมาโฟกัสการเล่น Support กันครับ
ใน Laning Phase Silencer เลเวล1ปกติจะอัพสกิล 2 หรือสกิล GLAIVES OF WISDOM เพื่อเร่งดาเมจสำหรับการตอดศัตรูโดยส่วนมากจะอัพสกิลนี้เต็มก่อนสกิลอื่น ๆ และได้รับ Passive skill permanent INT steal ส่วนสกิลอีกสองสกิลที่จะให้เลือกอัพมีสกิล 1 หรือ ARCANE CURSE และสกิล 3 หรือ LAST WORD จะอัพตามสถานการณ์โดยจะอัพสกิล 1 เมื่ออีกฝั่งเป็นฮีโร่ที่เน้นสแปมสกิล,สกิลคูดาวน์ต่ำ,เลนเราต้องการสโลว์ศัตรูหรือใช้เพื่อกดดันฮีโร่มากกว่า 1 ตัวในขณะที่การอัพสกิล 3 จะเป็นการรอเวลาสกิลระเบิด 4 วินาทีหากศัตรูใช้สกิลในระหว่าง 4 วิจะโดนใบ้และได้รับดาเมจตามเลเวลของสกิลทันที หากไม่ใช้สกิลเลยก็จะถูกใบ้และได้รับดาเมจหลังครบ 4 วินาทีเหมือนกันแต่สกิล 3 นั้นจะเน้นไปที่การโฟกัสศัตรูตัวเดียว ดังนั้นการเลือกอัพสกิลจึงส่งผลต่อเลนอย่างมากหากไม่แน่ใจควรเก็บสกิลพ้อยไว้อัพตอนที่จะใช้จริง ๆ หรืออาจเลือกอัพทั้ง 2 สกิลเลยก็ได้แต่มีข้อเสียคืออาณุภาพของทั้ง 2 สกิล จะน้อยกว่าการอัพสกิลเดียวและต้องใช้มานาจำนวนมาก
ที่มา : ภาพถ่ายจากผู้เขียน เกม DOTA2
สกิลของ Silencer และสิ่งที่คุณอาจไม่รู้
สกิล 1 หรือ ARCANE CURSE
ที่มา : https://DOTA2.gamepedia.com/Silencer
ARCANE CURSE หรือสกิล 1 ของ Silencer จะร่ายใส่พื้นที่หรือAOEลงบนพื้น ศัตรูที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจะถูกสาปให้เคลื่อนที่ช้าลงและรับดาเมจแบบ overtime เป็นระยะเวลา 6 วินาทีโดยระหว่างที่โดนคำสาปอยู่นี้หากศัตรูใช้สกิลจะทำให้คำสาปเพิ่มระยะเวลาอีก5วินาทีทุก ๆ การใช้สกิล 1 ครั้ง นั้นหมายความว่าหากศัตรูใช้สกิลเพียงแค่ครั้งเดียวในช่วงโดนสาปก็จะโดนดาเมจและสโลว์นานถึง 11 วินาทีเลยทีเดียว
ซึ่งวิธีการใช้มี 2 แบบ นั้นคือ
1. ใช้ตอนเพื่อวิ่งไล่ฆ่าศัตรูเพื่อให้ศัตรูวิ่งช้าลงหรือเพื่อให้ศัตรูลังเลที่จะใช้สกิลเพราะจะโดนคำสาปนานขึ้น
2. ใช้เล็งจังหวะที่คิดว่าศัตรูกำลังจะใช้สกิล เช่น ตอนศัตรูกำลังลาสครีปในเลน
สกิลนี้ใช้ได้ผลดีกับฮีโร่ที่ชอบสแปมสกิลเพราะสกิลคูดาวน์ต่ำ เช่น Bristleback, Timbersaw, Zeus
สกิล 2 หรือ GLAIVES OF WISDOM
ที่มา : https://DOTA2.gamepedia.com/Silencer
GLAIVES OF WISDOM หรือ สกิล 2 ของ Silencer เป็นสกิลที่ทำให้การโจมตีธรรมดาของเรามีเอฟเฟคพิเศษคือเพิ่มดาเมจพิเศษแบบเพียวเป็นเปอเซนต์ตามค่า INT ที่ Silencer มีในขณะนั้นและขโมย INT จากศัตรูที่โดนโจมตีชั่วคราวนอกจากนี้ยังทำให้ Silencer ได้สกิลติดตัวคือ ขโมย INT ของศัตรูอย่างถาวรหากศัตรูโดน Silencer ฆ่าตายหรือตายในระยะห่าง 925 AOE เป็นจำนวน 2 หน่วย (ขโมย 4 หน่วยหากมี Talent +2 INT steal ตอนเลเวล 15) นั้นหมายความว่ายิ่ง Silencer ได้ฆ่าศัตรูมากเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งเก่งขึ้นตามจำนวน INT ที่ขโมยมาจากศัตรูมากเท่านั้นและศัตรูเองก็จะอ่อนแอลงทุกครั้งที่ตายโดย Silencer หรือ Silencer อยู่ในบริเวณที่ตัวเองตาย ดังนั้นโดยปกติแล้วหากทีมใดมี Silencer อยู่ในทีม ฝั่งศัตรูจะเลือกที่จะฆ่า Silencer เป็นคนแรกอยู่เสมอ
สกิล 3 หรือ LAST WORD
ที่มา : https://DOTA2.gamepedia.com/Silencer
LAST WORD หรือ สกิล 3 ของ Silencer เป็นสกิลที่ร่ายใส่ศัตรู 1 ตัวและทำงานคล้ายระเบิดเวลา คือ หากศัตรูไม่ร่ายสกิลในระยะเวลา 4 วินาทีจะทำให้สกิลทำงานหรือหากศัตรูเลือกใช้สกิลในระยะเวลาที่โดนสกิลก็จะโดนใบ้และรับดาเมจทันที โดยสกิลนี้นอกจะมีดาเมจพื้นฐานแล้วยังมีดาเมจเพิ่มเติมที่คิดจากจำนวน INT ที่ต่างกันของ Silencer และเป้าหมายที่ร่ายใส่อีกด้วยและสกิลนี้ยังสามารถอัพเกรดด้วย Aghanim Scepter หรือคทาฟ้าให้กลายเป็นสกิล AOE ได้อีกต่างหาก นอกจากนี้สกิลนี้ยังมีความลับมากมายที่น้อยคนจะรู้อีกด้วย
สิ่งที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับสกิล LASTWORD
1. สกิลนี้หากร่ายใส่ศัตรูที่เหลือเลือดน้อยกว่าดาเมจที่สกิล LAST WORD กระทำเมื่อศัตรูร่ายสกิลจะตายทันทีและไม่มีผลของสกิลของศัตรูออกมา
2. สกิลนี้หากร่ายใส่ศัตรูที่มีค่า INT มากกว่า Silencer จะทำให้ไม่มีดาเมจเพิ่มเติมจากค่า INT ที่ต่างกัน
3. สกิลนี้หากร่ายใส่ศัตรูที่ไม่มีค่า INT จะไม่คิดดาเมจเพิ่มเติม
4. หากร่ายใส่ศัตรูที่กำลังใช้สกิลประเภท Channeling ศัตรูจะติดสถานะใบ้หลังจากสกิล Channeling นั้นจบลง
5. ฮีโร่ Templar Assaasin ไม่สามารถใช้สกิล REFLECTION หลบหลีกผลจากสกิล LAST WORD ได้
6. ฮีโร่ Faceless Void สามารถใช้สกิล TIME WALK เพื่อหลีกเลี่ยงการรับดาเมจจากสกิลนี้ได้แต่ไม่สามารถหลุดจากสถานะใบ้ได้
7. ฮีโร่ Puck สามารถใช้สกิล PHASE SHIFT เพื่อหลบผลจากสกิล LAST WORD ได้แต่หากยกเลิกสกิล PHASE SHIFT เองจะรับผลตามปกติ
8. ฮีโร่ Phoenix เมื่อโดนสกิล LAST WORD แล้วใช้สกิล ICARUS DIVE เพื่อหนีออกจากพื้นที่ จะถูกบังคับให้บินกลับมาที่เดิมไม่สามารถหยุดได้
9. ฮีโร่ Void Spirit หากใช้สกิล DISSIMILATE ระหว่างที่โดนร่ายสกิล LASTWORD จะทำให้ไม่ติดสถานะใบ้แต่ยังรับดาเมจจาก LAST WORD
10. สกิลนี้มอบ Vision ให้กับ Silencer เป็นระยะเวลาที่สกิลนี้อยู่ในช่วงร่ายระยะเวลา 4 วินาทีและจะหายไปเมื่อสกิลนี้สร้างดาเมจให้กับศัตรูแล้ว
11. สกิล LAST WORD นอกจากจะมอบ Vision ให้ Silencer เองแล้วยังมอบ Vision ตำแหน่งของ Silencer ให้ศัตรูที่ถูกร่ายสกิลใส่อีกด้วย
12. สามารถนำมาคอมโบกับ HURRICANE PIKE โดยการร่ายสกิลนี้และกดใช้งานไอเท็มจะทำให้ Silencer ยิงศัตรูโดยไม่จำกัดระยะทางได้
สกิลอัลติเมท หรือ GLOBAL SILENCE
ที่มา : https://DOTA2.gamepedia.com/Silencer
