รถปลั๊ก-อิน ไฮบริด อีกคันที่น่าจับตา เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เอ็มจี เปิดตัว “เอชเอส พีเอชอีวี” ล่าสุดได้ส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าไปแล้วกว่า 800 คัน ทางค่ายเอ็มจีได้นำสื่อมวลชนทดสอบสมรรถนะรถคันนี้ ด้วยสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยให้เดินทางไกลไปค้างอ้างแรมที่ไหน ๆ จึงจัดทดลองวิ่งเส้นทางรอบกรุงเป็นวงกลมด้านใน เป็นการสัมผัสวิถีชีวิตของคนเมืองกรุง ขับรถไปทำงานในช่วงเช้าท่ามกลางจราจรที่หนาแน่น ถนนหนทางขวักไขว่ รวมระยะทางกว่า 60 กม. โดยเริ่ม สตาร์ตที่ซีดีซี เลียบด่วน ผ่านถนนพระราม 9-ดินแดง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ยาวไปพุทธมณฑล สาย 1 แวะรับประทานอาหารกลางวันย่านสีลม แล้ววนกลับมาที่ซีดีซี
เมื่อสำรวจห้องโดยสารเรียกเสียงว้าว “อวกาศ” เบาะนั่งออกแบบมาล้ำ ๆ แถมนั่งสบายด้วยนี่สิ ปรับด้วยไฟฟ้า ทำให้ลืมไปว่าเราอยู่ท่ามกลางการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น จออลังการใหญ่โตเล่นง่ายดูสบายตาปุ่มกด โหมดต่าง ๆ มากมายละลานตา โดยเฉพาะที่พวงมาลัย ก้าน ปุ่ม หมุน และเมื่อมองเห็นปุ่มซูเปอร์สปอร์ต ซึ่งทางเอ็มจีต้องการออกแบบให้ใกล้เคียงกับอารมณ์พวงมาลัยรถแข่งจริง ๆ
เริ่มออกเดินทางด้วยโหมดอีวี เครื่อง ยนต์เงียบ ห้องโดยสารเงียบ ช่วงล่างออกแนวสปอร์ตด้วยพละกำลังที่ให้มาเรียกได้สบายเร่งแซงได้ดั่งใจ สัญญาณระบบความปลอดภัยก็ทำงานทันทีเช่นกัน เตือนเมื่อมีรถเข้ามาใกล้ไฟกะพริบถี่ ตรงนี้หากมีเสียงให้สักหน่อยก็เพอร์เฟกต์ เพราะบางครั้งเราก็ลืมที่จะเหลือบมองด้านข้าง สายตาจดจ่อมองด้านหน้า ที่ชอบอีกอย่างคือระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบจะดึงเรากลับทันที ตรงนี้บอกว่าถนนต้องมีเส้น ถึงจะทำงานได้สมบูรณ์แบบ
เมื่อถึงจุดพักรับประทานกลางวันแบตเตอรี่ของเราเหลือ 11% ระยะทางวิ่งได้ประมาณ 40 กม. กว่า ๆ ถือว่าประหยัดจากภาวะแวดล้อมการจราจรที่คับคั่ง และก็เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ แต่ก็มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าแม้แบตจะแสดงหน้าจอว่าหมดแต่ยังมีพลังงานไฟฟ้าเหลือประมาณ 25% ให้สามารถใช้ได้แบบไร้กังวล
เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี เป็นรถอเนก ประสงค์รุ่นล่าสุดของเอ็มจีที่มาพร้อมเทคโนโลยีปลั๊ก-อิน ไฮบริด ผสานพลังสุดยอดแห่งระบบขับเคลื่อน 2 ระบบ เข้าด้วยกันทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ขุมพลังแห่งการขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบของระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร จากขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตัน-เมตร
ระบบเกียร์แบบ EDU II–10 สปีด ที่ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เพียง 0.2 วินาที ตอบสนองได้อย่างทันใจ และเพิ่มความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ถึง
5 รูปแบบได้แก่โหมดนอร์มัล, อีโค, อีวี และสปอร์ต เสริมด้วยปุ่มซูเปอร์สปอร์ต แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ 6 โมดูล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง โดยมีขนาดใหญ่ถึง 16.6 กิโลวัตต์ สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% สูงสุดถึง 67 กม.ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
ตกแต่งห้องโดยสารภายในด้วยสีทูโทน โมนาโคบลู เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เพิ่มฟิล์มกันเสียงและแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก พร้อมหลังคาซันรูฟที่เปิดกว้างแบบพาโนรามา จอแสดงผลอัจฉริยะขนาด 12 นิ้ว และจอควบคุมกลางแบบทัชกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบเสียง BOSE 8.1 Sound System พร้อมสร้างบรรยากาศและสีสันให้กับการขับขี่ด้วย อินเตอร์แอคทีฟ แอมเบียนไลท์ ปรับเฉดสีได้มากถึง 64 เฉดสี ระบบความปลอดภัยจัดมาเต็ม เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี มี 3 สี คือขาว, แดง และดำ มีพร้อมให้เลือกที่โชว์รูมเอ็มจี.