ความเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ แม้แต่ Dota 2 เกม Moba ที่มีอายุอานามยาวมาถึง 9 ปีเต็ม ซึ่งในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น Valve ผู้พัฒนาเกมนี้ก็ได้ทำการอัปเดตแพทซ์ใหม่ใน V.7.28a ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง สำหรับใครที่ตามไม่ทันหรือพึ่งจะกลับมาเล่นใหม่ อาจจะสับสนกันได้ วันนี้เรามีไกด์คร่าวๆ มาแนะนำการเล่นเกมนี้ให้ชมกันครับ
1.ฮีโร่และตำแหน่งในการเล่น
ในเกม Dota 2 นั้นการเลือกฮีโร่และตำแหน่งในการเล่นถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง เพราะทุกตำแหน่งจะสามารถโยกย้ายหรือไปช่วยเหลือเพื่อนได้ในยามคับขัน โดยที่แต่ละตำแหน่งก็จะมีจุดสำคัญแตกต่างกัน โดยในเกมนี้ก็จะแบ่งตำแหน่งออกมาได้ 5 จุดดังนี้
- Hard Carry – เรียกว่าเป็นตำแหน่งที่จะต้องฟาร์มเงินเพื่อออกไอเทมให้ได้ไวและมากที่สุด หรือจะบอกว่านี่คือตัวความหวังของทีมเลยก็ว่าได้
- Solo – ตำแหน่งที่จะเป็นเหมือน Semi-Carry หรือตัว Mid เป็นตำแหน่งที่จะเล่นกันในเลนกลาง ซึ่งจะสามารถโยกไปเลนอื่นเพื่อช่วยเหลือเพื่อนได้ในยามจำเป็น
- Offlane – ตำแหน่งที่ผู้เล่นจะต้องไปยังเลนไกลหรือเลนที่เราต้องห่างจากป้อมของ Tier 1 โดยตำแหน่งนี้จะเป็นตัวที่จะต้องยืนระยะและเข้าปะทะกับ Hard Carry ฝ่ายตรงข้ามเป็นหลัก
- Roaming – ตำแหน่งที่มีอิสระในการโยกย้ายไปยังเลนต่างๆ หรือจะอยู่ในป่าเพื่อเก็บเลเวลกับบรรดา Creep ป่าก็ได้ ซึ่งตำแหน่งนี้ยังมีอีกชื่อว่า Jungler อีกด้วย
- Support – แค่ชื่อก็บ่งบอกหน้าที่แล้วคือตำแหน่งสนับสนุนเพื่อนๆในทีม เป็นตำแหน่งที่ดูเหมือนไม่สำคัญแต่ขาดไม่ได้ เพราะเป็นตำแหน่งที่ต้องช่วยเหลือทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะ Hard Carry เช่นการปัก Ward เพื่อเปิดแผนที่ ป้องกันการโดนบุกของฝ่ายตรงข้ามหรือเก็บกวาด Ward ของฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน
โดยแต่ละตำแหน่งนั้นก็จะเหมาะสมกับฮีโร่บางตัว เช่น ถ้าคุณเลือกฮีโร่ที่มีการโจมตีระยะไกล การไปอยู่ตำแหน่ง Solo ตรงกลางก็จะช่วยให้เราไม่จำเป็นต้องเข้าปะทะ หรือจะเป็นฮีโร่ที่มีความถึกและมีสกิลที่ช่วยในการยืนระยะก็สามารถไปยืนตำแหน่ง Offlane ได้ โดยภายในเกมนั้นก็จะมีการเขียนกำกับว่าฮีโร่แต่ละตัวนั้นจะมีจุดเด่นตรงไหนให้เราได้เลือกเล่นกัน
2.ไอเทมเสริม Status ของฮีโร่
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันของ Dota 2 คือไอเทมภายในเกม โดยเกมนี้จะมีไอเทมให้เราได้เลือกใช้กันมากมาย ซึ่งจะแบ่งเป็นไอเทมติดตัวและไอเทมใช้งาน แถมไอเทมแต่ละอย่างก็จะมีการเสริม Status ให้กับตัวละครได้อีกด้วย รวมไปถึงการเพิ่มความสามารถพิเศษเฉพาะ ถ้าเกิดเราเลือกซื้อไอเทมได้ถูกกับรูปแบบของเกมที่กำลังเล่นก็จะช่วยให้ฮีโร่ของเรานั้นไร้เทียมทานมากยิ่งขึ้น
