รีวิว ORA Good Cat GT สปอร์ตอีวี เอาใจสายซิ่ง แรงขึ้นแต่งครบ

ถ้าจะนับว่า ORA Good Cat GT เป็นรุ่นอัปเกรดของ Ora Good Cat ปัจจุบันก็ว่าได้ เพราะการอัปเดตซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ภายในทั้งระบบหน้าจอ และ ระบบสมองกล ของตัวรถ เกิดขึ้นแล้วในรุ่นดังกล่าวนี้ ถามว่าดีขึ้นหรือไม่ ตอบได้เลยว่า ดี! หน้าจอตอบสนองดีขึ้น และมีการแก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการนำทางเสถียรขึ้น, Wireless Charger เปิด On พร้อมชาร์จตลอดเวลา จุดเหล่านี้ถูกแก้ไขแล้ว

GWM หั่นราคา ORA Good Cat ลด 1.65 แสนบาท รับมาตรการรัฐ

ORA Good Cat ปรับราคาลงอีกรอบ ลดเพิ่มอีกสูงสุด 7.95 หมื่นบาท

GWM เผยโฉม 2 รุ่นใหม่ ครั้งแรกในไทย TANK 300 HEV – ORA Good Cat GT

นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มความคุ้มค่าของเทคโนโลยีกับคำถามที่ผู้ซื้อตั้งคำถาม อย่าง ระบบฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี เพียงมีกุญแจอยู่กับตัวก็สามารถเตะเปิดได้สะดวก

ส่วนการดีไซน์คันนี้หล่อสำเร็จมาจากโรงงานด้วยชุดแต่งลายคาร์บอนไฟเบอร์ ที่กันชนหน้า-หลัง และซุ้มล้อ พร้อมใช้สีแดงตัดสลับและมีโลโก้ GT โดดเด่น พร้อมกับล้ออัลลอยทูโทนดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว พร้อมดิสก์เบรคคาลิปเปอร์สีแดงเฉพาะของ GT ส่วนด้านหลังมาพร้อมสปอยเลอร์พร่อมตราสัญลักษณ์ GT

ภายในห้องโดยสารก็เช่นกัน เบาะที่นั่ง, คอลโซล, แผงประตู และพวงมาลัยสีดำแดง บนพนักศรีษะมีโลโก้สัญลักษณ์ GT และเข็มขัดนิรภัยสีแดง ราวกับรถในรุ่นสปอร์ตของแบรนด์ยุโรปเลยทีเดียว

ซึ่งมาถึงตรงนี้อยากจะบอกว่า นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าในราคา 1 ล้านกว่าๆ บวกลบ ที่มีสไตล์ดูดีเชียวล่ะ ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดแบบที่เคยรับรู้และสัมผัสมา เพราะการตกแต่งมาให้แล้วนั่นหมายความว่ามีการคำนวณในเรื่องต่าง ๆ ที่อาจจะต้องเป็นกังวลมาให้แล้ว อย่างพวก น้ำหนัก, อัตราบริโภค, อากาศพลศาสตร์ หรืออะไรก็ตามแต่คันนี้มีมาให้ครบ เหมือนเวลาที่เราซื้อรถยนต์สันดาปภายในมาสักคันแล้วเราเอาไปแต่งเพิ่มนั่นแหละ

ด้านขุมพลังของมอเตอร์ไฟฟ้าถูกปรับจูนให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้นทั้งแรงม้าและแรงบิดจาก ORA Good Cat รุ่นปัจจุบันอยู่ที่ 143 แรงม้า และแรงบิด 210 นิวตัน-เมตร แต่ในรุ่น ORA Good Cat GT อยู่ที่ 171 แรงม้า และแรงบิด 250 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 152 กม./ชม. ส่วนขนาดแบตเตอรี่ความจุ 63.139 kWh โดยพื้นฐานในรุ่น GT ใช้พื้นฐานจากรุ่น 500 ULTRA ของ ORA Good Cat ปัจจุบัน

แม้ว่า ทางวิศวกรของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะบอกว่า มอเตอร์และแบตเตอรี่จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับช่วงล่างที่ด้านหน้าใช้ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโครง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม แต่จากที่ได้ลองมาแล้วรับรู้และสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แน่นอนว่าในส่วนของแรงม้าแรงบิดที่เพิ่มขึ้นจะต้องมีการปรับจูนอย่างแน่นอน ส่วนนี้ให้อารมณ์ขับสนุกสนานมากขึ้นอัตราการตอบสนองแบบถึงอกถึงใจ ดุดัน ราวกับรถสปอร์ตที่เรารู้จักกันจริง ๆ แต่เพียงมาในรูปแบบของรถยนต์ไฟฟ้าหน้าตาน่ารักคันนี้ ส่วนช่วงล่างรู้สึกได้ว่าดีขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบันโดยเฉพาะในย่านความเร็วสูงมั่นอกมั่นใจมากยิ่งขึ้นเล็กน้อย ลองโยกเปลี่ยนเลนไม่หวิวไม่วาบเหมือนที่เคยเจอในรุ่นปัจจุบัน

จะว่าไปส่วนที่ชอบมาก ๆ อยู่ที่การดีไซน์เลย มิติตัวถังใหญ่ขึ้นและยาวขึ้นจากชุดแต่งที่ใส่เข้าไป มิติตัวถังอยู่ที่ 4,254×1,848×1,596 มม. (ยาวxกว้างxสูง) หรือยาวเพิ่มขึ้น 19 มม. และกว้างขึ้น 23 มม. ซึ่งดูแล้วโดยรวมนี่คือทางเลือกของคนที่ต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและต้องการเรื่องดีไซน์เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเพราะสิ่งที่ตกแต่งมาค่อนข้างครบ

ขณะที่ ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ก็มีมาให้เต็มพิกัด ชอบก็เปิดใช้ ไม่ชอบก็ปิดได้ แต่ขอแนะนำว่าให้เปิดดีกว่าเพราะระบบที่มีมาให้นั้นช่วยลดความเครียดเมื่ออยู่บนท้องถนนที่เต็มไปด้วยรถยนต์บางครั้งเราอาจจะเผลอไปเพียงเสี้ยววินาที ระบบเหล่านี้ยังพอช่วยได้ และระบบหนึ่งที่น่าสนใจที่เพิ่มเข้ามาให้ (แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองใช้) คือ ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ และระบบจดจำเส้นทางระยะ 50 เมตร ที่ขับเคลื่อนล่าสุด ลองคิดดูว่าถ้าเจอซอยแคบซอยคันแล้วทางเดียวทมี่คุณจะทำได้คือ ถอย !! ระบบนี้จะมีประโยชน์มาก ๆ

เหลือเพียงอย่างเดียวที่ต้องรอลุ้น คือ ‘ราคา’ ที่จะเปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มิถุนายน 2565

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline