เฟลิกซ์โขกอย่างเทพ,อีแลงก้าปลุกผีอีกหน – 5 ประเด็นแมนยูบุกเจ๊าแอตมาดริด – สยามกีฬา

จบไปยกแรกสำหรับเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมนัดแรกระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ แอตเลติโก มาดริด ที่สังเวียนแข้ง ว่านต๋า เมโตรโปลิตาโน่ เมื่อคืนวันพุธที่ 23 ก.พ.

และผลปรากฏว่า ผีแดง ที่ฟูลทีมสุดขีดบุกไปไล่ตีเสมอ ตราหมี ที่ขาดนักเตะหลายรายทั้งบาดเจ็บ และติดโทษแบนไปแบบเต็มกลืนด้วยสกอร์ 1-1 ซึ่งมี 5 ประเด็นที่สมควรเอ่ยถึงดังนี้

1. ได้สกอร์ก่อนเข้าทางตราหมี

    เพียงแค่ 7 นาทีแรก แฟนบอล ตราหมี ก็ได้เฮกันตั้งแต่หัววันจากจังหวะโถมโขกเต็มกบาลของ ชูเอา เฟลิกซ์ ที่พาทีมแชมป์ ลา ลีกา สตาร์ตนำ 1-0

    และนับจากนั้น ทุกอย่างก็เข้าทางทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ซึ่งช่ำชองในด้านการเล่นเกมตั้งรับ และรอโต้กลับตามสไตล์อยู่แล้ว

    ขณะเดียวกัน ปีศาจแดง ก็ไม่ใช่ทีมที่มีเกมรุกหลากหลายวูบวาบอะไร ยิ่งมาเจอรถบัสจอดขวางก็เลยไปไม่เป็นอย่างที่เห็น

    กระทั่งช่วงท้ายเกม ราล์ฟ รังนิก เสี่ยงเปลี่ยนตัวสำรองพร้อมกันสามราย และมาได้ แอนโธนี่ อีแลงก้า ยิงตีเสมอเป็นนักเตะ ผีแดง อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูใน แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อคเอาท์ได้ด้วยวัย 19 ปี 302 วัน

    แต่หากรวมรอบอื่นๆด้วย ไอ้หนูสวีดิช เป็นรายที่ห้าที่อายุน้อยที่สุดรองจาก เวย์น รูนีย์ , เมสัน กรีนวู้ด , เดวิด เบ็คแฮม และ ฟิล โจนส์

2. การวางหมากในแดนหน้าของเจ้าบ้าน 

    ก่อนเกมมีข่าวจากนักข่าวสแปนิชแพลมออกมาว่าเจ้าบ้านจะดร็อป หลุยส์ ซัวเรซ เป็นตัวสำรองให้ ชูเอา เฟลิกซ์ ประสานงานกับ อังเคล กอร์เรอา

    และปรากฏว่าข้อมูลดังกล่าวถูกเผง แถมดาวเตะเลือดฝอยทองยังคลำเป้าพาทีมออกนำเร็วได้อีกต่างหาก

    ฉะนั้นแล้ว จึงถือว่า ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเพราะจริงๆแล้วมีการเผยสถิติในซีซั่นนี้ออกมาว่าในเกมที่ ตราหมี ส่ง เฟลิกซ์ ลงเล่นเป็นตัวจริง พวกเขามีผลงานแย่มากเนื่องจากชนะแค่ 25% จากตัวเลขชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 6 ในทุกรายการ

    แต่ในเกมที่ เฟลิกซ์ ไม่ได้ออกสตาร์ต แอตเลติโก มาดริด มีผลงานที่ดีกว่าจากการกำชัยได้  54.5% จากตัวเลขชนะ 12 เสมอ 4 แพ้ 6

    อย่างไรก็ดี จากความผิดพลาดในช่วงท้าย เจ้าบ้านจึงชวดกำชัยชนะอย่างน่าเสียดายทั้งๆที่มีโอกาสส่องยิงมากกว่า แต่ไม่มีความเด็ดขาด

3. ผีเกมรุกแย่ไม่หลากหลายแม้ได้ครองบอล

    กลายเป็นเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีเปอร์เซนต์การครองบอลที่เหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามอื้อซ่าซึ่งถือว่าผิดวิสัยไม่น้อยเนื่องจาก แอตเลติโก มาดริด ไม่ใช่ทีมระดับกิ๊กก๊อก

    แต่จากที่เห็น แม้จะได้เดินเกมรุกมากกว่า แต่ ผีแดง ไม่มีทีเด็ดที่จะสร้างปัญหาให้กับทีมเจ้าบ้านได้เลย และแทบไม่มีจังหวะสับไกแบบน่ากลัวเช่นกัน

    ทำไปทำมา มันจึงน่าจะเป็นเกมที่ง่ายดายเกินคาดสำหรับทีม ตราหมี ทั้งๆที่ความเป็นจริงพวกเขามีเกมรับในซีซั่นนี้ที่เลวร้ายมากเนื่องจากโดนคลำเป้าในลีกกระทิงดุมากถึง 34 ประตู แต่ก็ดีพอที่จะรับมือกับเกมรุกที่หน่อมแน้มของทีมจากเมืองผู้ดีได้อย่างไม่มีปัญหา ก่อนจะมาเสียท่าให้กับเจ้าหนูผิวสีของอาคันตุกะจนได้

4. สถิติฟ้อง แมนฯ ยูไนเต็ด ห่วยยามบุกเมืองกระทิง

    ถ้าจะถามว่า ผีแดง แพ้ทางสโมสรจากประเทศไหนมากที่สุดในยามลงเล่นฟุตบอลยุโรป

    แน่นอนว่าพวกเขาเคยต่อกรกับ แอตเลติโก มาดริด มาก่อนหน้านี้แค่หนเดียวในศึก คัพวินเนอร์สคัพ และปราชัยให้กับทีมจากลีกกระทิงดุ

    และจากผลงานโดยรวม ผีแดง ทำให้สาวกลำบากใจเสมอเมื่อต้องบุกมาเยือนทีมในสเปนเนื่องจากพวกเขาเคยชนะในแดนกระทิงแค่หนเดียวจากก่อนหน้านี้เจ็ดครั้งหลังในรอบน็อคเอาท์ถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก โดยเป็นการเสมอสี่นัด และแพ้สองนัด (ชนะ กอรุนญ่า 2-0 เดือนเม.ย.2002 จากประตูของ เดวิด เบ็คแฮม และ รุด ฟาน นิสเตลรอย

    เท่านั้นไม่พอ ตลอด 45 นาทีแรกที่ ว่านต๋า เมโตรโปลิตาโน่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษของ แอตเลติโก มาดริด แม้แต่ครั้งเดียวอีกด้วย

    แต่สุดท้าย ผีแดง มาได้ความนิ่งของ แอนโธนีย์ อีแลงก้า ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความปราชัยในสเปนไปอย่างเฉียดฉิว และเป็นประตูที่ 500 ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในถ้วยหูใหญ่ (นับรวมยูโรเปี้ยนคัพเดิมด้วย) ซึ่งเป็นสถิติการยิงประตูที่รองจาก เรอัล มาดริด 1,001 ประตู , บาเยิร์น 760 ประตู และ บาร์ซ่า 624 ประตู

5. ทีมเดียวจาก พรีเมียร์ลีก ที่ไม่ชนะ

    ก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะออกศึกกับ แอตเลติโก มาดริด ทีมจากเมืองผู้ดีล้วนกำชัยในเกมแรกของถ้วยใบนี้ได้ทั้งนั้น

    แถมเป็นผลงานที่สวยสดงดงามซะด้วยไล่ตั้งแต่ แมนฯ ซิตี้ บุกไปขยี้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน จมธรณี 5-0 ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็คว้าชัยเหนือ อินเตอร์ มิลาน 2-0 ที่เมืองมะกะโรนี

    กระทั่งวันก่อน เชลซี แชมป์เก่าเปิดบ้านคว่ำ ลีลล์ 2-0 ซึ่งทุกทีมทำให้สาวกเริงร่า และมีคลีนชีตทั้งนั้น

    อย่างไรก็ดี มองในแง่บวก ผีแดง ยังไม่ตกรอบเพราะยังมีอีกเกมรออยู่ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันที่ 15 มี.ค.

    แถมเมื่อดูจากรูปเกมโดยรวมของทีม ตราหมี ซึ่งซีซั่นนี้ไม่มีพิษสงสักเท่าไหร่ ยังไงก็ต้องบอกว่า ผีแดง ยังมีลุ้นเข้ารอบมากพอสมควร