วงสัมนาหวังกีฬาไทยปรับตัวรับโลกดิจิตัล-“เจริญ”หนุนซีเกมส์เน้นจัดกีฬาสากล

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เปิดเผยว่า จากการที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต จัดโครงการอบรมหลักสูตร “การพัฒนานักบริหาร”สำหรับผู้บริหารระดับต้นและระดับกลาง”ของกกท.ผ่านระบบออนไลน์ระหว่างวันที่ 7 ก.พ.- 29 เม.ย. 65 นั้น

     โดยหลักสูตรดังกล่าว กำหนดให้มีการจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการเรื่อง “ปรากฏการณ์ดิจิทัลกับการจัดการกีฬา” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างพลังร่วม สำหรับการแสวงหาแนวทางในการขับเคลื่อนการพัฒนากีฬาของประเทศภายใต้ปรากฎการณ์การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล สำหรับในการสัมมนาดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้บริหารกกท.ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคตลอดจนผู้สนใจทั่วไปที่ติดตามการไลฟ์สดเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

    ในการสัมมนาดังกล่าว ศ.(พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯสะท้อนแนวคิดว่า เมื่อโลกเข้าสู่ปรากฎการณ์ดิจิทัลอย่างเต็มตัว จำเป็นที่คนในวงการกีฬาต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง และเหนืออื่นใดการบริหารจัดการกีฬาจะประสบความสำเร็จได้ ผู้บริหารตลอดจนผู้เกี่ยวข้องจะต้องปรับกลยุทธ์การขับเคลื่อนภายใต้อุดมการณ์และปรัชญาของการกีฬาอย่างแท้จริง โดยการนำแนวคิดด้วยการบูรณาการนำความดีงามของการกีฬาในอดีตมาผสมผสานกับโลกในปัจจุบันก็จะทำให้การกีฬาของชาติก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน สำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์นั้น ตนเองในฐานะเป็นหนึ่งในมนตรีซีเกมส์พยายามที่จะผลักดันให้ชาติต่างๆที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันได้ปรับรูปแบบให้ซีเกมส์เป็นเกมกีฬาสากลอย่างแท้จริง มากกว่าการที่เจ้าภาพจะเน้นไปที่การเป็นเจ้าเหรียญทองแต่เพียงอย่างเดียว

    ด้าน ประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เผยว่าวันนี้ กกท.ในฐานะองค์กรหลักในการส่งเสริมและพัฒนากีฬาของประเทศมีการปรับตัวเพื่อให้ทันกับโลกในยุคดิจิทัลโดยเฉพาะการบริหารจัดการองค์กร รวมทั้งการเตรียมการนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในมหกรรมกีฬาต่างๆ กกท.ได้มีการปรับแผนยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ในการบริหารจัดการให้ทันและตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการนำเอาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การกีฬาภายใต้นวัตกรรมใหม่มาร่วมขับเคลื่อนให้การกีฬาของประเทศเข้าสู่มาตรฐานสากลทัดเทียมกับชาติที่เจริญแล้ว

    ขณะที่นายศุกรีย์ สุภาวีรกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทยและประธานสถาบันการจัดการกีฬาเพื่อองค์กรกีฬา (WISDOM) ฉายภาพให้เห็นว่าในยุคของการเปลี่ยนผ่านจากอนาล๊อคเข้าสู่ดิจิทัลนั้นถือได้ว่านี้ปรากฎการณ์ดังกล่าวได้ส่งสัญญาณให้นักบริหารตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับวงการกีฬาต้องปรับวิธีคิดและตื่นตัวเพื่อตามโลกให้ทัน ยิ่งวันนี้ชาติที่เจริญแล้วเขานำเอากีฬามาเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยแล้วจำเป็นอยู่เองที่จากนี้ไปผู้เกี่ยวข้องต้องปรับวิธิคิดโดยเฉพาะการคิดนอกกรอบและไม่ติดอยู่กับวิถีเดิมๆ ขณะที่ผู้บริหารของการกีฬาแห่งประเทศไทยยิ่งจำเป็นที่จะต้องเป็นแกนนำที่จะสะท้อนให้เห็นว่าเขาเหล่านั้นคือฟันเฟืองหรือพลังร่วมที่สำคัญในการพัฒนาและยกระดับของชาติ ให้เจริญรุดหน้าและยั่งยืนสืบไป

