จัดตั้งธุรกิจใหม่ มี.ค.65 แผ่ว 19% พณ.ชี้ธุรกิจอีสปอร์ตดาวเด่น
เมื่อวันที่ 28 เมษายน นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียน จัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนมีนาคม 2565 มีจำนวน 7,164 ราย ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 19% และลดลง 1% จากเดือนก่อนหน้า มีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 682 ราย
รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 397 ราย ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 247 ราย โดยกว่า 71% มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1 ล้านบาท ทำให้ธุรกิจตั้งใหม่ไตรมาสแรก2565 รวม 22,347 ราย เพิ่มขึ้น 7,445 ราย หรือเพิ่ม 50% เทียบไตรมาส 4/2564 และลดลง จำนวน 1,042 ราย หรือลด 4% เทียบกับไตรมาส 1/2564 โดยมีทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ไตรมาสแรกกว่า 7.4 หมื่นล้ายบาท 3 ธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 2,362 ราย คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,048 ราย และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 696 ราย
ขณะที่ ธุรกิจเลิกกิจการเดือนมีนาคม 2565 มีจำนวน 926 ราย เพิ่มขึ้น 38% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่ม 17% เทียบมีนาคม 2564 โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 12,380.99 ล้านบาท ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 92 ราย รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 42 ราย ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 32 ราย ทำให้ 3 เดือนแรก 2565 ปิดกิจการรวม 22,374 ราย ลดลง4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
นายจิตรกร กล่าวว่า ปัจจัยกระทบต่อการจัดตั้งใหม่และเลิกกิจการ คือ สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการและราคาสินค้าสูงขึ้น ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภค ลดลงตามอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามเพิ่มอีกในเรื่อง
แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือ ซึ่งรัฐประเมินเศรษฐกิจขยายตัว 3.2% หลังภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศฟื้นตัว การแพร่ระบาดโอมิครอนรุนแรงไม่สูงมากนัก คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% ต่อปี โดยกรมคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ครึ่งปีแรก 2565 อยู่ที่ 40,000 – 42,000 ราย และทั้งปี 2565 อยู่ที่ 70,000 – 75,000 ราย
สำหรับธุรกิจจัดตั้งใหม่ที่น่าติดตามคือ ธุรกิจอีสปอร์ต พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตลอด 3 ปี และ 3 เดือนแรก 2565 มีจำนวน 86 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ถึง 8.86% เฉพาะเดือนมีนาคมปีนี้จัดตั้ง 29 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 4 ราย หรือเพิ่ม 16 % แต่ลด 4 ราย หรือ 12.12% จากปีก่อน มีทุนการจัดตั้งธุรกิจ 42.21 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันมีธุรกิจอีสปอร์ต จำนวน 3,055 ราย คิดเป็น 0.37% ของธุรกิจทุกประเภท ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,905 ราย และเป็นธุรกิจขนาดเล็ก (S) มากสุด ถึง 2,818 ราย หรือสัดส่วน 92.24%
ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพ 1,677 ราย หรือสัดส่วน 54.89% รองลงมา คือ ภาคกลาง 696 ราย ภาคเหนือ 183 ราย และจังหวัดในภูมิภาคที่มีนิติบุคคลคงอยู่สูงสุด คือ นนทบุรี 238ราย การลงทุนของชาติจากในธุรกิจนี้ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของ คนไทย มีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 14,831.20 ล้านบาท คิดเป็น 77.37%ขณะที่การลงทุนจากต่างชาติสูงสุด คือ สิงคโปร์ มีมูลค่า 991.03 ล้านบาท คิดเป็น 5.17% ของมูลค่าการลงทุนในธุรกิจนี้ 1.87% จำนวน 57 ราย
ภาพรวมผลประกอบการของธุรกิจอีสปอร์ต เป็นธุรกิจที่มีรายได้โดยรวม อยู่ในระดับที่สูงถึงสองแสนกว่าล้านบาทต่อปี แม้ปี 2563 ลดลงเล็กน้อย แต่รายได้รวมปี 2561 มี 236,754.28 ล้านบาท ปี 2562 มี 239,296.90 ล้านบาท และปี 2563 มีรายได้ 237,615.93 ล้านบาท ลดลงเพียงเล็กน้อย 0.70% ขณะที่อัตราส่วนทางการเงินของธุรกิจอีสปอร์ต ในปี 2561 – 2563 อยู่ในทิศทางที่สอดคล้องกับผล ประกอบการของกลุ่มธุรกิจ โดยทั้งผลตอบแทนต่อ สินทรัพย์ อัตรากำไรสุทธิ มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย ในขณะที่อัตราส่วนสภาพคล่อง และอัตราหนี้สินต่อทุน อยู่ใน ระดับที่ดี สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ อย่างดี