MSI MPG ARTYMIS 323CQR เป็นอีกหนึ่งจอเกมมิ่งระดับ Esport ที่มีดีกรีความร้อนแรง โดย ARTYMIS นี้เป็นซีรีย์จอโค้งระดับ 1000R ของทาง MSI มีให้เลือกตั้งแต่ 24 นิ้วไปจนถึง 34 นิ้ว โดยรุ่นที่เราได้มาทดสอบนี้ เป็นขนาดจอที่ใหญ่ 32″ WQHD 2560x1440p ที่อัตรารีเฟรชเรต 165Hz ให้ค่าความสว่างถึง 400nits และมีขอบเขตสีที่สูงถึง 89.8% DCI-P3 และ 113% sRGB ปรับเลื่อนให้เข้ากับสรีระในการใช้งานได้ พร้อมการเป็น จอโค้งในระดับ 1000R ซึ่งเป็นโค้งกระชับสายตาแบบที่สมจริงมากที่สุด (Human Eye) เหมาะกับไซส์ของหน้าจอในระดับนี้ ฟังก์ชั่นที่เอาใจเกมเมอร์ เช่น Mouse sling และที่แขวนหูฟัง เพิ่มความสวยงามให้กับด้านหลังของจอภาพ ด้วยแสงไฟ RGB ที่ปรับแต่งได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ โดยมีฟีเจอร์สำหรับคอเกมแบบแน่นๆ อีกเพียบ #MSI
| Description | |
| PANEL SIZE | 31.5″ (80 cm) |
| PANEL RESOLUTION | 2560 x 1440 (WQHD) |
| REFRESH RATE | 165Hz |
| RESPONSE TIME | 1ms (MPRT) |
| PANEL TYPE | VA |
| BRIGHTNESS (NITS) | 400 |
| VIEWING ANGLE | 178° (H) / 178° (V) |
| CURVATURE | 1000R |
| CONTRAST RATIO | 2500:1 |
| ACTIVE DISPLAY AREA (MM) | 697.344 (H) x 392.256 (V) |
| SURFACE TREATMENT | Anti-glare |
| DISPLAY COLORS | 1.07B(8bit + FRC) |
| DCI-P3 / SRGB | 89.8% / 113% |
| VIDEO PORTS | 1x DP(Supports WQHD@165Hz as specified in DisplayPort 1.2a) 2x HDMI(Supports WQHD@165Hz as specified in HDMI2.0b) |
| VESA MOUNTING | 100 x 100 mm |
| HDR SUPPORT | Yes, HDR 400 |
| SIGNAL FREQUENCY | 30~160 KHz(H) / 60~165 Hz(V) |
| ADJUSTMENT (TILT, SWIVEL,HEIGHT) | -5° ~ 20°, -30° ~ 30°, 0 ~ 100mm |
| DIMENSION (W X H X D) | 701.4 x 317.7 x 473.4 mm |
| WEIGHT | 9 kg |
| Note | Display Port: 2560 x 1440 (Up to 165Hz) HDMI: 2560 x 1440 (Up to 144Hz) Type C. 2560 x 1440(Up to 165Hz) *sRGB and DCI-P3 follow CIE1976 standard |
มาในโทนสีดำ และขอบบางพิเศษ เป็นแบบที่เรียกว่า Frameless design คือลดขนาดขอบ ให้มีพื้นที่ในการแสดงผลมากขึ้นทั้ง 3 ด้าน มีเพียงด้านล่างเท่านั้น ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง
ด้านล่างนี้เอง ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ อย่าง Smart Brightness 2.0 เซ็นเซอร์ปรับระดับแสงในตัว และมีโลโก้ MSI สีขาวอยู่ทางมุมล่างซ้ายของหน้าจอเท่านั้น ค่อนข้างดูสบายตาเลยทีเดียว
ด้วยการที่เป็นจอภาพแบบโค้ง จึงทำให้โครงสร้างไม่ได้บางลงมากนัก เน้นให้ความแข็งแรงในการใช้งาน โดย MSI จัดลูกเล่นอย่าง ที่แขวนหูฟังมาให้ด้านข้างขวา สามารถกดปุ่มเพื่อดึงออกมาใช้งานได้ และดันกลับเมื่อเลิกใช้
MSI MPG ARTYMIS 323CQR ใช้ฐานในแบบ Y ตามสมัยนิยม ที่ให้สมดุลในการรับน้ำหนัก สำหรับจอขนาด 32” แบบนี้ และข้อดีคือ หมุนจอซ้ายขวาได้สะดวก ไม่เปลืองพื้นที่บนโต๊ะทำงานมากนัก เพราะยังเหลือไว้สำหรับวางคีย์บอร์ด และอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย
ด้านหลังที่ดูบึกบึนแข็งแรง และยังมาพร้อมกับเส้นแสงไฟ RGB และโลโก้ที่อยู่มุมบน ซึ่งซิงก์แสงไฟได้อย่างสวยงาม ปรับแต่งได้ง่ายๆ ด้วยซอฟต์แวร์ OSD Gaming 2.0
มุมมองจากด้านข้าง ทำให้เห็นเลยว่า MSI เน้นโครงสร้างที่ให้ความแข็งแรง เพื่อให้รับกับตัวจอได้เป็นอย่างดี สัดส่วนที่ดูหนาขึ้น เป็นเพราะส่วนโค้งของหน้าจอ มีขาตั้งขนาดใหญ่ และถ่ายน้ำหนักลงตัวฐาน ที่เป็นตัว Y ซึ่งดูแล้วลงตัวทีเดียว
ดีไซน์แบบคาร์บอนเคฟลาร์ ที่อยู่ด้านบน ซึ่งทำให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ใครที่ชอบโชว์ด้านหลังจอออกข้างนอก MSI รุ่นนี้ ตอบโจทย์คุณได้ชัดเจน
แถบด้านข้าง ที่เป็นโลโก้รูปมังกร อันเป็นสัญลักษณ์ของทาง MSI Gaming ไม่ได้เป็นเพียงโลโก้ธรรมดา แต่มาพร้อมกับแสงไฟ RGB ปรับแต่งได้ผ่านทางซอฟต์แวร์เช่นกัน
สามารถคลิ๊กที่โลโก้ RGB บนซอฟต์แวร์ เพื่อเข้าสู่รูปแบบการปรับแต่งแสงไฟ RGB ซึ่งมีโพรไฟล์หรือรูปแบบแสงให้ถึง 10 แบบด้วยกัน ปรับได้แบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับโต๊ะเล่นเกมของคุณ
มุมล่างซ้ายมาพร้อมกับ 5-way OSD navigation Joystick ที่ใช้ในการตั้งค่า OSD พร้อมปุ่มเพาเวอร์และ Gaming Mode เพื่อเป็นคีย์ลัดเข้าสู่โหมดหน้าจอสำหรับการเล่นเกมได้ทันที
ในภาพรวมการออกแบบ ดูมีการเติมแต่งเพิ่มฟังก์ชั่น เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ได้มากพอสมควร ซึ่งดูแล้วเกมเมอร์ จะได้ใช้งานกันสนุกสนานมากขึ้น นอกเหนือจากฟีเจอร์ที่มีมาให้ จัดเป็นอีกซีรีส์หนึ่งที่ออกมาได้โดนใจใครหลายคน
ด้านหลังของจอ จัดเตรียมมาแบบล้ำสมัย ด้วยแถบลายเคฟลาร์ที่อยู่ด้านบน มีเฉดของไฟ RGB พาดผ่านตรงกลาง ตัดกับด้านล่างที่เป็นลายอะลูมิเนียมปัดเสี้ยน และมีโลโก้เรืองแสง RGB ซึ่งซิงก์กับ MSI MYSTIC Light มาด้วย
ที่แขวนหูฟัง ซึ่งทำมาเป็นพิเศษ เอาใจคอเกม อยู่ทางด้านข้างขวาของจอภาพ โดยถูกซ่อนเอาไว้ สามารถกดปุ่มเพื่อดึงออกมาใช้งานได้ และดันกลับเมื่อเลิกใช้ เป็นดีไซน์ที่ดูลงตัวทีเดียว
นอกจากนี้ MSI MPG ARTYMIS 323CQR รุ่นนี้ ยังได้เพิ่มลูกเล่นพิเศษ Mouse sling มาให้ในการแขวนสายเมาส์ ไม่ให้เกะกะในการเล่นเกม สามารถย้ายไปไว้ได้ทั้งด้านซ้ายและขวา ตามถนัด
ขาตั้ง ถูกดีไซน์ให้ดูล้ำสมัยเข้ากับตัวจอได้ดี ปรับเลื่อนขึ้นลงได้ และยังมีช่องสำหรับลอดสายไฟและสายสัญญาณ เพื่อความเป็นระเบียบมากขึ้น จุดนี้ถือว่าทำได้ดี เพราะถ้าจะใช้จอนี้อย่างเต็มรูปแบบ ก็จะต้องมีสายอย่างน้อยๆ 3 เส้น คือ สายสัญญาณ, สายไฟ, สาย USB เพื่อใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ Gaming OSD 2.0 เป็นต้น
สำหรับฟีเจอร์นี้ มีประโยชน์อย่างมาก เมื่อคุณต้องใช้งานในสถานที่ที่มีความต่างของแสงไฟ หรือมีแสงจากภายนอกมากระทบ หรือบางครั้งต้องใช้งานในที่แสงน้อย หน้าจอจะปรับเพิ่มหรือลดแสงให้พอเหมาะกับการใช้งาน และการตั้งค่าเดิมของคุณ เติมเต็มอรรถรสในการเล่นเกม พร้อมกับถนอมสายตา เพื่อให้การมองเห็นชัดเจน ไม่สว่างจ้ามากเกินไป หรือแสงน้อยจนมองไม่ชัด โดยการใช้งานสามารถตั้งค่าได้จาก OSD settings เข้าไปที่โหมด G.I แล้วเลือกที่ Auto Brightness Control แล้วเลือก Auto ได้เลย
นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งจอภาพ ผ่านทางซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า MSI Gaming OSD 2.0 ได้อีกด้วย เป็นโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของ MSI ได้โดยตรง ซอฟต์แวร์นี้จะทำหน้าที่คล้ายกับ OSD settings ของหน้าจอ แต่ง่ายกว่า เพราะคุณจะสามารถใช้เมาส์ในการปรับ เลื่อน คลิ๊ก ได้ทันที และยังเป็นการปรับแบบ Real-time ได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งดีที่ทาง MSI เอาใจใส่ต่อผู้ใช้ และง่ายต่อการปรับแต่ง
สำหรับโปรแกรมดังกล่าวนี้ ดูจะได้รับการปรับปรุงให้มีฟังก์ชั่นมากขึ้น แต่ยังคงใช้งานได้ง่าย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบการเข้าไปปรับแต่งจากปุ่ม OSD ด้านหลังจอ ซึ่งยังสามารถปรับแต่งได้ง่ายดาย และทำงานในแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้เลือกปรับได้ตั้งแต่โพรไฟล์การใช้งาน ซึ่งจะรวมทั้งในส่วนของ Game Mode และ Professional เข้าด้วยกัน ทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้งานฟีเจอร์อย่าง Auto Brightness หรือ Smart Crosshair จะปรับแต่งหรือตั้งค่าการใช้งาน ง่ายกว่าเดิมเยอะเลย
ในแท็ป Tools ทางขวามือ จะเป็นฟังก์ชั่นในการปรับแต่งเมาส์ คีย์บอร์ด ด้วยการตั้งค่าความละเอียด ปรับความเร็ว รวมถึงการจัดการระบบพลังงาน การย่อ-ขยายแอพฯ บนวินโดว์ และการจัดการแสดงผลหน้าจอ เหมือนที่เรากด Win+P ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
Split Windows เป็นการจัดการหน้าจอ ด้วยการแบ่งหน้าต่าง หรือ Split Windows ให้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องไปคำนึงว่า เราจะต้องไปในรูปแบบการ Snap หน้าจออย่างไร แค่เลือกแอพที่ต้องการ 2-4 หน้าต่าง แล้วเลือกรูปแบบ Split ที่ต้องการได้ทันที เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่ง สำหรับคนที่ชอบใช้งานในแบบหลายๆ หน้าต่างพร้อมกัน ชื่นชอบ
KVM: ฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่มาพร้อมกับจอ MSI MPG ARTYMIS 323CQR ด้วยการลดความวุ่นวายในการต่อสายเมาส์ คีย์บอร์ด ในกรณีที่ต้องใช้คอมและโน๊ตบุ๊คพร้อมกันบนหน้าจอเดียว เพราะแค่คุณต่อเมาส์ คีย์บอร์ด เข้ากับจอโดยตรง ก็สลับการใช้งานพีซีและโน๊ตบุ๊คได้เลย ไม่ต้องซื้อเมาส์ คีย์บอร์ด 2 ชุด เป็นฟีเจอร์ที่ถูกเติมเข้ามาให้กับเกมเมอร์ สตรีมเมอร์ หรือแม้กระทั่งการทำงาน WFH ก็ยังสะดวก ช่วยให้การควบคุมพีซีหรืออุปกรณ์อื่นๆ ผ่านทางเมาส์ คีย์บอร์ดชุดเดียวเท่านั้น
เข้าไปดูตัวอย่างการใช้งานได้ที่ MSI
Sound Tune: สามารถตัดเสียงรบกวนได้ เพื่อการรับฟังเสียงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยการต่อสาย USB-C เข้ากับพีซีหรือโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานร่วมกัน ฟีเจอร์นี้ AI จะทำการคำนวณและจัดการเสียงในการสื่อสาร ให้มีความคมชัด ลดเสียงรบกวนจากภายนอก เพื่อการเล่นเกมเป็นทีมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ทั้งหูฟัง ลำโพง และไมโครโฟน
Smart Crosshair: ฟีเจอร์พิเศษ ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีจุดนำสายตา เพื่อให้ดูทิศทางด้านหน้าได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสมรภูมิที่มีการโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่ที่พิเศษก็คือ สามารถปรับสีของ Crosshair ให้ Contrast หรือโดดเด่น เปลี่ยนสีไปตามฉากที่เคลื่อนไหว
Smart Brightness 2.0: ปรับความสว่างของหน้าจออัตโนมัติ ด้วยเซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านหน้าของจอ
Console Mode: ให้คุณเชื่อมต่อการแสดงผลกับเครื่องเล่นเกมคอนโซลอย่างเช่น PS5 ได้ความละเอียดที่ตรงในระดับ 2K ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัด ต่างจากจอ 2K ทั่วไป PS5 จะลดความละเอียดเหลือเพียง FHD ทำให้ลดทอนคุณภาพลงไป
Certified DisplayHDR400: เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของจอ MSI MPG ARTYMIS 323CQR รุ่นนี้ กับภาพที่มีสีสันสดใสมากขึ้น เมื่อเทียบกับการไม่ได้เปิด HDR ซึ่งภาพที่ได้มีความลึกชัดในมิติ และการไล่เฉดสีได้อย่างสวยงาม ทำให้เห็นรายละเอียดของภาพได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม Battlefield V ที่รองรับการเปิดใช้งาน HDR หรือการชมภาพยนตร์ก็ตาม เรียกว่ามิติที่ได้แตกต่างกันอย่างชัดเจน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบความมีสีสันและเห็นรายละเอียดได้มากกว่าการใช้จอทั่วๆ ไปในการเล่นเกม
MSI MPG ARTYMIS 323CQR รองรับการปรับเลื่อนจอได้ตามปกติ และเกือบครบทุกรูปแบบ เพื่อให้เข้ากับสรีระของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ปรับความสูงได้ที่ระดับ 10cm สำหรับคนที่มีเก้าอี้ทำงานที่สูงขึ้นมาหน่อย ดูจะใช้งานได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องหาที่รองจอ และไม่ต้องก้มคอมาก จนเสียสุขภาพ กลางหน้าจอตรงกับระดับการมองได้พอดี
รองรับการปรับมุม Tilt หรือก้ม-เงย ได้ที่ -5 ถึง 20 องศา เหมาะทั้งการนั่งทำงาน หรือการยืนเพื่อใช้งานได้สะดวก ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่แกนหลักในการจับยึดจอ ที่ออกแบบมาแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดีทีเดียว
สามารถปรับหันซ้าย-ขวา ได้ด้านละ 30 องศา ในกรณีที่ต้องการแบ่งปันให้คนด้านข้างได้มองเห็นมากขึ้น
ไม่สามารถปรับ Pivot ในแบบ 90 องศาได้ เช่นเดียวกับในรุ่น MSI MPG ARTYMIS 343CQR เพราะเป็นจอโค้งที่เน้นการเล่นเกมเป็นหลัก
ในหน้าของ G.I มีฟีเจอร์สำคัญอย่าง Auto Brightness ใช้ร่วมกับเซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านหน้าของจอ ในการปรับเพิ่ม-ลดแสง ให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละสภาพแสงรอบตัว, KVM รวมถึง Smart Crosshair ที่เป็นตัวช่วยในการจับทิศทาง และยังปรับสีให้ตัดกับฉากได้อัตโนมัติ
ในหน้าของ Gaming คอเกมจะได้ประโยชน์ในส่วนนี้มากที่สุด เพราะมาพร้อมกับฟีเจอร์ Game Mode ที่มีตัวเลือกให้ปรับรูปแบบหน้าจอ เพื่อเข้ากับเกมที่เล่น เช่น FPS, RTS, Racing หรือ RPG เป็นต้น, หรือจะเป็นฟีเจอร์ Night Vision ที่ช่วยให้การมองเห็นฉากมืดในเกมได้ชัดเจน ซึ่งสร้างความได้เปรียบให้กับการเล่นไม่น้อยเลย
ส่วนหน้าของ Professional จะเป็นส่วนที่มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ เพราะใช้สำหรับการปรับแต่ง ที่มีผลต่อการใช้งาน โดยเฉพาะ Pro Mode ที่ใช้ในการปรับโพรไฟล์ของหน้าจอ เพื่อใช้งานในแบบที่ต่างกัน เช่น Movie, Office หรือจะเป็น sRGB ก็ตาม, Low Blue Light ลดแสงสีฟ้าให้คนที่ต้องจ้องจอคอมนานๆ ใช้งานได้สบายตามากขึ้น, HDCR, Image Enhancement เพิ่ม-ลดสี เพื่อปรับให้ดูสวยงามตามความต้องการ มีให้เลือกถึง 4 ระดับ
และในหน้าของ Image นั้น จะเน้นเรื่องของภาพเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ค่า Brightness, Contrast, Sharpness หรือ Color ก็ตาม
ส่วนหน้าของ Navi Key จะเป็นการกำหนดคล้ายๆ ปุ่มลัด เพื่อให้เข้าถึงเมนูและการปรับแต่งที่ใช้บ่อยๆ ได้ง่ายขึ้น
ในหน้า Settings จะเป็นการตั้งค่าพื้นฐานของหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น ภาษา ความโปร่งแสง แสงไฟ RGB ด้านหลัง หรือจะเป็นการตั้งค่าปุ่มต่างๆ
Game Mode: MSI MPG ARTYMIS 323CQR ให้คุณสามารถปรับให้เข้าตามเกมที่เล่นได้ เพื่อให้ได้สีสัน รายละเอียดตามความเหมาะสม จากตัวอย่างนี้ เราให้ดูในเกมเดียวกันคือ BF V กับตัวอย่างภาพและสี ที่ปรากฏขึ้น จากการปรับใน OSD settings จะเห็นได้ถึงความแตกต่างในแต่ละโพรไฟล์อย่างชัดเจน
Night Vision: ใครที่เล่นเกมแนวสยองขวัญ หรือต้องอยู่ในสมรภูมิที่มืด แสงน้อย ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเปรียบหรือโดนยิงก่อน เพราะคุณสามารถเลือกปรับโหมดนี้ เพื่อให้การมองเห็นชัดเจน แบบไม่เสียอรรถรสในการเล่น จากตัวอย่างด้านซ้ายที่ Off เอาไว้ และด้านขวา เราเปิดใช้งาน จะเห็นผนังไม้ตรงหน้ารถถังได้ชัดเจนทีเดียว
พูดถึงการตั้งค่าต่างๆ เพื่อให้เข้ากับเกมกันไปบ้างแล้ว ลองมาทดสอบเล่นเกม Battlefield V ด้วยจอ MSI MPG ARTYMIS 323CQR รุ่นนี้กันบ้างดีกว่า ว่าจอโค้ง 32″ ในแบบ 1440p 165Hz จะทำให้เกมดูน่าเล่นขึ้นเพียงใด ในเบื้องต้นบอกเลยว่า ถ้าคุณเล่นเกมบนจอ 24″ FHD แล้วขยับมารุ่นนี้ อาจจะต้องปรับตัวเล็กน้อย เพราะภาพที่ได้เต็มตามากๆ ก่อนหน้านี้แม้จะได้ทดสอบกับจอในระดับใกล้กัน แต่เป็นแบบ WQHD 2K สัดส่วนการแสดงผล ต่างอารมณ์กันอยู่พอสมควร ด้วยความเป็น 16:9 ของรุ่นนี้ ก็ทำให้การชมภาพมีความกระชับสายตามากขึ้น ในแง่ของพื้นที่ด้านบนที่มีความสูงกว่าเดิม ก็ทำให้การเล่นและการคอนโทรล ทำได้ง่าย ช่วงแรกรู้สึกเหมือนมิติข้างๆ จะหายไปบ้างเล็กน้อย แต่พอปรับใช้มาเรื่อยๆ ก็ดูสบายตา และให้ความตื่นเต้นในการเล่นได้เหมือนเดิม
ซึ่งเกมนี้สามารถปรับ HDR ได้ เมื่อเทียบกับการเล่นเกมในโหมด FPS แบบเดิมๆ ซึ่งระบบก็ปรับโพรไฟล์โหมดสีมาให้ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อเปิดใช้งาน HDR สีสันดูน่าเล่นขึ้นอีกเยอะ แม้ว่าจะดูสีจะจัดจ้าน จนดูแปลกตาไปบ้าง แต่โดยรวมการเกลี่ยสีของจอทำได้ดี จนทำให้ดูกลมกลืนและสนุกไปกับการเล่นได้ไม่น้อยเลย อย่างไรก็ดี อยู่ที่ความชื่นชอบของคุณเอง ว่าจะเล่นในโพรไฟล์ปกติกับสีที่ดีในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากเห็นอะไรที่ดูตื่นตาตื่นใจมากขึ้น แนะนำให้เปิดใช้งาน HDR ในเกมได้เลยครับ
มาถึงเกม PUBG กันบ้าง เกมนี้หลายคนให้ความสำคัญกับการจับทิศทางและมองเห็นศัตรูได้ในระยะไกล เพื่อหวังผลในการยิงที่แม่นยำ โพรไฟล์ FPS เพียงพอต่อการใช้งาน และถ้าเครื่องคุณแรงในระดับหนึ่ง ให้ลองเปิด View Distance ให้สูงกว่า 100 หรือเปิดจนสุดก็ได้ เพราะคุณจะได้ประโยชน์ในการส่องระยะไกลได้ดี และภาพก็ยังลื่นไหลต่อเนื่อง เข้าคู่กับรีเฟรชเรตระดับ 165Hz ได้สบายๆ ทำให้ภาพไม่ขาด และไม่รู้สึกเสียอารมณ์ เมื่อเคลื่อนไหวรวดเร็ว ในช่วงที่โดนโจมตีหนักๆ อีกด้วย นอกจากนี้การเปิดใช้ Smart Crosshair ก็ยังช่วยให้การจับทิศทางการเล่นได้ง่ายขึ้น ช่วงแรกอาจจะรู้สึกแปลกๆ เพราะมีจุดนำสายตาเพิ่มเข้ามา แต่ลองเล่นไปสักระยะการปรับสีให้อัตโนมัติ ก็กลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราตื่นตัว และการยิงทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย แม้จะไม่ได้มีผลต่อความแม่นยำโดยตรง แต่ก็ช่วยให้การเช็คระยะทำได้ดี
มาที่เกมแนว MOBA ยอดฮิตกับ DOTA2 กันบ้าง เกมนี้แม้ว่าอาจจะไม่ได้ต้องการรีเฟรชเรตที่สูงมากมายนัก แต่ในแง่ของสีสันและพื้นที่การมองเห็นในฉาก จอภาพระดับ 1440p นี่ถือว่าสร้างความได้เปรียบอยู่ไม่น้อยเลย เพราะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ในจุดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงสีสันที่เราลองปรับเป็น RTS ก็ทำให้ได้ภาพที่สวยงาม และความสว่างอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะเอฟเฟกต์ในการโจมตีด้วยเวทย์ใหญ่ ก็สร้างความเร้าใจได้ไม่น้อย แต่ถ้ายังไม่ถูกใจ ยังลองปรับด้วยโหมด User ได้ เอาแบบที่คุณชอบใจได้เลย
ในแง่ของการชมภาพยนตร์ ด้วยจอขนาด 16:9 นี้ เป็นระดับ Ratio ที่ดูจะเหมาะกับบรรดา Source หรือมีเดียที่มีให้ชมกันเยอะแยะในปัจจุบัน กับการชมแบบ Full screen จุดที่สังเกตได้เลยก็คือ ขอบจอที่บางมากๆ ทำให้รู้สึกสบายตา ไม่มีขอบหนาๆ มาเกะกะ เรื่องสีสัน ให้ความคมชัดสดใส จุดที่เด่นคือ ในแง่ของที่เป็นโซนมืด กลับมองเห็นรายละเอียดได้ดีพอสมควร การไล่เฉดสีมีความนุ่มนวล แต่ที่สำคัญคือ ภาพที่ดูเนียนตา และไหลลื่น มองเห็นฉากได้ทั่วจอ กับความโค้ง 1000R ที่ดูลงตัวมากทีเดียว แต่อย่าลืมปรับโหมดโพรไฟล์ให้เป็น Movie ด้วย
เรามีตัวอย่างบางส่วนของสีสันบนจอภาพ กับการใช้งาน HDR ซึ่งทำให้เห็นสีสันและรายละเอียด ที่มีการเกลี่ยสีออกมาได้อย่างสวยงามบนจอ MSI MPG ARTYMIS 323CQR รุ่นนี้ ส่วนถ้าต้องการดูรายละเอียดเปรียบเทียบ คลิ๊ก
การที่จอขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะมีพื้นที่ทำงานเท่ากัน จอที่มีความละเอียดสูง จะช่วยให้การใช้งานแบบหลายงานพร้อมกันสะดวกมากกว่า เพราะสามารถจัดวางหน้าต่างและขนาด Font ได้ง่ายขึ้น ดังนั้นด้วยความละเอียดระดับ 2K หรือ 1440p ของจอรุ่นนี้ ก็ช่วยให้การแบ่งหน้าจอ เทรดหุ้น ท่องเว็บและการดู Youtube เป็นไปได้ไม่ยาก และยังมองเห็นได้ชัดเจน และด้วยฟีเจอร์ Split Window บน Gaming OSD ก็ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพลิกแพลงการปรับแต่งใช้งานได้สะดวก
