ตัวสำรองอย่าง เจสซี่ ลินการ์ด ลงมาซัลโวประตูที่ควรจะเป็นประตูชัยในนาทีเกือบสุดท้าย – เวสต์แฮม ได้จุดโทษในช่วงทดเจ็บ – มาร์ค โนเบิ้ล ถูกส่งลงมาสังหารโดยเฉพาะ – ดาบิด เด เคอา พุ่งเซฟได้เฉยเลย…นี่มันอะไรกันเนี่ยยยยย ???
1.หลังถูกพายุอุกาบาตถล่มหัวหมาในช่วงกลางสัปดาห์
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จึงจัดทีมแบบระมัดระวังมากกว่าจัด 11 ตัวจริงด้วยหัวใจบ้าบิ่น
การส่งคู่หู ‘แม็คเฟร็ด’ ลงเป็นตัวจริงอีกครั้งในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการความรัดกุมก่อน
แม้การขยับ ปอล ป๊อกบา ออกไปทางซ้ายจะทำให้เสียตัวรุกริมเส้นที่มีความปราดเปรียวไป 1 คน แต่ผมชอบนะครับ-ขอบอก
เหตุเพราะเวลาดาวเตะค่าตัว 89 ล้านปอนด์ไปเล่นตรงกลางตำแหน่งถนัด รูปเกมของปีศาจแดงมักจะออกมาตะกุกตะกัก โดยเข้ากับใครเขาไม่ได้ทั้ง แม็ค & เฟร็ด + เนมานย่า มาติช
ต่อเมื่อฉีกออกไปทางซ้ายก็มักจะทำแอสซิสต์ได้เป็นประจำซะอย่างนั้น – บางทีกูก็ ‘งง’ เหมือนกันนะครับ
เหตุผลสำคัญอีกประการ
คือเมื่อใดก็ตามที่ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด ลงเล่นคู่กันในแดนกลาง ต่อให้ฟอร์มการเล่นของทั้งคู่จะไม่ค่อยโสภา
ผลการแข่งขันมักจะออกมาดีย์
อย่างน้อยก็แพ้ยาก…ว่างั้นเหอะ
2.เวสต์แฮม เลือกที่จะถอยลงไปตั้งรับมากกว่าเพรสเข้าใส่ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ปีศาจแดงไม่ชอบ
มิซ้ำยังกลายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่บีบสูงและบี้บดเข้าใส่ในแดนกลางพลางคุมเกมได้อย่างรวดเร็ว
ทว่าการถอยไปตั้งรับในแดนทำให้เจ้าบ้านปิดพื้นที่หน้าประตูตัวเองได้แน่นหนาทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาในจังหวะสุดท้าย
รูปเกมของปีศาจแดงไม่ได้เลวร้ายอะไรเลยนะครับ ครองบอลบุกได้เป็นระยะ และสร้างความกดดันให้คู่แข่ง โดยสถิติยิงตรงกรอบ และได้ลูกเตะมุมแตะหลักสิบทั้ง 2 อย่าง
3.แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูง่าย แถมเสียเกือบทุกนัด โดยเกมเดียวในซีซั่นนี้ที่รักษา ‘คลีนชีต’ (ชนะ วูล์ฟส์ 1-0) ส่วนหนึ่งเกิดจากการยิงทิ้งยิงขว้างเองของคู่แข่งด้วย
ถามว่าทำไมถึงเสียง่าย ???