3.Town Portal Scroll ไอเทมช่วยชีวิตยามฉุกเฉิน
ต่อจากข้อที่ 2 สำหรับไอเทมชิ้นนี้เรียกกันติดปากว่าใบวาร์ป ซึ่งจะช่วยให้เรานั้นเดินทางไปยังจุดต่างๆได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเกิดใช้ให้เป็นประโยชน์นี่จะเป็นไอเทมตัดสินเกมได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเซฟชีวิตหลังจากช่วง Fight หรือจะเป็นการเข้าไปซ้อนเพื่อนร่วมทีมที่กำลังเสียเปรียบ ซึ่งผู้เล่นนั้นจะได้ไอเทมชิ้นนี้จากตอนเริ่มต้นมา 3 อัน ดังนั้นไม่ต้องงก กดใช้ได้เรื่อยๆ
4.ออกไอเทมหรืออัพสกิลอย่างไรดี ในเกมมีบอกตั้งแต่ต้น
ถ้าเกิดไม่รู้ว่าจะเล่นฮีโร่ตัวนี้อย่างไรดี ในเกม Dota 2 มีระบบที่เรียกว่าคู่มือ เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเข้าใจแนวทางการอัพสกิลและออกไอเทมของฮีโร่ ซึ่งจะมีคู่มือที่ทาง Valve เป็นผู้แนะนำหรือจะเป็นผู้เล่นด้วยกันเป็นผู้แนะนำ โดยเราสามารถเลือกดูได้ตามสะดวก หรือจะพลิกแพลงได้ตามความต้องการ
5.สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมเป็นสิ่งที่ดี
สิ่งสำคัญที่สุดในการเล่นเกมเป็นทีม คือเรื่องของการสื่อสาร ซึ่งเรานั้นจะพิมพ์ข้อความหรือจะพูดผ่านไมโครโฟนก็แล้วแต่ความสะดวก แต่ถ้าเกิดใครที่ไม่เก่งภาษาหรือไม่สามารถส่งข้อความได้เดี๋ยวนั้น ตัวเกมก็มีฟังค์ชั่นข้อความด่วน ที่สามารถบอกสถานะเราของได้ เช่น ศัตรูหาย, ต้องการ Ward หรือจะชมเพื่อนร่วมทีมว่าเล่นได้ดีก็สามารถทำได้เช่นกัน
6.หมั่นศึกษาการเล่นจาก Pro Player
ในข้อนี้อาจจะไม่สำคัญสำหรับเกมเมอร์บางคน แต่กับหลายๆคนที่อยากจะเล่นให้เก่งขึ้น เราสามารถดูแนวทางการเล่นจากบรรดา Pro Player ของ Dota 2 ได้ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันรายการต่างๆ รวมไปถึงการเล่น Showmatch ภายในเกม ซึ่งเราจะดูได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการอัพสกิล การออกไอเทม หรือจะเป็นสเต็ปการเล่นตั้งแต่ต้นจนจบเกมก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งวิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีลัดที่สุดในการศึกษาการเล่นฮีโร่แต่ละตัวเลยก็ว่าได้ แล้วเมื่อวันใดวันหนึ่งที่ตัวเกมมีการเปลี่ยนแปลง กลุ่มแรกที่สามารถโชว์สิ่งที่ตัวเกมเปลี่ยนไปได้ดีขึ้นก็คือกลุ่ม Pro Player เหล่านี้นี่แหละครับ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นแนวทางการเล่น Dota 2 ในปี 2021 ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแนวทางคร่าวๆ ที่อยากจะบอกกับเหล่าผู้เล่นหน้าใหม่หรือผู้ที่ร้างสนามมานาน สามารถนำไปใช้กันได้ตามสะดวกเลยนะครับ