คืนวันอาทิตย์นี้ เราจะได้รู้กันแล้วว่า ใครที่ได้แชมป์ อีเอฟแอล คัพ (อดีตรู้จักกันในชื่อ ลีก คัพ) หรือ คาราบาว คัพ ตามชื่อสปอนเซอร์ปัจจุบัน ประจำฤดูกาล 2020/21 ไปครอง โดยรอบชิงชนะเลิศนั้น เป็นการเจอกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่จะฟาดแข้งกัน ณ สังเวียนแข้ง เวมบลีย์ สเตเดี้่ยม ซึ่งด้วยชื่อชั้นของทั้งสองทีม ถือเป็นเกมที่น่าสนใจและน่าดูอย่างมาก และนี่คือเกร็ดความรู้และสถิติที่น่าสนใจสำหรับเกมนี้
– แมนฯ ซิตี้ กำลังลุ้นซิวแชมป์ อีเอฟแอล คัพ สมัยที่ 8 ซึ่งถ้าหากพวกเขาทำได้ ก็จะกลายเป็นสโมสรที่คว้าแชมป์รายการนี้มากสุด เทียบเท่ากับ ลิเวอร์พูล ทันที และจะถือเป็นแชมป์ 4 ฤดูกาลติดต่อกันด้วย เพราะก่อนหน้านี้กวาดรวดในฤดูกาล 2017/18, 2018/19 และ 2019/20
– นอกจากนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี้ ก็จะกลายเป็นกุนซือคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้าแชมป์ อีเอฟแอล คัพ 4 ฤดูกาลติด หาก “เรือใบสีฟ้า” คว้าชัยเกมคืนนี้
– ขณะที่ สเปอร์ส ลุ้นคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 5 โดยครั้งล่าสุดที่พวกเขาได้แชมป์ อีเอฟแอล คัพ เกิดขึ้นในฤดูกาล 2007/08 (รอบชิงฯ ต่อเวลาพิเศษ ชนะ เชลซี 2-1) ซึ่งถือเป็นโทรฟี่แชมป์ใบล่าสุด ที่พวกเขาได้จนกระทั่้งถึงทุกวันนี้ด้วย
– ทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ สเปอร์ส ต่างเข้าชิงรายการนี้เป็นหนที่ 9 เหมือนกัน
– นี่เพิ่งจะเป็นหนที่สองเท่านั้น ที่ แมนฯ ซิตี้ กับ สเปอร์ส เจอกันในรอบชิงฯ บอลถ้วยอังกฤษ โดยหนเดียวที่เจอกันก่อนหน้านี้่คือศึก เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 1980/81ซึ่ง “ไก่เดือยทอง” คว้าแชมป์ โดยลงเตะนัดรีเพลย์เอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” 3-2 หลังเกมแรกเสมอกัน 1-1 (ต่อเวลาพิเศษ)
– ถึงแม้ แมนฯ ซิตี้ ได้แชมป์มากกว่า แต่ที่เจอกันมา 3 ครั้งในถ้วยนี้ สเปอร์ส เป็นฝ่ายคว้าชัยรวด ซึ่งเกิดขึ้นในรอบสาม ฤดูกาล 1992/93, รอบสี่ ฤดูกาล 2003/04 และรอบก่อนรองฯ ก่อนไปถึงแชมป์ในฤดูกาล 2007/08
– อย่างไรก็ตาม เมื่อเตะกันที่สนามกลาง สเปอร์ส มีสถิติแพ้รวด 5 ครั้งหลังสุดที่เตะในสังเวียนแข้ง เวมบลีย์ สเตเดี้่ยม นอกจากนี้พวกเขายังแพ้ให้กับ แมนฯ ซิตี้ ทั้ง 2 หนในศึก พรีเมียร์ลีก ตอนที่ใช้ เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เป็นรังเหย้าชั่วคราว
– ด้วยการที่ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ อีเอฟแอล คัพ มารวดตลอดช่วง 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาไม่เคยถูกเขี่ยตกรอบ ตลอดการแข่งขัน 19 รอบหลังสุดของรายการนี้ หรือนับตั้งแต่ที่โดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (แพ้ 0-1) เขี่ยร่วงรอบสี่ เมื่อฤดูกาล 2016/17
– เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้า แมนฯ ซิตี้ ทำประตูในเกมรอบชิงฯ อีเอฟแอล คัพ มาแล้ว 2 หน (ซีซั่น 2017/18 และ 2019/20) ซึ่งหากทำได้อีกในคืนนี้ ก็จะกลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำประตูในเกมรอบชิงฯ ถ้วยนี้ได้ 3 ครั้ง นับตั้งแต่ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ตำนานหัวหอก เชลซี ที่ทำได้ในฤดูกาล 2004/05, 2006/07 และ 2007/08
– Subinho –
Add friend ที่ @Siamsport
Getty Images
[ ไม่อนุญาตให้คัดลอกรูปภาพหรือนำไปเผยแพร่รูปภาพต่อไม่ว่าวิธีใดๆ ถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด ]