เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ผ่านไปแล้วครึ่งทางสำหรับซีซั่นแรกของรายการ “The Apprentice: ONE Championship Edition” ที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยการแข่งขันรูปแบบใหม่ล่าสุดนี้ที่นำเสนอแง่มุมเรียลลิตีทางธุรกิจ ทำให้ผู้ชมเกาะติดหน้าจอล้นหลามกันทุกตอน
ย้อนไปในตอนแรกของซีรีส์นี้ มีผู้ชมรวมประมาณ 4 ล้านคนในประเทศแถบเอเชียที่สำคัญ อันได้แก่ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ส่งผลให้เป็นรายการเรียลลิตีภาษาอังกฤษที่มีผู้ชมมากที่สุดแห่งปี 2021 ไปโดยปริยาย
นายชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธาน วัน แชมเปียนชิพ มีทรัพย์สินราวๆ 10,800 ล้านบาท และจะรับบทดาวเด่นของ The Apprentice เวอร์ชันนี้ โดยผู้เข้าแข่งขันต้องแย่งชิงตำแหน่งผู้ชนะเพื่อโอกาสในการทำงานกับบอสใหญ่ระดับทวีปเอเชียรายนี้ต่อไป พร้อมเผยว่า รู้สึกพอใจอย่างยิ่งกับผลตอบรับของรายการ รวมถึงตื่นเต้นที่มีผู้ชมเพิ่มมากขึ้นจากทั่วทุกมุมโลก แสดงให้เห็นว่า The Apprentice เวอร์ชันนี้แตกต่างจาก The Apprentice เวอร์ชันที่ผ่านๆ มาอย่างแท้จริง
“The Apprentice คือรายการเรียลลิตีโชว์ทางโทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ตัวรายการมีฐานแฟนคลับอยู่ทั่วโลก เราได้สร้างเวอร์ชันใหม่ขึ้นมาด้วยการเชิญบรรดานักกีฬาจาก วัน แชมเปียนชิพ มาปรากฏตัว รวมไปถึงเพื่อนๆ ระดับซีอีโอของผมจากทั่วโลกด้วย ทำให้ ‘The Apprentice: ONE Championship Edition’ นั้นเป็นอะไรที่สด, ใหม่, น่าตื่นเต้น และแตกต่างจากเดิม” นายชาตรี กล่าว
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า The Apprentice เวอร์ชันนี้นั้นโหดหินที่สุดในประวัติศาสตร์ เหล่าผู้แข่งขันต้องเอาตัวรอดจากภารกิจท้าทายทั้งทางกายภาพและการแก้ปัญหาทางธุรกิจ นอกจากนี้ The Apprentice เวอร์ชันนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ผู้แข่งขันทั้ง 16 คนมาจากทั่วทุกมุมโลก”
เมื่อถามว่าอะไรที่ทำให้ “The Apprentice: ONE Championship Edition” แตกต่างจากทุกเวอร์ชันก่อนหน้านี้? นายชาตรีเผยว่า เป็นเพราะการแพร่หลายของศิลปะการต่อสู้ที่บรรดานักกีฬาของ วัน นำมาเสนอผ่านหน้าจอ ซึ่งถือเป็นภารกิจที่ต้องใช้ศักยภาพทางร่างกายผสมผสานกับหลักการทางธุรกิจที่อิงตามหลักความเป็นจริง ทำให้รายการเวอร์ชันนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเด่นชัด
นอกจากนี้ รายการยังเผยให้เห็นอีกบทบาทหนึ่งของนายชาตรีที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ชนิดที่แฟนๆ ไม่เคยเห็นจากที่ใดมาก่อนด้วย
“สำหรับผม สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้เป็นตัวของตัวเอง ผู้ชมจะได้เห็นเนื้อแท้ของชาตรี ทั้งหมดที่ผมพูดได้ก็คือ แฟนๆ ทั่วโลกจะได้เห็นผมตัวจริง ทั้งในด้านดีและร้าย” นายชาตรี กล่าวเสริม
