ไทคานน์ รถอีวีขับหลังของ ปอร์เช่ – เดลีนีวส์

ล่าสุด บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้โอกาสเปิดตัวรถยนต์ ปอร์เช่ ไทคานน์ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ครั้งแรกในประเทศไทย สมาชิกล่าสุดของยนตรกรรมสปอร์ตไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมนวัตกรรมมอเตอร์ขับเคลื่อนเปี่ยมด้วยสมรรถนะโดยถ่ายทอดดีเอ็นเอ ปอร์เช่ จากรุ่นพี่ไทคานน์ เทอร์โบ เอส, ไทคานน์ เทอร์โบ, และ ไทคานน์ 4 เอส ที่สำคัญราคาเข้าถึงง่าย

ไทคานน์ใหม่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังและทางเลือกจากแบตเตอรี่ 2 ขนาดความจุ สำหรับขนาดมาตรฐาน Performance Battery ให้พละกำลังสูงสุดถึง 408 แรงม้า เมื่อทำงานใน overboost mode และ Launch Control ยกระดับศักยภาพสูงสุดกว่า 476 แรงม้า จากอุปกรณ์พิเศษ Performance Battery Plus สำหรับการทำงานในโหมดปกติให้กำลังที่ 326 แรงม้า หรือ 380 แรงม้าจากอุปกรณ์พิเศษ มีระยะการเดินทางสูงสุดเมื่อทดสอบตามมาตรฐาน WLTP สามารถทำได้ที่ 431-484 กิโลเมตร

อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 5.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. ทั้ง 2 ขนาดความจุแบตเตอรี่ ขณะที่สามารถรองรับการประจุพลังงานได้สูงสุดที่ 225 กิโลวัตต์ (Performance Battery) หรือ 270 กิโลวัตต์ (Performance Battery Plus) โดยแบตเตอรี่ทั้ง 2 ขนาดใช้ระยะเวลาชาร์จพลังงานจาก 5-80% ในสภาวะการชาร์จไฟปกติเพียง 22.5 นาที และสะสมพลังงานจนวิ่งได้ถึง 100 กม. หลังจากการชาร์จเพียง 5 นาทีเท่านั้น

นวัตกรรมมอเตอร์ขับเคลื่อนเต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะ ด้วยอัตราเร่งที่เร้าใจให้พละกำลังในการถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง โดยมอเตอร์สมรรถนะสูงขนาดเดียวกับไทคานน์ 4เอส ส่วนของอุปกรณ์ pulse-controlled inverter บริเวณเพลาคู่หลัง สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 600 แอมป์ อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการทำงานอย่างลงตัวของมอเตอร์เเล้ว รถคันนี้ยังถ่าย ทอดพละกำลังมหาศาลได้เต็มประสิทธิภาพ ผ่านชุดส่งกำลัง two-speed transmission ของเพลาคู่หลัง นับเป็นระบบขับเคลื่อนชั้นเลิศ รวมทั้งระบบอากาศพลศาสตร์ยอดเยี่ยมจากการออกเเบบรูปทรงตัวถังลงตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือความประหยัดและเดินทางได้ไกล พร้อมระบบชาร์จพลังย้อนกลับ recuperation power สูงสุดถึง 265 กิโลวัตต์

นอกจากนี้ไทคานน์ ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นยุคใหม่ของปอร์เช่ รักษาดีไซน์รูปเเบบดั้งเดิมของดีเอ็นเอ ปอร์เช่ เริ่มต้นตั้งแต่มุมมองด้านหน้าที่กว้างและแบนราบขนาบด้วยโป่งซุ้มล้อที่โค้งมน ยกระดับรูปทรงโดยรวมให้ปราดเปรียว เฉียบคมด้วยแนวหลังคาสไตล์สปอร์ตเทลาดลงอย่างต่อเนื่องกลมกลืนจดด้านท้าย แนวตัวถังด้านข้างที่เปี่ยมไปด้วยบุคลิกเฉพาะตัว มุมมองจากห้องโดยสารปลอดโปร่ง แนวโค้งของเสาซีวางตัวผสานกับซุ้มล้อหลัง เป็นหนึ่งเดียวกับสปอยเลอร์ท้ายรถที่ตอกย้ำถึงความกร้าวทรงพลัง อันเป็นสมรรถนะติดตัวรถยนต์ปอร์เช่ทุกคัน เสริมความโดดเด่นด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยรอบคัน อาทิ โลโก้ ปอร์เช่ที่สะท้อนประกายสวยงามเป็นอุปกรณ์ที่รวมอยู่กับแผงไฟไลต์บาร์บริเวณท้ายรถล้ออัลลอยถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ขนาด 19 นิ้ว ลายไทคานน์ แอร์โรว์ คาลิเปอร์เบรกสีดำ black anodised ทั้ง 4 ล้อ ชิ้นส่วนตัวถัง

ด้านหน้าออกเเบบใหม่ ชายล่างด้านข้างและดิฟฟิวเซอร์หลังสีดำเสริมอารมณ์สปอร์ตเต็มพิกัด ไฟหน้าแอลอีดีติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ภายในห้องโดยสารแสดงออกถึงบรรยากาศของการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่ของยนตรกรรมสปอร์ตล้ำอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางอุปกรณ์รายรอบ แผงหน้าปัดทรงโค้งมน ในตำแหน่งบนสุดของแผงคอนโซลหน้าให้มุมมองที่ชัดเจน คอนโซลกลางติดตั้งหน้าจอ infotainment ขนาดใหญ่ถึง 10.9 นิ้ว ส่วนเบาะคู่หน้าแบบคอมฟอร์ต ซีท ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พื้นที่บรรทุกสัมภาระ 2 ตำแหน่งด้านหน้าความจุ 84 ลิตร และด้านหลังรองรับได้ถึง 407 ลิตร

ระบบควบคุมช่วงล่างแบบรวมศูนย์ Centrally networked chassis systems ระบบ Porsche 4D-Chassis Control วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลที่ได้จากระบบควบคุมช่วงล่างทั้งหมดแบบเรียลไทม์ตอบสนองยอดเยี่ยม ทั้งช่วงล่างสปริงติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน, ระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ พร้อมเทคโนโลยี three-chamber รวมทั้งระบบ PASM ยิ่งไปกว่านั้นระบบอะเดพทีฟ แอร์ ซัส สแปนชั่น ยังเสริมด้วยฟังก์ชันสมาร์ท ลิฟต์โปรแกรมทำหน้าที่ยกระดับความสูงของช่วงล่างได้โดยอัตโนมัติ เมื่อขับขี่บนเส้นทางที่สุ่มเสี่ยง…เรียกว่าปรับแต่งให้เกิดความสมดุลที่สุดระหว่างสมรรถนะกับความนุ่มนวลสะดวกสบายที่ปอร์เช่ ไทคานน์ พร้อมจัดให้.