ประตูประวัติศาสตร์!อีแลงก้าสร้างสถิติ-เจ้าตัวสุดปลื้มเหมือนฝันเป็นจริง – สยามกีฬา

แอนโธนี่ อีแลงก้า หัวหอก แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างสถิติได้หลายด้านจากประตูที่ทำได้ในเกมเจอกับ แอต. มาดริด โดยเจ้าตัวเปิดอก ดีใจสุดขีดกับเรื่องดังกล่าว พร้อมขอบคุณ ราล์ฟ รังนิก กุนซือขัดตาทัพของ “ปีศาจแดง” ด้วยที่ให้โอกาสตนอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงที่ผ่านมา

    แอนโธนี่ อีแลงก้า กองหน้าดาวรุ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของ “ปีศาจแดง” ที่สามารถทำประตูในรอบน็อกเอาต์ของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยวัย 19 ปีกับ 302 วัน

    อีแลงก้า มีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่ต้นสังกัดของเขาบุกไปเยือน แอตเลติโก มาดริด เมื่อวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวไปแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด ในนาทีที่ 75 ซึ่งเขาก็ใช้เวลาอยู่ในสนามแค่ราว 5 นาที สำหรับการทำประตูตีเสมอให้ทีม

    นอกจากสถิติในเบื้องต้นแล้วนั้น อีแลงก้า ยังถือเป็นนักเตะชาวสวีดิชอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ด้วย ในขณะเดียวกันเขาก็ถือเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำสกอร์ในศึกชิงถ้วย “บิ๊กเอียร์” ได้ หากนับรวมทุกรอบ เป็นรอง เวย์น รูนี่ย์, เมสัน กรีนวู้ด, เดวิด เบ็คแฮม และ ฟิล โจนส์

    ทั้งนี้ อีแลงก้า ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่ารู้สึกดีใจมากๆ ที่ทำประตูในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ โดยบอกว่านี่เป็นความฝันของตนมาโดยตลอด “ผมคิดว่าจังหวะที่ผมทำประตูได้น่ะมันเป็นการสัมผัสบอลครั้งแรกของผม (ในเกมนี้) ด้วย ผมฝันถึงช่วงเวลาแบบนี้มาโดยตลอด ผมใฝ่ฝันถึงการทำประตูในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้มานานแล้ว แน่นอนว่าผมดีใจมากๆ ที่ทำประตูในเกมใหญ่แบบนี้, ในการเจอกับทีมชั้นยอดของทวีปยุโรปอย่าง แอตเลติโก มาดริด ได้ อย่างที่ผมบอกไปนั่นแหละว่ามันคือฝันที่เป็นจริงเลย”

    “อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงครึ่งแรกเท่านั้น ตอนนี้ช่วงนั้นมันผ่านไปแล้ว และครึ่งหลังที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็จะมีขึ้นในอีก 2 สัปดาห์หลังจากนี้ ดังนั้นเราก็จำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเกมนั้น”

    อีแลงก้า กล่าวขอบคุณ ราล์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีมชั่วคราวของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย ที่เชื่อมั่นในตัวตนจนให้โอกาสตนลงเล่นหลายนัดตลอดช่วงที่ผ่านมา “ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมได้รับโอกาสลงเล่นให้สโมสรน่ะผมก็อยากจะตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจที่ผู้จัดการทีมมีในตัวผม ผมอยากทุ่มหมดหน้าตักและเล่นแบบ 150 เปอร์เซ็นต์ในทุกครั้งที่ผมลงไปสู่สนาม รวมถึงอยากสนุกไปกับมัน”

    “ผมก็แค่ทำในสิ่งที่ผมสามารถทำได้เมื่อผมลงไปในสนาม ผมบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่าผมอยากเป็นนักเตะที่เล่นได้ดีที่สุดในสนาม ผมรู้สึกซาบซึ้งกับการกระทำของบอสมากๆ และอย่างที่ผมเพิ่งพูดไปนั่นแหละว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาส่งผมลงไปในสนามผมก็อยากจะตอบแทนเขาให้ได้”