คล้ายกับ ซีอีโอ แมนยู! 3 ตัวอย่างการเปิดอกถึงทีมตัวเองแบบตรงไปตรงมา

ถือเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจในระดับหนึ่งเลยทีเดียว กับการที่มีการเผยแพร่คลิปที่ ริชาร์ด อาร์โนลด์ ประธานบริหารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พูดแบบเปิดใจกับสาวก “เร้ด อาร์มี่” บางส่วนที่ผับแห่งหนึ่ง โดยตอนแรกกองเชียร์กลุ่มดังกล่าวตั้งใจจะไปประท้วง อาร์โนลด์ ที่บ้านของเขา แต่ผู้บริหารของ “ปีศาจแดง” ตัดสินใจไปหาพวกเขาที่ผับในท้องถิ่นพร้อมกับเลี้ยงเบียร์พวกเขาอีกต่างหาก

    ตามรายงานระบุว่าที่จริง อาร์โนลด์ ขอร้องแล้วว่าอย่าให้มีการอัดคลิปนี้ แต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งบางประเด็นที่เขาพูดนั้นก็เป็นการยอมรับถึง “เรื่องย่ำแย่” เกี่ยวกับทีมโดยตรง อย่างเช่นการบอกว่า “เราแม่งพังเป็นเสี่ยงๆ ผ่านเงินสด” และ “นี่พวกคุณอยากให้ผมลงไปลุยซื้อนักเตะเองเหรอ ? ฟังดูคุ้นๆ ไหม ?” ซึ่งกรณีหลังน่าจะเป็นการพาดพิงถึง เอ็ด วู้ดเวิร์ด นั่นเอง

    แน่นอน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จะมีใครสักคนในวงการฟุตบอลที่เปิดใจอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับทีมของตัวเอง หรือคนที่เกี่ยวข้องกับทีมของตัวเองในรูปแบบที่หลายคนพอได้ยินและได้อ่านแล้วต้องอึ้งไปชั่วขณะ ซึ่งวันนี้เราจะพาย้อนความหลังไปถึงการเปิดใจแบบนั้นสักหน่อย

    – แดนนี่ โรส
    แฮร์รี่ เคน อาจจะเคยให้สัมภาษณ์ในเชิงที่บอกว่ามันอาจจะถึงเวลาที่เขาต้องย้ายออกจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพื่อไปตามหาแชมป์บ้าง แต่กรณีของเขายังเป็นเพียงการให้สัมภาษณ์อ้อมๆ ซึ่งนั่นเทียบกับคำพูดของ โรส เมื่อช่วงปี 2017 ไม่ได้เลย

    “เวลากำลังจะหมดลงแล้ว และผมก็อยากได้แชมป์ ถ้ามันมีข้อเสนอที่สมเหตุสมผลยื่นเข้ามาแล้วล่ะก็ ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยที่จะตรงไปแสดงความคิดเห็นของผมกับใครก็ตามที่อยู่กับสโมสร ผมรู้ถึงมูลค่าของตัวเองดี และผมจะทำให้มั่นใจว่าผมจะได้อะไรก็ตามที่คู่ควรกับมูลค่าของผม”

    “ผมไม่ได้บอกว่าทีมควรจะซื้อนักเตะถึง 10 คนหรอกนะ ผมอยากเห็นสโมสรซื้อนักเตะแค่ 2 หรือ 3 คนก็พอ เพียงแต่ต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ใช่พวกที่คุณต้องไปเซิร์ชหาบน กูเกิ้ล แล้วถามกับตัวเองว่า -ใครวะเนี่ย?-” ปัจจุบัน โรส ได้ย้ายทีมสมใจแล้ว แต่เป็นการไปอยู่กับ วัตฟอร์ด

    – คริสเตียโน่ โรนัลโด้
    ฤดูกาล 2015-16 ถือเป็นฤดูกาลแห่งความสุขสำหรับ เรอัล มาดริด กับการเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะพวกเขาคว้าแชมป์ไปครองได้ ซึ่งนั่นถือว่าสวนทางกับใน ลา ลีกา ที่พวกเขาเป็นเพียงรองแชมป์จากการแพ้ บาร์เซโลน่า เพียงแค่ 1 คะแนน

    หนึ่งในผลการแข่งขันที่ทำให้พวกเขาชวดแชมป์คือเกม มาดริด ดาร์บี้แมตช์ ที่พลาดท่าให้กับ แอตเลติโก มาดริด 0-1 คารัง ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาที่คนเป็นนักเตะจะผิดหวังกับความปราชัยแบบนี้ แต่ว่า โรนัลโด้ ให้สัมภาษณ์ในเชิงที่หนักหน่วงพอตัว

    “ถ้าทุกคนในทีมของเราเล่นได้ในระดับเดียวกับผมแล้วล่ะก็ ป่านนี้เราก็คงจะนำเป็นจ่าฝูงกันไปแล้ว ผมไม่อยากดูถูกใครหรอกนะ แต่เมื่อนักเตะชุดที่ดีที่สุดไม่ได้ลงเล่นแล้วน่ะมันก็เป็นเรื่องยากกว่าเดิมที่จะเก็บชัยชนะได้ ผมชอบเล่นกับ คาริม (เบนเซม่า), (แกเร็ธ) เบล, มาร์เซโล่ คือผมไม่ได้จะบอกว่านักเตะอย่าง ลูกัส (บาสเกซ), เฆเซ่ (โรดริเกซ) และ (มาเตโอ) โควาซิช ไม่เก่งหรอกนะ พวกเขาเป็นนักเตะที่ดีมากๆ แต่มันไม่เหมือนกัน”

    – เมาโร อีการ์ดี้
    111 ประตูจากการลงเล่นใน กัลโช่ เซเรีย อา 188 นัด คือผลงานที่ เมาโร อีการ์ดี้ เคยทำเอาไว้ได้กับ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งถ้าเป็นกรณีทั่วไปแล้วมันน่าจะทำให้มีแฟนบอล อินเตอร์ เพียงแค่ไม่กี่คนที่ไม่ชอบขี้หน้าเขา น่าเศร้าที่ความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น และส่วนหนึ่งก็มาจากการกระทำของ อีการ์ดี้ เอง

    ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ อินเตอร์ แพ้ ซาสซูโอโล่ 1-3 ในเกมลีก เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2015 อีการ์ดี้ พยายามที่จะมอบเสื้อกับกางเกงของเขาให้แฟนบอลวัยเด็กคนหนึ่ง ก่อนที่สาวกพันธุ์โหดของ อินเตอร์ จะเข้ามาหยิบของเหล่านั้นไปดื้อๆ แล้วปากลับใส่ อีการ์ดี้ เพราะไม่พอใจกับฟอร์มของเขา

    ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ทำยังไงน่ะหรือ ? เขาตอบโต้ผ่านทางหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองในภายหลังว่า “แฟนบอลพวกนั้นมีกันกี่คน 50 คน ? 100 คน ? 200 คน ? โอเค งั้นเดี๋ยวผมจะพาฆาตกรมาจาก อาร์เจนตินา สัก 100 คน แล้วฆ่าพวกแม่งคาอัฒจันทร์เลย เราจะได้เห็นดีกัน”

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าประโยคนั้นทำให้แฟนบอล อินเตอร์ ไม่พอใจในตัว อีการ์ดี้ มากขึ้นไปอีก และถึงแม้เจ้าตัวจะออกมาขอโทษในเวลาต่อมา แต่รอยร้าวที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับกองเชียร์หลายคนมันก็รุนแรงจนรักษาได้ยากไปแล้ว

    
    – เด็กเกร็ดบอล –