ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจากการแข่งขันตลอด 31 ครั้ง เวียดนามกำลังจะจัดซีเกมส์ครั้งนี้ แค่เพียงครั้งที่ 2 เท่านั้น ต่อจากครั้งแรกที่เป็นเจ้าภาพไปเมื่อปี 2003 ซึ่งครั้งนั้นมีขึ้นที่กรุงฮานอย และเมืองโฮจิมินห์
จริงๆแล้ว ซีเกมส์ครั้งนี้ จะต้องชิงชัยกันไปตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม 2021 แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดหนักในช่วงนั้น ทำให้เวียดนามประกาศขอเลื่อนออกไปก่อน
พร้อมๆกับคิดหนักอยู่หลายรอบว่าจะยกเลิกไปเลย หรือเดินหน้าต่อดี
ก่อนได้บทสรุปว่ายังจะจัดเหมือนเดิม และมาลงตัวในวันที่ 12-23 พฤษภาคม 2022
แนวคิดของเจ้าภาพกับการเดินหน้าสู้ต่อ เลือกที่จะจัดการแข่งขันกระจายไปตามเมืองต่างๆ ทั้งหมด 12 เมือง ได้แก่ ฮานอย, บั๊ก ชาง, บั๊ก นิง, ห่า นาม, ไห่ เชือง, ฮว่า บิ่ง, หวิง ฟุก, ฝู เถอะ, ไห่ ฝ่อง, นาม ดิ่ง, นิง บิ่ง และกว่าง นิง เพื่อลดการกระจุกตัวของนักกีฬา
โดยจัดให้มีการชิงชัยใน 40 ชนิดกีฬา 526 เหรียญทอง
ประกอบด้วยกีฬาทางน้ำ (กระโดดน้ำ, ว่ายน้ำตีนกบ, ว่ายน้ำ), ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บาสเกตบอล (5 คน, 3×3), บิลเลียด, เพาะกาย, โบว์ลิ่ง, มวยสากล, เรือแคนู, หมากรุก, หมากรุกจีน, จักรยาน (เสือภูเขา, ถนน), ลีลาศ, อีสปอร์ตส์, ฟันดาบ, ฟุตบอล (ฟุตบอล, ฟุตซอล), กอล์ฟ, ยิมนาสติก (แอโรบิก, ศิลป์, ลีลา)
แฮนด์บอล (ในร่ม, ชายหาด), ยูโด, ยูยิตสู, คาราเต้, คิกบ็อกซิ่ง, คูราช, มวยไทย, ปันจักสีลัต, เปตอง, เรือพาย, เซปักตะกร้อ, ยิงปืน, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส, ไตรกีฬา, วอลเลย์บอล (ในร่ม, ชายหาด), โววีนั่ม, ยกน้ำหนัก, มวยปล้ำ และวูซู
ส่วนโลโก้ของ “ฮานอยเกมส์” ครั้งนี้ เจ้าภาพ เลือกใช้รูปอักษรตัว V ที่คล้ายนกพิราบกางปีก ซึ่งสื่อถึงความสงบสุข และยังสื่อถึงเวียดนาม (Vietnam) และชัยชนะ (Victory) ขณะที่มาสคอต เป็นซาวลา ที่ถูกค้นพบเมื่อปี 1992 บริเวณเทือกเขาอันนัม ของเวียดนาม เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีลักษณะคล้ายแพะผสมกับเลียงผา
สโลแกน For a Stronger Southeast Asia มีความหมายว่ารัฐบาลและประชาชนของทุกประเทศร่วมมือกันสร้างอาเซียนเป็นหนึ่งเดียว พัฒนาและส่งเสริมบทบาทของอาเซียนในเวทีระหว่างประเทศ
สำหรับมาตรการการป้องกันโควิด-19 เวียดนาม ก็มีการวางเอาไว้แล้วในเบื้องต้น
นักกีฬา เจ้าหน้าที่ทุกชาติที่คาดว่าจะมีร่วม 10,000 คน จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันอย่างน้อย 2 เข็ม และมีหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนดังกล่าว ภายใน 3 เดือน รวมทั้งจะต้องมีผลตรวจเป็นลบ ก่อนเดินทางเข้าเวียดนาม 72 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม ในแต่ละชนิดกีฬาหากนักกีฬาถูกตรวจพบว่ามีเชื้อโควิด-19 ยังสามารถเปลี่ยนตัวนักกีฬาได้ แต่หากอยู่ระหว่างการชิงชัยและพบเชื้อ ห้ามแข่งขันต่อ และจะถูกปรับแพ้ทันที
