MSI MAG Infinite S3 11SA-033TH เป็นเดสก์ท็อปพีซีเกมมิ่ง หรือพีซีสำเร็จรูปตัวแรง ที่เหมาะกับเกมเมอร์ที่เริ่มต้นกับความสนุกบนเกมระดับ AAA หรือชอบการเล่นเกมแนวแอ็คชั่น FPS ที่มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม และขุมพลังจากซีพียู Intel Core i5 Gen 11 และกราฟิกการ์ด GeForce GTX1650 และแรม DDR4 3200 ความจุ 16GB เพิ่มความลื่นไหลด้วย SSD ในแบบ M.2 ความเร็วสูง และให้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home มาในตัว พร้อมใช้งาน กับการออกแบบทิศทางลมและระบบระบายความร้อนที่ทรงพลังมาให้ เพื่อให้เล่นเกมและทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และความสวยงามของแสงไฟ RGB ที่ใช้ร่วมกับ Mystic Light ได้เต็มที่ ภายในแพ็คเกจทาง MSI ยังได้จัดเมาส์ คีย์บอร์ดเกมมิ่ง ให้กับผู้ใช้ได้เล่นเกม ไม่ต้องไปซื้อหามาเพิ่ม โดยในซีรีส์ของ MAG Infinite S3 นี้ มีด้วยกัน 3 ตัวเลือก ประกอบด้วย
จุดเด่น
ข้อสังเกต
MSI MAG Infinite S3 11SA-033TH | Description |
Processor | Intel Core i5-11400F |
M/B | MSI H510M PRO |
RAM | DDR4 3200 16GB (Single) |
Storage | WD SN530 512GB |
Graphic card | MSI GeForce GTX1650 GDDR5 4GB |
Network | Intel® Wi-Fi 6E Intel I219-V 1Gbps LAN |
Port connector | Front I/O: USB 3.2 Gen1 Type-A และ Type-C, Mic-In, Headphone-out Rear I/O: 2x USB3.2 Gen1 Type-A 4x USB 2.0 Type A 1x PS/2 Combo port 1x VGA (D-sub) 1x HDMI out 1x Display Port out 1x RJ45 (1GLAN) 3x Audio jacks |
Fan | 120x120mm |
OS | Windows 11 Home |
Warranty | 3 Years |
Price | 33,900 Baht |
ในแง่ของดีไซน์ MSI MAG Infinite S3 11SA-033TH รุ่นนี้ ทำออกมาได้ค่อนข้างกระทัดรัด เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความคล่องตัว ไม่เปลืองพื้นที่บนโต๊ะทำงาน เพราะไซส์ต้องเรียกว่าเล็กกว่าเคสขนาด Mid-Tower อยู่พอสมควร มิติระดับ (H) 41 x (W) 17.5 x (L) 42cm ทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวก หรือคนที่มีพื้นที่จำกัด เช่นในสำนักงาน หรือที่พักอาศัยที่ไม่กว้างมากนัก พีซีรุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว
ด้านหน้าออกแบบมาดูหวือหวา ตามสไตล์ของเกมมิ่งพีซีจากทาง MSI ซึ่งเท่าที่เข้าไปดูข้อมูลจากทีมออกแบบ เค้ามีคอนเซปต์เพื่อมอบความโดดเด่น กับเส้นสายที่สลับไปมาระหว่าง ลวดลายที่เป็นเหมือนอลูมิเนียมแบบปัดเสี้ยน ตัดกับส่วนที่มีความเงางาม และยังแฝงด้วยฟังก์ชั่นในการระบายความร้อน ตามช่องระบายอากาศด้านหน้า ที่เป็นแนวทะแยง พร้อมปุ่มเพาเวอร์ตรงกลาง ซ้อนลายให้ดูมีมิติ และใช้แสงไฟมาคั่นตรงขอบด้านล่าง สะดุดตากับโลโก้สีแดงสดของทาง MSI บนพื้นสีดำ
ด้านข้างจากที่เห็นนี้ จะเป็นแบบเปิดโชว์ให้เห็นด้านในได้ชัดเจน แบ่งส่วนกันระหว่างด้านบนที่เป็นฝาข้างใส แต่เป็นแบบอะคลิลิค ส่วนด้านล่างเป็นตะแกรงโลหะ ทำเป็นช่องอากาศในการถ่ายเทความร้อน ซึ่งในแง่ของความสวยงาม ก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ดีก็น่าจะทำเป็นกระจกเทมเปอร์ จะงามขึ้นอีกเยอะ แต่ถ้าใครไม่อยากเปิดโชว์แบบนี้ ก็มีฝาปิดทึบมาให้เปลี่ยนได้เช่นกัน
ด้านข้างทางขวา จะปิดทึบทั้งหมด เพราะเป็นส่วนของการจัดเก็บสายไฟและสายสัญญาณ
ด้านหลังจะออกมาหน้าตาแบบนี้ ซึ่งมีพอร์ตต่างๆ ที่เป็น Back I/O มาให้ และพอร์ตแสดงผลจากการ์ดจอ เพิ่มเติมเข้ามาคือ จุดที่ใช้ต่อเสา WiFi Antenna มาให้
ด้านใต้ของพีซี MSI รุ่นนี้ จะเห็นว่าหน้าและหลัง จะไม่ได้เสมอกัน ด้านหน้าจะเชิดสูง ด้านท้ายเคสจะเตี้ยกว่า นั่นเป็นผลดีต่อการระบายความร้อนภายใน และเพาเวอร์ซัพพลายที่ติดตั้งมาบนเคส พร้อมฐานที่ยกระดับขึ้นอีกประมาณ 2cm ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น พร้อมกันนี้ยังมียางกันรอยและยึดกับพื้นโต๊ะได้เป็นอย่างดีทั้ง 2 จุด หน้าและหลัง จุดนี้ถือว่า MSI ออกแบบมาได้ถูกใจเกมเมอร์ที่เล่นนานๆ
บริเวณ Front Panel ประกอบด้วย แจ๊ค 3.5mm สำหรับหูฟังและไมโครโฟน รวมถึงพอร์ต USB 3.2 Type-A และ Type-C และไฟสถานะสีขาวเท่านั้น
ด้านบนของเคสเป็นพัดลมขนาดใหญ่ 120mm ทำหน้าที่ในการดูดลมร้อนจากซีพียู และภายในระบบ ออกสู่ภายนอก ผ่านช่องระบายอากาศ ซึ่งทำหน้าที่ได้ดี แต่ถ้ามีตะแกรงกรองฝุ่นมาให้อีกนิดก็จะดีมากๆ
ปุ่มเพาเวอร์ด้านหน้า ดูแล้วมีความแปลกตา คล้ายกับดวงตาของหุ่นในภาพยนตร์ และตรงกลางจะมีไฟสีขาว เปิดทำงานระบบด้วยการกดปุ่มจากตรงนี้ได้เลย ตะแกรงด้านข้าง ทำหน้าที่เป็นช่องลมขาเข้าในเคส
โลโก้สีแดงของ MSI บนพื้นสีดำ ดูสะดุดตา ทำให้ด้านหน้าเคส ดูน่าสนใจมากขึ้น นอกจากเส้นสาย และแสงไฟ RGB ที่แถบด้านหน้าเครื่อง
เมื่อเซ็ตระบบทุกอย่างเรียบร้อย MSI MAG Infinite S3 11SA-033TH ก็พร้อมทำงานและเล่นเกมแล้ว โดยที่พีซีรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home ให้เรียบร้อย ไม่ต้องไปหาติดตั้งเพิ่มแต่อย่างใด
พอร์ตต่อพ่วงด้านหน้า (Front panel) ประกอบด้วย พอร์ต USB 3.2 Type-A และ Type-C, มีแจ๊ค 3.5mm สำหรับไมโครโฟนและหูฟัง รวมถึงแสงไฟสถานะของระบบ
ด้านหลังจัดเต็มสำหรับเกมเมอร์ เริ่มตั้งแต่ I/O ของเมนบอร์ด DisplayPort, USB 2.0, PS/2, USB3.2, RJ-45, Audio ถัดลงมาด้านล่างจะเป็นพอร์ตแสดงผลที่มากับกราฟิกการ์ด โดยมีทั้ง DVI, HDMI และ DisplayPort ครบถ้วน
เปิดฝาข้างดูภายใน จะเห็นได้ว่าพื้นที่ด้านใจค่อนข้างโล่งดีทีเดียว และยังมีพื้นที่ให้ผู้ใช้ได้ติดตั้งฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมเข้าไปได้ สามารถอัพเกรด Storage เพิ่มเติมได้อีก 3 จุดหลักๆ ด้วยกันคือ SSD SATA หรือ HDD 2.5″ และ HDD 3.5″ ที่บริเวณด้านล่าง
เป็นเมนบอร์ดในแบบ mATX ขนาดกระทัดรัด แต่มีฟังก์ชั่นมาให้ครบ ทั้งสล็อต M.2 และสล็อต PCI-Express สำหรับกราฟิกการ์ด
MSI ติดตั้งแรม DDR4 3200 มาให้ 1 สล็อต ความจุ 16GB เป็นแรมจาก Samsung ไม่มี Heat spreader มาแต่อย่างใด และสามารถอัพเกรดเพิ่มได้อีก 1 สล็อต ซึ่งรวมกันแล้วสูงสุดที่ 64GB แนะนำว่าหาก 16GB อีกหนึ่งแถวมาใส่ ให้ระบบทำงานแบบ Dual-channel จะเร่งประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น
สล็อต M.2 ที่มีให้กับผู้ใช้ และทาง MSI ติดตั้ง SSD M.2 NVMe PCIe มาให้ความจุ 512GB จากทาง WD ในรุ่น SN530
และหากจะอัพเกรดกราฟิกการ์ดในวันข้างหน้า ก็ยังมี Connector ที่เป็นแบบ 6+2 pins มาให้อีก 2 ชุด ซึ่งสามารถติดตั้งกราฟิกการ์ดในกลุ่ม GeForce GTX1600 series และ Radeon RX500 series และ RX5000 series ในรุ่นเริ่มต้นได้ไม่ยาก
พื้นที่ด้านในที่ติดกับฝาด้านหลัง รองรับ HDD 2.5″ หรือ SSD SATA ได้อีก 2 ตัว
ด้านล่างนี้ยังสามารถติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 3.5″ ได้อีก 1 ตัว และด้านบนที่เป็น SSD SATA อีก 1 ตัวด้วยกัน กว้างขวางดีทีเดียว
เพาเวอร์ซัพพลายจากทาง FSP การจ่ายไฟที่ 500W ในรุ่น FSP500 เป็นแบบถอดสายไม่ได้ มาพร้อมสายถักอ่อนสีดำ จ่ายไฟ +12V ได้ที่ 41.66A ซึ่งเหมาะกับซีพียูระดับเริ่มต้นและระดับกลาง รวมถึงกราฟิกการ์ด ที่เป็นเกมเมอร์เริ่มต้น
ของที่บันเดิลมาด้วยบนพีซี MSI MAG Infinite S3 11SA-033TH รุ่นนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะมีทั้งเกมมิ่งเมาาส์และคีย์บอร์ดมาให้แบบยกแพ๊ค เอามาใช้งานได้ทันที ที่สำคัญยังมีแสงไฟ RGB เพิ่มเติมมาให้อีกด้วยซิงก์เข้ากับ Mystic Light ได้อย่างสวยงาม
โดยชุดเมาส์คีย์บอร์ดเกมมิ่งนี้ เป็นรุ่น VIGOR VK30 เป็นกึ่งแมคคานิคัลคีย์บอร์ด ให้ความทนทาน กันละอองน้ำ และมีแสงไฟที่ปรับแต่งได้ อยู่บริเวณรอบๆ ปุ่ม และปรับแต่งได้ อัตราการกดอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านครั้ง น้ำหนักเบา ใช้งานสะดวกทีเดียว
ส่วนเกมมิ่งเมาส์ที่มีมาด้วยนี้ เป็นรุ่น MSI CLUTCH GM11 มาพร้อมเซ็นเซอร์ PWM-3325 ให้ และสวิทช์ของ OMRON ให้ความทนทาน ปรับแสงไฟได้ถึง 7 โหมดด้วยกัน พร้อมปุ่มในการทำงานมากมาย ปรับแต่งและตั้งมาโครได้ พร้อมปรับ DPI ได้ถึง 5 ระดับสูงสุดที่ 5000DPI ใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและขวา ขนาดกระทัดรัด เหมาะกับมือผู้ชายและผู้หญิง พร้อมการซิงก์กับ MSI Center ได้อีกด้วย
และด้วยเซ็ตคอมที่เป็นพีซีจากทาง MSI การสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์ ก็มีครบจัดเต็มมาให้ ไม่ว่าจะเป็น MSI Mystic Light ที่ใช้ปรับแต่งแสงสีให้กับเกมมิ่งพีซี MSI MAG Infinite S3 รุ่นนี้ ช่วยเพิ่มความสวยงามด้วยเอฟเฟกต์แสงสีที่มีให้เลือกได้ถึง 10 โหมดด้วยกัน
นอกจากนี้แล้วยังมี MSI Dragon Center ที่มาแบบครบเครื่อง ให้ผู้ใช้ตรวจเช็ค ปรับแต่ง จูนอัพอีกด้วย มีด้วยกัน 6 ฟังก์ชั่น ประกอบด้วย Game Mode, User Scenario, Monitor, True Color, Mystic Light และ Gaming Gear ตัวอย่างนี้จะเป็น การปรับแสงไฟ RGB ให้กับคีย์บอร์ด MSI VIGOR GE10 ที่บันเดิลมากับพีซีเครื่องนี้ด้วย
เช่นเดียวกับเกมมิ่งเมาส์ MSI CLUTCH GM11 ที่มีไฟ RGB รอบตัว ให้ปรับแต่งในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณได้อย่างสวยงาม และยังจัดเก็บเป็นโพรไฟล์ได้ถึง 3 Profile ด้วยกัน
แต่จุดที่เป็นไฮไลต์ที่น่าสนใจคือ ผู้ใช้ยังเลือกเปิดการใช้งาน Hardware Monitor ในการตรวจเช็คความเร็ว สัญญาณนาฬิกา อุณหภูมิ รวมถึงรอบพัดลมและแรงดันไฟ ของซีพียู เมนบอร์ด แรมและชิปเซ็ตได้อีกด้วย มาในรูปแบบของกราฟ ให้ดูได้ง่ายขึ้น เพียงเลื่อนแถบ Hardware Monitor ทางด้านขวาบน เพื่อเปิดการทำงานเท่านั้น เหมาะอย่างยิ่งทั้งเกมเมอร์และคนทำงาน
ในส่วนของ User Scenario มีโหมดให้เลือก 4 รูปแบบ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน จะเน้นที่ Performance หรือลดเสียงให้พัดลมทำงานเบาลง ก็ใช้ Silent Mode ได้เช่นกัน หรือจะ Customize ในแบบที่ชอบก็ได้
นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งแสงไฟ RGB ผ่านทาง Mystic Light บน MSI MAG Infinite S3 รุ่นนี้ได้อีกด้วย พร้อมทั้งมีเอฟเฟกต์แสงในรูปแบบต่างๆ ให้เลือกมากมาย และยังปรับเปลี่ยนร่วมกับคีย์บอร์ดและเมาส์ในรุ่นที่รองรับได้อีกด้วย เพิ่มความสวยงามให้กับโต๊ะคอมของคุณได้อย่างมีสไตล์
ในแง่ของการทดสอบ MSI MAG Infinite S3 11SA มาพร้อมสเปคที่เรียกว่า สำหรับเกมเมอร์ในระดับเริ่มต้น เรามาดูกันว่า ประสิทธิภาพที่ได้จากการทดสอบต่างๆ บนพีซีเครื่องนี้ จะเป็นอย่างไรกันบ้าง ซึ่งมีทั้งในส่วนของการทดสอบพื้นฐาน ไปจนถึงการทำงานและการเล่นเกม
CPU-z ซีพียูที่ติดตั้งมาบนพีซีเครื่องนี้ มาพร้อมกับ Intel Core i5-11400F ความเร็วสูงสุด 4.4GHz ทำงานในแบบ 6 core/ 12 thread
มาคู่กับเมนบอร์ด MSI H510M PRO สนับสนุน PCI-Express 3.0 x16 และติดตั้งแรม DDR4 3200 16GB แถวเดียว ทำงานในแบบ Single-channel
แรม DDR4 3200 จากทาง Samsung โดยใช้กราฟิกการ์ด nVIDIA GeForce GTX1650 โดยมี VRAM GDDR5 4GB สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมในระดับเริ่มต้นได้เป็นอย่างดี
เริ่มการทดสอบซีพียูที่ติดตั้งมาพีซี MSI รุ่นนี้ที่เป็น Intel Core i5-11400F เทียบกับอดีตรุ่นพี่อย่าง Intel Core i7-8700K ในการทำงานแบบ 6 core/ 12 thread เช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่าในส่วนของ Single Thread ทำได้แบบสูสี แต่ในแง่ของ Multi-Thread กลับแซงหน้ารุ่นพี่ Core i7 ไปอย่างสวยงาม ด้วยคะแนน 4,364.3 points ซึ่งถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย
ในด้านของกราฟิกการ์ดที่ติดตั้งมานี้ เป็น nVIDIA GeForce GTX1650 GDDR5 4GB ที่จัดว่าเป็นเกมการ์ดในระดับที่เหมาะกับการเล่นเกม และใช้งานด้านกราฟิกต่างๆ ในระดับเริ่มต้น ส่วนในแง่ของประสิทธิภาพ สามารถชมข้อมูลการทดสอบต่างๆ ต่อไปนี้ได้เลย
การทดสอบความเร็วของ SSD ที่มีมาให้บน MSI MAG Infinite S3 11SA เป็น WD SN530 ในแบบ M.2 NVMe PCIe และผลที่ได้คือ การอ่านข้อมูลอยู่ที่ 2,484MB/s และการเขียน 1,797MB/s อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของ SSD ระดับเดียวกัน สามารถอัพเกรดด้วยการเปลี่ยนโมดูลใหม่ได้ในภายหลัง
มาที่การทดสอบ PCMark10 สำหรับดูความสามารถโดยรวมของระบบ ซึ่งผลออกมาคะแนนรวมอยู่ที่ 5,840 คะแนน เป็นตัวเลขที่จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอสมควร เมื่อเทียบกับพีซีในระดับสเปคใกล้เคียงกัน
มาดูที่ 3DMark กันบ้าง ในการทดสอบ Time Spy อยู่ที่ 3567 คะแนน โดยตัวเลข CPU score 5539 คะแนน ตัวเลขกราฟิกของการทดสอบอยู่ที่ราว 20fps แต่ตัวเลขนี้เป็นการทดสอบบนโหมด 1440p จัดว่าทำได้น่าสนใจ
ส่วนการทดสอบบน Fire Strike ตัวเลขรวมอยู่ที่ 8153 คะแนน ในส่วนของ Graphic score เฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 39-40fps เลยทีเดียว
คะแนนการทดสอบบน Ice Storm Extreme ในโหมด 1080p คะแนนรวมอยู่ที่ 134688 คะแนน ตัวเลข Graphic score สูงถึง 182767 คะแนน
สุดท้ายกับการทดสอบ Sky Diver ทำตัวเลขออกมาได้ดีเช่นเดียวกัน กับคะแนนรวม 24622 คะแนน และมี Graphic score อยู่ที่ 29734 คะแนน