ล่าสุด มีการเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า นอกจากผู้ชนะของรายการจะได้รับข้อเสนอมูลค่าราวเฉียด 8 ล้านบาท เพื่อร่วมงานกับนายชาตรีเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ณ สำนักงานใหญ่ ประเทศสิงคโปร์ เขาหรือเธอผู้นั้นยังจะได้ตำแหน่งระดับหัวหน้าพนักงานใน วัน แชมเปียนชิพ อีกด้วย
นั่นหมายความว่าผู้ชนะจะมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากมาย ไม่ใช่แค่สนับสนุนนายชาตรีเท่านั้น แต่จะมีส่วนร่วมทั้งในการตัดสินใจ, การจัดการโปรเจ็คต์ และการริเริ่มเชิงกลยุทธ์ของเขาอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ ทำให้นายชาตรีและทีมงาน เคียงข้างด้วยที่ปรึกษา นิฮาริกา ซิงห์ ต้องคัดสรรผู้เข้าแข่งขันที่เหมาะสมและเต็มไปด้วยคุณสมบัติพิเศษ
“เรากำลังมองหานักสู้คนต่อไปมาร่วมทีม เขาหรือเธอคนนั้นต้องเป็นตัวอย่างของค่านิยมแห่ง วัน แชมเปียนชิพ นั่นก็คือ ความซื่อสัตย์, ความอ่อนน้อมถ่อมตน, การให้เกียรติ, ความเคารพ, ความกล้าหาญ, ความมีระเบียบวินัย และความเห็นอกเห็นใจ ผู้นั้นต้องแกร่งทั้งร่างกาย, จิตใจ, อารมณ์ และจิตวิญญาณ เราต้องการคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน”
“คนนั้นต้องมีจิตใจที่ดี, มีทั้ง IQ และ EQ, มีความคิดสร้างสรรค์, ทำงานแข่งกับเวลาได้, มีความยืดหยุ่น และอื่นๆ อีกหลายประการ”
ด้านการแข่งขันบนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ เพิ่งปิดฉากซีรีส์ “ONE on TNT” ที่ออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์ของสหรัฐอเมริกาไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยการแข่งขันทั้งสี่อีเวนต์นั้นได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก แม้จะอยู่ในสถานการณ์เชื้อโควิด-19 ระบาดจนเกิดผลกระทบในวงกว้างก็ตาม
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นการผลิตรายการเรียลลิตีทางโทรทัศน์อย่าง “The Apprentice: ONE Championship Edition” ไปจนถึงการจัดแข่งขันอีสปอร์ตส์ของ วัน อีสปอร์ตส์ และการจัดแข่งขันศิลปะการต่อสู้ของ วัน แชมเปียนชิพ ทางองค์กรเองก็สามารถรับมือและดำเนินงานในช่วงวิกฤติโรคระบาดนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม
เมื่อพูดถึงในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปีนี้ นายชาตรียังมองในแง่ดีและคาดหวังว่าอาณาจักรศิลปะการต่อสู้ของเขาจะยังเดินหน้าไปได้อีกอย่างต่อเนื่อง
“กุญแจสำคัญของความสำเร็จคือ ความคิดสร้างสรรค์และความยืดหยุ่น เราต้องการความคิดสร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหาใหม่ๆ เราต้องการความยืดหยุ่นเพื่อเอาชนะอุปสรรคใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา” นายชาตรี พูดถึงการรับมือกับความท้าทายในช่วงโรคระบาด
“เราจะยังจัดอีเวนต์พร้อมถ่ายทอดสดไปยัง 154 ประเทศทั่วโลกต่อไป เราจะยังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยสิ่งใหม่ๆ เช่น วัน อีสปอร์ตส์ และ ‘The Apprentice: ONE Championship Edition’ ท้ายที่สุดแล้ว ภารกิจของเราคือการสร้างแรงบันดาลใจให้โลกนี้มีความฝันและชีวิตชีวามากขึ้น”