    ส่วน ดร.สรายุทธ มหวลีรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามสปอร์ตซินดิเคท ชี้ให้เห็นว่าโลกในยุคดิจิทัลสังคมต้องการบริโภคข้อมูลข่าวสารผ่านดิจิทัลหรือโชเชียลมีเดียมากขึ้นเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนผ่านสื่อมวลชนสายกีฬาก็ต้องปรับตัวให้ทันกับยุคและบริบทแห่งความเป็นจริง วันนี้จะเห็นได้ว่าการสื่อสารหรือการรายงานข่าวโดยเฉพากิจกรรมความเคลื่อนไหวและผลการแข่งขันสื่อมวลชนทุกแขนงมีการพัฒนาไปมาก ดังนั้นเพื่อให้ทันยุคของโลกดิจิทัลอย่างแท้จริงคนในวงการกีฬาจะต้องไม่ละเลยกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่เพราะวิทยาการหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่จะเป็นหนึ่งในมิติที่จะขับเคลื่อนให้การกีฬาในทุกภาคส่วนของปประเทศก้าวทันการเปลี่ยนแปลงและแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    นายสันติ โหลทอง นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย ในฐานะหนึ่งในผู้นำองค์กรกีฬาเทรนด์ใหม่ฉายภาพให้เห็นว่าโลกในยุคดิจิทัลหรือปรากฎการณ์การเปลี่ยนผ่านจำเป็นอยู่เองที่คนในสังคมโดยเฉพาะผู้บริหารตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนต้องเปลี่ยนค่านิยมและยอมรับกับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งกีฬาอีสปอร์ตซึ่งถือว่าเป็นกีฬาเทรนด์ใหม่ในโลกปัจจุบันกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ต้องใช้ความพยามยามในการสร้างความเข้าใจหรือการให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้ปกครองว่าอีสปอร์ตคือกีฬาไม่ใช่เกมที่จะเข้าไปมอมเมาเยาวชน และกีฬาชนิดนี้ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับนักกีฬาอีกด้วย มาถึงวันนี้เป็นที่น่าดีใจว่าจากปรากฎการณ์ดิจิทัลส่งผลให้กีฬาอีสปอร์ตเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจและสังคมได้อย่างน่าสนใจยิ่ง

    ขณะที่ ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตกล่าวปิดท้ายว่าการกีฬาของชาติจะทะลายกำแพงหรือขวากหนามที่เป็นอุปสรรคในปัจจุบันเพื่อก้าวไปสู่โลกในยุคดิจิทัลได้อย่างเป็นทางการและสมบูรณ์แบบนั้นนอกจากผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องจะยอมรับและมีทักษะเกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่แล้วการสร้างการมีส่วนร่วมให้คนในชาติเข้ามามีบทบาทกับการยกระดับกีฬาในทุกมิติที่สอดคล้องกับปรากฎการณ์ดิจิทัลนั้นจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องส่งเสริมสนับสนุนโดยเฉพาะการสร้างการตระหนักรู้ให้สังคมในทุกระดับตั้งแต่รากหญ้าขึ้นมาให้เล็งเห็นและเข้าใจว่าการจัดการกีฬาภายใต้กิจกรรม นวัตกรรมและรูปแบบต่างๆจะเป็นหนึ่งในเส้นเลือดใหญ่สำหรับสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศพร้อมกันนั้นตนเองอยากเห็นมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติเป็นหนึ่งในสถาบันอุดมศึกษาต้นแบบสำหรับการพัฒนาและยกระดับการกีฬาของชาติภายใต้ปรากฎการณ์ดิจิทัลอย่างแท้จริง

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร

Add friend ที่ @Siamsport