มาดูที่การทดสอบเล่นเกมบน DOTA2 ที่อาจจะดูว่าเป็นเกมวางแผน MMORPG แบบที่ไม่ซับซ้อน แต่ถ้าอยากได้ภาพสวยๆ ก็ต้องแลกกับสเปคที่ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งตัวอย่างภาพแรกนี้ เป็นการตั้งค่า Best Looking ที่เน้นความสวยงามเป็นหลัก แต่เกมมิ่งพีซีจาก MSI รุ่นนี้ ก็ให้เฟรมเรตได้มากกว่า 80-95fps เลยทีเดียว ใครที่เล่นเครื่องนี้ เปิดโหมดดังกล่าว ได้ทั้งภาพสวยและลื่นไหลดีทีเดียว
แต่ถ้าใครมองว่าต้องการให้ลื่นแบบสุดๆ แต่ไม่เน้นคุณภาพมากมายนัก ประหยัดทรัพยากร การปรับแบบ Fastest ก็ทำให้เฟรมเรตในบางจังหวะสูงกว่า 120fps หรืออย่างน้อยๆ ค่าเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 100fps ซึ่งถือว่าไหลลื่น เล่นกับจอรีเฟรชเรตสูงได้ไม่ยาก
มาที่เกมแอ็คชั่นในแบบ Battle Royale อย่าง PUBG กันบ้างบนความละเอียด Full-HD 1080p โดยเริ่มต้นกับการตั้งค่าแบบ Low setting เฟรมเรตไปแตะๆ อยู่ที่ 75-80fps โดยประมาณ มีหล่นลงมาบ้างเล็กน้อย แต่ในภาพรวมถือว่าทำได้ดี
ต่อมาเป็นการตั้งค่า Low settings เช่นเดียวกัน แต่ปรับในส่วน Render Scale เพื่อการมองเห็นทิวทัศน์และศัตรูในระยะไกลได้ดีขึ้น เฟรมเรตลงมาอยู่ที่ 43-51fps. โดยประมาณ ยังถือว่าเป็นโหมดที่เหมาะกับการเล่น เพราะภาพดูมีรายละเอียดและความคมชัดที่ดีในระดับหนึ่ง
มาดูในแง่ของการตั้งค่าแบบ Ultra กันบ้าง บนโหมด Full-HD 1080p เรียกว่าออกมาสวยงาม เฟรมเรตมีขยับลงไปที่ 40fps. อยู่บ้าง และสูงสุดไปเกือบ 50fps. เลยทีเดียว ตอบโจทย์คนที่ชอบความสวยงามสมจริงมากขึ้น
เรามาลองกันอีกโหมดนั่นคือ High settings 1080p และตั้งค่า Render scale ให้สุดที่ 120 บอกเลยว่าเป็นโหมดที่เหมาะกับการเล่นเกมนี้สุดๆ เพราะได้รายละเอียดที่ดี ภาพรอบตัวยังคมชัด ที่สำคัญโอกาสการเล็งยิงระยะไกลแบบหวังผลได้ ก็ถือว่าตอบโจทย์ เฟรมเรตเฉลี่ยอยู่ที่ราว 43fps. เลยทีเดียว
ในการทดสอบด้วยเกมที่โหดขึ้นมาอีกนิด เรียกว่าเป็นตัวแทนของเกม Action FPS หลายๆ เกมในเวลานี้ได้ นั่นคือ Battlefield V ในโหมดแรกนี้ทดสอบ Low settings เฟรมเรตไปได้เกือบ 100fps และต่ำลงมาที่ประมาณ 87-95fps. โดยประมาณ และหล่นไปจาก 90fps. อยู่บ้าง ในฉากที่มีการโจมตีหนักๆ แต่โดยรวมก็ถือว่าลื่นไหลดีทีเดียว
ขยับมาเราปรับให้โหดขึ้น เพื่อเอาใจคอเกมที่รักความสวยงามสมจริงในโหมด Ultra settings แบบจัดเต็ม โดนกระชากเฟรมเรตหล่นมาที่ราว 56-62fps. ไม่แกว่งมากนัก เพราะซีพียูยังไปไหว และแรมยังเหลือเฟือในการใช้งาน สำหรับใครที่ใช้จอที่เป็น Adaptive Syne หรือ G-Sync แนะนำให้เปิดโหมดนี้ เพราะจะทำให้ได้ภาพที่นิ่ง ลื่นไหล สวยงามดีทีเดียว
ใช้เวลาในการเรนเดอร์วีดีโอ Full-HD 1080p ความยาววีดีโอประมาณ 8.10 นาที ใช้เวลาประมาณ 55 วินาทีเท่านั้น
จากในส่วนของการทดสอบในการทำงานและเล่นเกมกันไปแล้ว เรามาดูการทดสอบอุณหภูมิด้วยการรีดความเร็วของซีพียูให้สุดกับ Process 100% เป็นระยะเวลาประมาณ 10 นาที อุณหภูมิจาก Idle บนระบบปฏิบัติการอยู่ที่ราว 35-36 องศาเซลเซียส ขยับไปอยู่ที่ 57-59 องศาเซลเซียส โดยเฉลี่ย และสูงสุดที่ 61 องศาเซลเซียสอยู่เล็กน้อยเท่านั้น จัดว่าฮีตซิงก์ที่ติดตั้งมาด้วยนี้ และการจัดองค์ประกอบระบายความร้อนภายในได้ผลดีทีเดียว
ระบบการถ่ายเทความร้อนในเคสรุ่นนี้ ออกแบบมาให้ลมเข้าได้ 5 ทิศทางคือ ด้านหน้า ด้านข้างซ้าย ด้านใต้ ด้านหลังเคสและด้านข้างที่เป็นช่องตะแกรง จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของความร้อนมากนัก
มาสรุปความน่าสนใจบน MSI MAG Infinite S3 11SA-033TH รุ่นนี้กัน เริ่มแรกต้องบอกว่าการออกแบบที่กระทัดรัด ในรูปทรงที่แปลกตา แต่มีคอนเซปต์ที่น่าสนใจ รวมถึงการระบายความร้อนที่ดี ถือว่าเป็นเสน่ห์ของพีซีเครื่องนี้ โดยในแง่ของประสิทธิภาพ ก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับราคา เพราะได้ซีพียูในระดับ Intel Core i5 และกราฟิกการ์ด GeForce GTX1650 และแรมที่มากถึง 16GB รองรับการอัพเกรดได้อีกด้วย และถ้าให้ดีสำหรับคนที่จะใช้อัพเกรดอีก 16GB ใส่อีกสล็อตที่เหลืออยู่ ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพให้อีกพอสมควร นอกจากนี้สีสันแสงไฟต่างๆ ยังปรับแต่งได้ผ่านทางซอฟต์แวร์อีกด้วย กับความแรงที่มีอยู่ในเครื่องนี้เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งในด้านการทำงาน ท่องเว็บ เทรดคริปโต รวมถึงการเล่นเกม และที่น่าสนใจคือ MSI ยังให้เมาส์คีย์บอร์ดในแบบเกมมิ่งมาอีกด้วย พร้อมทั้ง Windows 11 มาในตัว หาแค่หูฟังเกมมิ่งสักรุ่น ก็ครบชุดให้คุณเล่นเกมได้ยาวๆ แล้ว หากใครสนใจสามารถดูข้อมูลจากทาง MSI ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
MSI Infinite S3 ราคาเริ่มต้น 33,900 บาท – https://th.msi.com/Desktop/MAG-Infinite-S3-11th
ซื้อสินค้า MSI ได้ที่ https://msi.gm/nbsWTB
ติดตามโปรโมชั่นจาก MSI ได้ที่ https://msi.gm/Promotionth
รับ Steam Code มูลค่า 20USD ฟรี! เมื่อร่วมกิจกรรม MSI Shout Out แชร์ประสบการณ์ใช้สินค้า MSI รายละเอียดเพิ่มเติม: https://msi.gm/ShoutOutTH
เลือกจอเกมมิ่งที่เหมาะสำหรับตัวคุณได้ที่นี่ : https://msi.gm/BestGamingMonitorTH
MSI Facebook: https://www.facebook.com/MSIGamingThailand MSI Call Center: 02 409 2984 (8.30 – 17.30 น.)
“เครือซีพี” เบื้องหล…
This website uses cookies.