วันนี้ 18 พ.ค.2565 (เวลา 11.00 น.) ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลชาย ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ ประเทศเวียดนาม จัดงานแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลชาย รอบรองชนะเลิศ คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย
ทีมชาติไทย ส่ง มาโน โพลกิ้ง พร้อมกับ วสพล แก้วผลึก เข้าร่วมการแถลงข่าวครั้งนี้ มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า มาถึงรอบรองแล้วฯ มันไม่สำคัญว่าเราจะเจอกับใคร เพราะว่า 4 ทีมที่เข้ารอบมาเป็นทีมที่ดี แต่ที่สำคัญคือเราเป็นแชมป์กลุ่ม ทำให้เราไม่ต้องเดินทางไปไกลเพื่อไปแข่งสนามอื่น และสนามนี้เราได้เล่นมา 4 นัด มันดีสำหรับเราที่ได้อยู่ที่เดิมและเล่นได้รอบรองฯ ที่นี่
นักเตะของเราเป็นนักเตะที่มีคุณภาพและทำผลงานได้ดี พวกเขาเป็นอนาคตที่ดีสำหรับทีมชาติไทย ส่วนสถิติไม่ได้สำคัญ เพราะยุคนี้ อินโดนีเซีย มีอนาคตที่ดี และแข็งแกร่งมาก หลายคนได้เล่นในชุดใหญ่ สำหรับทีมชุดนี้ มีความเข้าใจกัน เล่นกันเป็นทีม มีทัวร์นาเมนต์ได้เล่น สำหรับเรามันเป็นเกมที่ยากกว่าเกมที่ผ่าน ๆ มา แต่ว่าเราจะสามารถเล่นได้ด้วยฟอร์มที่ดีเหมือนกับรอบแบ่งกลุ่มได้อีกครั้งในเกมนี้”
อินโดนีเซียชุดนี้รวมตัวกันมานาน พวกเขาเข้าใจกัน เล่นบอลหนัก มีเกมรุกที่ดุดัน วางแผนดี มีระบบที่ดี ไม่มีใครเด่นเป็นพิเศษ จุดแข็งของเขาคือการเล่นเป็นทีม
หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ยังกล่าวว่า ในส่วนนักเตะลูกครึ่งหลายๆคน และคนที่เล่นในต่างประเทศ ก็มีส่วนทำให้ทีมมีความแตกต่างอย่าง อินโดนีเซีย ก็มี อัสนาวี แบ็คขวาที่เล่นในลีกเอเชีย เป็นนักเตะที่ดี และก็ติดโทษแบนในเกมนี้ เขาสร้างความแตกต่างได้ ของเราก็เช่นกัน ทั้งเบน เดวิส นักเตะคนอื่นที่เล่นในลีกต่างแดน ทำให้เกิดการพัฒนาเพราะลีกต่างประเทศ แข็งแกร่งได้ประสบการณ์มากมายทำให้เกิดสมดุลมากขึ้น ตรงนี้สำคัญสำหรับนักกีฬา
ตัวผมได้มอบหมายให้มาคุมซีเกมส์ พอซีเกมส์จบ ผมก็ต้องโฟกัส ทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับ U23 แต่ผมจะดูชุดใหญ่เป็นหลัก
มันเป็นเรื่องดีที่มีแฟนบอลเต็มสนาม และเป็นบรรยากาศที่ดีสำหรับฟุตบอล แฟนบอลที่นี่ ที่นัม ดิน์ เวียดนาม ก็ทำให้บรรยากาศออกมาสนุก ส่วนเรื่องการต่อเวลาจุดโทษ ถ้าไปถึงตรงนั้นก็แปลว่าเกมมันสูสี แต่แน่นอนเราก็อยากจบใน 90 นาที แต่หากต้องยืดเยื้อเราก็พร้อม
ส่วนความคิดเห็นแฟนบอลอินโดนีเซีย ที่มองว่า ทีมยังไม่ดีเหมือนที่ผ่านมา ผมคิดว่าพวกเขาทำได้ดี และนักเตะก็เล่นเป็นทีม แต่ผมก็มั่นใจในทีมชาติไทย หลังจากที่ผ่านเกมแรก และเราเล่นได้ตามแผน และเชือว่าเราดีพอที่จะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ได้
แน่นอนว่า คู่ต่อสู้ที่เราจะเจอเป็นทีมที่ดี หากเรายังมีข้อผิดพลาดเราก็สามารถถูกลงโทษ แต่เราพยายามปรับปรุงและแก้ไข ซึ่งเราต้องเรียนรู้ มันเป็นแบบนี้ การจะทำทีมให้ดีก็ต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาด เราก็ต้องเรียนรู้และแก้ไข และทำให้ดีในนัดต่อไป
สำหรับ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย จะต้องพบกับ อินโดนีเซีย ที่ สนาม เทียน ตรวง วันที่ 19 พ.ค.2565 เวลา 16.00 น. ถ่ายทอดสดทาง TV5 Hd1