GLOBAL SILENCE หรือ สกิลอัลติเมท ของ Silencer จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบงันซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Silencer
สกิลนี้จะทำให้ยูนิตทุกประเภทที่ไม่ใช่ยูนิตของทีมฝั่ง Silencer ติดสถานะใบ้นานถึง 6 วินาที (ที่สกิลเลเวล 3) ทั้งยังสามารถทะลุการป้องกันเวทย์สมบูรณ์ได้อีกด้วย เป็นหนึ่งในสกิลที่มี Impact มากที่สุดในเกมสกิลหนึ่งหรืออาจเข้าขั้นโกงเลยทีเดียว แต่ก็ต้องแลกมากับการที่สกิลมีคูดาวน์นานถึง 130 วินาทีและใช้มานามหาศาล (ใช้มานา 600 ที่สกิลเลเวล 3) และสกิลนี้เองก็ยังเป็นสาเหตุให้ฝั่งศัตรูต้องการฆ่า Silencer เป็นอันดับแรก ๆ เสมอเพื่อไม่ให้มีโอกาสได้ใช้สกิลนี้
การออกไอเท็ม
ต้นเกม
ที่มา : ภาพถ่ายจากผู้เขียน เกม DOTA2
Silencer สามารถออกไอเท็มได้หลากหลายรูปแบบมากจึงขอยกตัวอย่างมาแค่ 4 รูปแบบหลัก ๆ ที่แตกต่างตามจุดประสงค์
แบบที่ 1 จะออก Tango 2ชุดและ Buckler เพื่อเพิ่มเกราะกับ Silencer และทีมของเขาจะใช้การออกไอเท็มแบบนี้เมื่อเจอศัตรูที่เน้นการโจมตีด้านกายภาพหรือเกราะของเพื่อนร่วมทีมนั้นต่ำและต้องเข้ารับดาเมจทางกายภาพเสมอ ๆ
แบบที่ 2 จะออก Tango 2ชุดและ Headdress เพื่อเพิ่มอัตราฟื้นฟูเลือดของเราและเพื่อนร่วมทีมมีจุดประสงค์เพื่อให้เลนของเรา Sustain ได้ดีขึ้น
แบบที่ 3 จะออก Tango 2ชุดและ Ring of Basilius เพื่อเพิ่มอัตราฟื้นฟูมานาของเราและเพื่อนร่วมทีมจะใช้การออกไอเท็มแบบนี้เมื่อทีมของเราต้องการฟื้นมานามากขึ้นเนื่องจากใช้มานาไปกับการสแปมสกิล
แบบที่ 4 จะออก Tango 2ชุด Salve 1ขวด Circlet Mangoและ 1 กิ่งไม้ วิธีการออกไอเท็มแบบนี้ใช้ก็ต่อเมื่อเลนของเรามีฮีโร่ที่ดีกว่าฝั่งศัตรูโดยจะเน้นไปที่การฟื้นพลังชีวิตตัวเองและฟื้นฟูมานาตัวเองเพื่อไป Trade Hit กับฝั่งศัตรู
กลางเกม – ท้ายเกม
Silencer สามารถออกไอเท็มได้หลากหลายมากและยังสามารถปรับการออกไอเท็มให้เข้ากับสถานการณ์ได้ดีดังนั้นจึงขอยกตัวอย่างเป็นไอเท็มที่ส่วนมากที่ Silencer จะออกเป็น Core Item ในสถานการณ์ปกตินะครับ
ที่มา : ภาพถ่ายจากผู้เขียน เกม DOTA2
ที่มา : ภาพถ่ายจากผู้เขียน เกม DOTA2
Core Item
Magic Wand ไอเท็มชิ้นนี้จะฟื้นเลือดและมานาจากจำนวนชาร์จที่มีอยู่ (สูงสุดคือ 20) โดยชาร์จจะได้จากทุก ๆ 1 สกิลที่ศัตรูใช้ในระยะ 1200 ที่เรามองเห็นได้
Arcane Boots ช่วยเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และสามารถฟื้นฟูมานา 160 ให้กับเราและเพื่อนร่วมทีมในระยะ 1200 ได้มีคูดาวน์ 55 วินาที
Power Treads ช่วยเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ ความเร็วในการโจมตีและเพิ่มสถานะหลัก 10 หน่วยโดยสามารถสับเปลี่ยนได้เรื่อย ๆ ซึ่ง Silencer จะนิยมออกไอเท็มชิ้นนี้เพราะทำให้ตีเร็วขึ้นและได้ INT มากขึ้นนั้นทำให้สกิล 2 ของ Silencer โดยรวมมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Phase Boots ต่างจากรองเท้าแบบอื่นตรงที่สามารถเพิ่มความเร็วในระยะเวลาสั้น ๆ และทะลุสิ่งกีดขวาง เช่น ฮีโร่หรือครีปได้ อีกทั้งยังได้เกราะและพลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ไม่นิยมเท่า Power Treads เพราะไม่ได้เพิ่ม HP และความเร็วในการโจมตี