ในส่วนของผู้ชม ยังไม่แน่ว่าจะต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้าสนามหรือไม่ ฝ่ายจัดการแข่งขันจะพิจารณาอีกครั้ง โดยดูจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในเดือนพฤษภาคมอีกรอบ
“บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย กล่าวว่า จากที่ตนได้สอบถามและรับทราบข้อมูลมาถึงเวลานี้ ทางเวียดนามค่อนข้างตื่นตัว และพยายามเตรียมการให้พร้อมที่สุดในทุกๆด้าน
ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือเรื่องโควิด-19 ซีเกมส์ครั้งนี้มีการกระจายจัดออกไปกว่า 10 เมือง โดยเมืองหลักที่จัดกีฬาอยู่ที่กรุงฮานอย แต่ก็มีอีกหลายกีฬาที่ไปจัดในจังหวัดไกลๆ
ดังนั้น นักกีฬาจึงถูกกระจายไปพักตามโรงแรม ต่างๆ ในเมืองนั้นๆ ใกล้สนามแข่งขัน ทำให้มาตรการและความเข้มงวดในการจะดูแลนักกีฬาจากเรื่องโควิด-19 เป็นเรื่องยากกว่าโอลิมปิก โตเกียว 2020 ซึ่งจัดให้นักกีฬาพักในหมู่บ้านนักกีฬา ที่ไม่มีการปะปนกับคนทั่วไป
สถานการณ์โควิด-19 ที่เวียดนามในเวลานี้ ถือว่ามีการติดเชื้อรายวันมากกว่าไทย โดยติดเชื้อรายวันติด 10 อันดับแรกของโลก มาอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้เราได้กำชับทีมและนักกีฬาให้ช่วยกันระมัด ระวังตัวเองกันมากๆ เพราะหากติดเชื้อระหว่างแข่งขัน เจ้าภาพก็ไม่ได้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาให้ การทำประกันโควิดก่อนเดินทางไปจึงเป็นเรื่องจำเป็น
“ผมไม่อยากให้นักกีฬาเสียโอกาส เพราะแน่นอนว่าถ้านักกีฬาติดเชื้อ หรือมีนักกีฬาที่สัมผัส เสี่ยงสูงต้องถูกแยกออกจากทีมทันที ซึ่งก็ทำให้ต้องพลาดโอกาสลงสนาม หรือต้องถอนตัวจากการแข่งขันในชนิดกีฬานั้นๆ ไปเลย” นายธนากล่าว
อย่างไรก็ตาม จากแนวทางของเวียดนาม ที่กระจายการแข่งขันออกไป ด้วยหวังดีต้องการลดการกระจุกตัวกัน แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ชาติสมาชิก จะกังวลว่าเมื่อกระจายออกไปไกล จะทำให้การควบคุมทำได้ยากกว่าหรือไม่
อีกทั้งมาตรการการป้องกันไวรัสอันตรายที่บอกเอาก็ทำไว้แบบกว้างๆ ยังไม่มีความชัดเจน หรือมีแนวทางที่เข้มงวดอย่างไร
การดูแลนักกีฬาจะทำในระบบบับเบิลได้จริงเพียงใด เพราะการต้องไปพักตามโรงแรมแห่งต่างๆ ก็อาจจะต้องไปปะปนกับคนทั่วไป
ไม่เพียงแค่นั้น การตรวจเช็กเรื่องการติดเชื้อจะมีการให้ตรวจทุกวัน หรือทุกกี่วัน เจ้าภาพจะดูแลในส่วนนี้ให้ หรือแต่ละชาติต้องขนอุปกรณ์การตรวจเชื้อนักกีฬากันไปเองตรงนี้ก็ยังต้องตามลุ้นกัน
“ฮานอยเกมส์” ครั้งนี้ นับเป็นซีเกมส์ครั้งแรกที่จะจัดขึ้นในยุคโควิด-19 การบริหารจัดการของเวียดนาม ถือว่าจะเป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจะเป็นบรรทัดฐานให้การแข่งขันครั้งต่อๆไปได้เป็นอย่างดี
โดยมีการควบคุมการแพร่เชื้อของโควิดเป็นตัวแปรสำคัญ
จะ “ปัง” เป็นตัวอย่าง สร้างมาตรฐานอาเซียน หรือสุดท้ายจะ “พัง” เป็นคลัสเตอร์กีฬาให้คนทั้งโลกหวาดผวา
ต้องยอมรับความจริงว่ายังเป็นเรื่องที่วิตกอยู่ในใจของใครหลายคน
อยู่ไม่น้อยเลย…