สิ่งที่เห็นจุดหนึ่ง คือมันมักจะมีความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งผลเสียหายถึงขั้นโดนกะซวกตลอด
นอกจากนี้คือแผงหลังมักจะถอยและจ้องมองบอลมากกว่าบีบเข้าหาเร็วเหมือนกลัวว่าจะถูกกินตัว
อย่างไรก็ตาม
ข้อดีคือเวลาเสียประตู พวกเขามักจะตั้งหลักได้เร็วแล้วทวงคืนอย่างทันควันทั้งในเกมกับ ลีดส์, เซาธ์แฮมป์ตัน, นิวคาสเซิ่ล และเกมนี้
4.ทีนี้มาดูการแก้เกมของกุนซือปีศาจแดงบ้าง
เมื่อยังเสมอกันอยู่ 1-1 ช่วงกลางครึ่งหลัง เกมเริ่มเนือยๆ กดดันคู่แข่งไม่ได้นานแล้ว
อีน้าแกรอจนถึงนาทีที่ 72 (ไม่เร็ว-ไม่ช้า) แล้วเปลี่ยนทีเดียว 2 ตัว ตามตำแหน่ง
เจดอน ซานโช่ กับ เจสซี่ ลินการ์ด แทน ปอล ป๊อกบา กับ เมสัน กรีนวู้ด
ถือเป็นการเปลี่ยนเพื่อเน้นเกมรุกริมเส้น
ต่อเมื่อยังยิงไม่ได้ ‘ไพ่ใบสุดท้าย’ ที่จะส่งลงมาจึงสำคัญมาก เพราะอาจชี้เป็นชี้ตายได้เลย
บนม้านั่งสำรองยังมีตัวรุกอย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค
นาทีนั้นมันต้องเสี่ยงแล้ว ผู้ชมทางบ้านอย่างผมมองว่าน่าจะถอดเอามิดฟิลด์ตัวกลางออกไปสักคนแล้วส่งมิดฟิลด์ตัวกลางอย่าง ‘ดีวีบี’ ลงมาก็ได้ โดยให้ขยับขึ้นสูงไปอยู่ใกล้ๆ ประตูคู่แข่ง เพราะเขามีจุดเด่นที่การกระทุ้งตาข่าย
ตัวสำรองคนสุดท้ายที่ ‘อีน้า’ ส่งลงมาคือมิดฟิลด์ตัวรับอย่าง เนมานย่า มาติช
อืมมมมมมมมม…นะ
ขอเรียนตามตรงว่าผมอยากอุทานถึงขี้ในสำเนียงแมนคูเนี่ยน
5. กระนั้นก็ดี
ผมมักพูด (พิมพ์) อยู่เสมอว่าผลการแข่งขันนี่แหละคือตัวบ่งชี้ว่าการตัดสินใจของผู้จัดการทีม มันถูกหรือผิด
ยกตัวอย่างเกมนี้
ในเมื่อตัวสำรองอย่าง เนมานย่า มาติช กับ เจสซี่ ลินการ์ด ที่ถูกส่งลงมามีส่วนร่วมกับประตูชัย
มันก็แสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
แม้นคุณอาจจะมองได้ว่าไอ้คนที่ช่วยให้อีน้าแกได้รับความดีความชอบ รอดพ้นจากการโดนกะซวกตูด คือ ดาบิด เด เคอา ต่างหาก
แต่เวลาโชว์ฟอร์มห่วยแตก หรือวางแผนแบบปอดแหกจนได้รับผลการแข่งขันที่ไม่ดี เราก็ตำหนิเขาหนักหน่วง
ต่อเมื่อทีมได้รับชัยชนะ นักเตะเล่นดี ตัวสำรองพลิกสถานการณ์ได้ มันก็ต้องชื่นชมเขาบ้าง
มิเท่านั้น
นี่เป็นอีกเกมๆๆๆๆๆ และอีกเกมที่ลูกทีมของกุนซือไวกิ้งพลิกสถานการณ์กลับมาชนะคู่แข่ง
เวลาวิเคราะห์หลังเกมลงในเพจหรือบนหน้ากระดาษ นสพ. ผมสวมวิญญาณนักข่าวนะครับ ไม่ใช่แฟนบอล แล้วก็ว่าไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นบนฟลอร์หญ้าอย่างไม่ลำเอียง
ในฐานะเด็กผี ผมไม่เชื่อมือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็จริง แต่ก็ไม่ขับไสไล่ส่ง ซึ่งพวกคลอดทางตูดบางตัวไม่เข้าใจเรื่องนี้
ตอนนี้เหมือนเด็กผีจะแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ด้วยวาทะกรรมสะเหล่อๆ แล้วพยายามเอาชนะกันตามความเชื่อของตัวเอง
ต่างฝ่ายต่างหาเหตุผลมาห้ำหั่นกันแบบเอาเป็นเอาตายจนบางที ผมมีความรู้สึกว่ามึงปกป้องความคิดของตัวเอง เพราะกลัวเสียฟอร์มซะมากกว่า
ฟุตบอลไม่ใช่การเมืองนะครับ เพราะมันคือความบันเทิง
ดังฉะนั้นเชียร์ทีมเดียวกันให้สนุกดีกว่า อย่าแตกแยกแบ่งข้างกันเลย
ใครอยากสรรเสริญ ใครอยากจะเอา มันก็สิทธิ์ของเขา
ใครอยากจะติเตียน ใครไม่อยากจะเอา มันก็สิทธิ์ของเขา
ต่างคนต่างแสดงความเห็นของตัวเองไปในที่ของตัวเอง อย่าไปก้าวก่ายกันเท่านั้นเอง
เพราะสุดท้ายอะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิด วิถีของเกมลูกหนังจะทำหน้าที่ของมันเองนั่นแหละ
บอ.บู๋
“เครือซีพี” เบื้องหล…
This website uses cookies.