Eul’s Scepter of Divinity หรือคทาหมุนที่คนไทยเรียกกัน เพิ่มอัตราการฟื้นฟูมานา ความเร็วในการเคลื่อนที่และสามารถกดใช้เพื่อลบล้างบัฟพร้อมกับเป็นอมตะ 2.5 วินาที มีจุดประสงค์เพื่อยื้อชีวิตของตัวเองให้อยู่ในทีมไฟท์นานขึ้นและยังสามารถไปประยุกต์ยกเลิกการเทเลพอร์ตของศัตรูหรือการ Channeling สกิลของศัตรูในกรณีที่ทีมของเราขาด Disable ได้อีกด้วย
Urn of Shadows จะเก็บชาร์จ 1 ชาร์จหากมีศัตรูตายในรัศมี 1400 หน่วย หากเหลือ 0 ชาร์จจะได้ 2 ชาร์จ ใช้เพื่อ Regen ให้เพื่อนร่วมทีมสามารถไฟท์ต่อได้และยังใช้ลดเลือดของศัตรูได้อีกด้วย
Medallion of Courage กดใช้เพื่อเพิ่มเกราะให้กับเพื่อนร่วมทีมหรือลดเกราะของศัตรูก็ได้สามารถใช้งานได้หลากหลายแต่จะออกไอเท็มชิ้นนี้เมื่อศัตรูเป็นฮีโร่โจมตีทางกายภาพ
Drum of Endurance กดใช้เพื่อเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการโจมตีไอเท็มชิ้นนี้ควรออกเมื่อต้องการไล่ฆ่าศัตรูในทีมไฟท์ ตีป้อมไวขึ้น หรือวิ่งหนีศัตรูให้พ้นจากทีมไฟท์
Force Staff ไอเท็มชิ้นนี้เรียกได้ว่า Silencer ออกเกือบทุกเกมสามารถ Reset Position ทั้งของตัวเองและเพื่อนร่วมทีมโดนการผลักไปทิศทางข้างหน้าของคนที่โดนผลักได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ผลักศัตรูได้อีกด้วย
Rod of Atos เป็นไอเท็มที่ดีกับ Silencer มาก ๆ ชิ้นหนึ่งเลยเพราะได้ค่าสถานะ INT 20 STR 10 AGI 10 ในราคาแค่ 2750 Gold และยังสามารถชดเชยจุดอ่อนของ Silencer ที่ไม่มีสกิล Disable ด้วยการกดใช้เพื่อ Root อีกฝั่งได้ถึง 2 วินาที
เป็นอย่างไรบ้างครับกับบทความนี้ ได้รู้ความลับของฮีโร่ตัวนี้เพิ่มมากขึ้นกันหรือเปล่าครับ ฮีโร่ตัวนี้ในแพชปัจจุบันเป็นฮีโร่ที่มีคน Pick มาเล่นน้อย ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะ Pick ฮีโร่ตัวอื่นกันมากกว่าแต่ก็ยังมีการ Pick ให้เห็นอยู่บ้างด้วยจุดแข็งคือเป็นสกิลอัลติเมทที่ป่วนทีมไฟท์ได้ดีมาก อย่างไรก็ตามการที่อีโร่ตัวนี้จะส่งผลต่อทีมไฟท์ได้ดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับจังหวะการใช้สกิลอัลติเมทและตำแหน่งการยืนของฮีโร่เป็นหลักซึ่งหากใช้สกิลอัลติเมทผิดจังหวะก็สามารถทำให้ศัตรูตั้งตัวและสวนจนแพ้ได้เลยเพราะสกิลอัลติเมทของ Silencer มีคูดาวน์นานถึง 135 วินาที
หากบทความนี้ช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจเกี่ยวกับฮีโร่ตัวนี้มากขึ้นก็โปรดติดตามบทความเกี่ยวกับ DOTA2 ต่อ ๆ ไปของผู้เขียนด้วยนะครับ