ค่ายโตโยต้า พัฒนารถซับ-คอมแพกต์ เอสยูวี (Sub-Compact SUV) รุ่น ซี-เอชอาร์ C-HR ย่อมาจาก คูเป้ ไฮ ไรเดอร์ (Coupe High Rider) ถือว่าประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับจากลูกค้า มียอดขายสะสมกว่า 31,680 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2561 ถึงเดือนพฤษภาคม 2564 ด้วยเอกลักษณ์การออกแบบดูโฉบเฉี่ยว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกมาสู้กับคู่แข่งได้อย่างดุเดือด แม้ว่าจะเปิดตัวออกมาทีหลังค่อนข้างนาน
ล่าสุด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำ รุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อม สีภายนอกใหม่ กับ 2 ทางเลือกสีหลังคาใหม่ หลังคาดำ แบล๊ก รูฟ (Black roof) หรือ เงิน ซิลเวอร์ รูฟ (Silver roof) เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยของโตโยต้า (Toyota Safety Sense) ระบบ ออล-สปีด ไดนามิก เรดาร์ ครุยส์ คอนโทรล (All-speed Dynamic Radar Cruise Control) พร้อมระบบ เลน แทรคกิ้ง แอสซิสต์ (Lane Tracing Assist) ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน รองรับ แอปเปิล เพลย์ (Apple Play) และ ที-คอนเน็กต์ บาย โตโยต้า (T-Connect by TOYOTA) สำหรับรถทุกคัน
สีภายนอกใหม่ ได้แก่ สีขาว แพลททินัม ไวท์ เพิร์ล (Platinum White Pearl) และ สีน้ำเงิน เนบิวลา บลู (Nebula Blue) ได้แก่ สีขาว ไวท์ เพิร์ล หลังคาดำ,สีแดง พรีเมียม เรด หลังคาดำ,สีเทาเมทัลสตรีม เมทัลลิก หลังคาดำ และ สีดำ แอตติจูด แบล๊ก ไมกา หลังคาเงิน และสีน้ำเงินเนบิวลา หลังคาเงิน
สำหรับมาตรฐานความปลอดภัยของรถโตโยต้า หรือ โตโยต้า เซฟตี้ เซน (Toyota Safety Sense) ระบบ ออล-สปีด ไดนามิก เรดาร์ ครุยส์ คอนโทรล คือ ระบบควบคุมและปรับลดระดับความเร็วได้ถึง 0 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้เมื่อไม่มีรถขวางหน้า
พร้อมระบบเลน แทรคกิ้ง แอสซิสต์ ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ แอปเปิล คาร์ เพลย์ มีระบบเชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว ผ่านแอพพลิเคชั่น ที-คอนเน็กต์ บาย โตโยต้า
C-HR รุ่นปรับปรุงใหม่ โตโยต้ายกให้เป็น สถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ (Toyota New Global Architecture) ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้เข้าโค้งได้สนุก โครงสร้างเหล็กแข็งแรง ช่วงล่างอิสระปีกนกคู่ ดับเบิล วิชโบน ซัสเพนชั่น ให้ความนุ่มนวล แต่เกาะถนน
มีเทคโนโลยี ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 ประหยัดน้ำมัน
ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ไฟโดดเด่น ทั้งไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ ฟูล แอลอีดี ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟเลี้ยวแบบ ซีเควนเชียล และไฟส่องสว่างที่กระจกมองข้างแบบ แอลอีดีระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบ ฟอลโลว์-มี-โฮม (Follow-Me-Home) เป็นระบบไฟส่องทางข้างประตูรถเมื่อจอดยามค่ำคืน
ห้องโดยสาร เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ต มาพร้อมปุ่มปรับดันหลังด้านคนขับ (Lumbar Support) ระบบแยกปรับอากาศ ดูอัล โซน (Dual Zone) ปรับอุณหภูมิบริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านซ้าย-ขวาได้อิสระ พวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงผล
หน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB/บลูทูธ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Brake Hold) โหมดการขับขี่ 3 แบบ อีวี โหมด ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในความเร็วต่ำ สปอร์ต โหมด เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ และ อีโค่ โหมด ปรับการใช้พลังงาน
มีระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร นาโน ช่วยขจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อโรคติดตั้งระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 ผสาน 2 พลัง มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมระบบ VVT-i เกียร์ E-CVT ทนทานและประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 24.4 กม./ลิตร* (*ข้อมูลอ้างอิงจาก ECO STICKER) รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี
โตโยต้า ซี-เอชอาร์ รุ่น เอชวี พรีเมียม เซฟตี้ (HV Premium Safety) ราคา 1,139,000 บาท สีพิเศษ ขาว แพลทินัม ไวท์ เพิร์ล เพิ่ม 7,000 บาท
นอกจากนี้ ถ้าใครยังคิดว่าแจ่มไม่พอ ยังมีชุดแต่ง ซี-เอชอาร์ ไฮเปอร์ไลน์ (C-HR HYPERLINE) มูลค่า 25,900 บาท ให้ใส่เพิ่ม มาพร้อมสปอยเลอร์กันชนหน้า สเกิร์ตข้าง และสปอยเลอร์กันชนหลัง รวมทั้ง กล้องบันทึกภาพด้านหน้าและหลัง
โดยรวมแล้ว ซี-เอชอาร์ รุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ ไมเนอร์เชนจ์ เน้นใส่อุปกรณ์เทคโนโลยีเพิ่มความทันสมัย เติมความปลอดภัย มาพร้อมกับสีใหม่ ดูไฉไลขึ้น เพื่อหวังเอาใจลูกค้าที่ชอบรถแนวขับสนุก ส่วนจะโดนใจลูกค้าแค่ไหน จะรับมือกับค่ายน้องใหม่จากจีน ทั้ง เอ็มจี และ เกรมวอลล์ ฮาวาล เอช 6 ที่กำลังมาแรงตอนนี้ได้หรือไม่ เร็วๆ นี้รู้กัน
นายพล