และไม่ใช่แค่เกมเมอร์เท่านั้นที่จะได้ประโยชน์จากจอ MSI รุ่นนี้ นักเทรดหรือนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็น เทรดหุ้น หรือ Cryptocurrency Trade ต่างก็ได้ประโยชน์จากหน้าจอที่ใหญ่ ทำให้มองเห็นรายละเอียดได้ไม่ผิดเพี้ยน และพื้นที่ในการพลอตกราฟชัดเจนกว่า ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้การวิเคราะห์ได้แม่นยำมากขึ้น การขยายหรือย่อกราฟและตารางซื้อขาย เห็นได้กว้างชัดเจน ส่วนที่เหลือก็แค่เหล่านักเทรดเท่านั้น ที่จะตัดสินใจว่าซื้อหุ้นตัวไหนดี บอกเลยว่าจอโค้งแบบนี้ ดีต่อสุขภาพพอร์ตอยู่ด้วยนะ
ในส่วนที่อยากจะบอกกับผู้ใช้ ก็ถูกถ่ายทอดไปในรายละเอียดในจุดต่างๆ ของบทความนี้เกือบหมดแล้ว สำหรับจอ MSI MPG ARTYMIS 323CQR รุ่นนี้ โดยสิ่งที่อยากจะบอกทุกๆ ครั้งหลังการทดสอบก็คือ เหมาะกับใคร? คำตอบคือ กลุ่มที่เป็นเกมเมอร์ และให้ความสำคัญกับเรื่องของความสนุกเป็นหลัก และเน้นที่การใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะคนที่เริ่มที่จะใช้เวลาในการเล่นเกมนานขึ้น และกระหายในชัยชนะได้มากกว่าเดิม สตรีมเมอร์และเกมแคสเตอร์ ก็ต่างได้ประโยชน์จากจอขนาดใหญ่นี้เช่นกัน โดยคุณไม่จำเป็นต้องมีคอมที่แรงมาก ก็สามารถใช้งานประโยชน์ในฟีเจอร์ต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน และไม่ได้เน้นที่การเล่นเกมเพียงอย่างเดียว แต่ต้องตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ที่นำเสนอไปทั้งหมด น่าจะเป็นคำตอบได้ดี สำหรับคนที่กำลังมองหาจอขนาดใหญ่ ความละเอียดสูง มีลูกเล่นมากพอ ที่จะไปต่อสำหรับการฝึกฝนสู่การเป็นโปรเกมเมอร์ หรือเล่นทัวร์นาเมนต์ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ฝากเอาไว้ครับ สำหรับจอ #MSI รุ่นนี้
จอมอนิเตอร์เกมมิ่ง MPG ARTYMIS 323CQR 1000R 20,900 บาท รับประกัน 3 ปีเต็ม https://th.msi.com/Monitor/MPG-ARTYMIS-323CQR
ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/where-to-buy-solution
รับ Steam Code มูลค่า 20USD ฟรี! เมื่อร่วมกิจกรรม MSI Shout Out แชร์ประสบการณ์ใช้สินค้า MSI รายละเอียดเพิ่มเติม: https://msi.gm/ShoutOutTH
เลือกจอเกมมิ่งที่เหมาะสำหรับตัวคุณได้ที่นี่ : https://msi.gm/BestGamingMonitorTH
ติดตามโปรโมชั่นได้ที่: https://msi.gm/Promotionth
MSI Facebook: https://www.facebook.com/MSIGamingThailand
MSI Call Center : 02 409 2984 (8.30 – 17.30 น.)
“เครือซีพี” เบื้องหล…
This website uses cookies.