โดยกฎการเข้ารอบสุดท้าย ทีมที่เป็นแชมป์กลุ่มจากทั้ง 6 กลุ่ม จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายทันที และทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 5 จาก 6 กลุ่ม (รวมเป็น 11 ทีม) ไปเล่นรอบสุดท้าย ทั้งนี้ยังมีกรณีที่อาจเกิดความเป็นไปได้ในการที่ทีมชาติไทย จะร่วงตกรอบอยู่ด้วยเช่นกัน แม้ว่าอาจจะค่อนข้างเป็นไปได้ยากมากพอสมควร เพราะหากเกมนัดสุดท้ายทัพ “ช้างศึก” ชนะหรือเสมอ อุซเบกิสถาน จะเข้ารอบสุดท้ายทันที
สถานการณ์ล่าสุด ทีมที่ลุ้นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ประกอบด้วย อันดับ 1 ไทย (6 แต้ม +5), อันดับ 2 คีร์กีซสถาน (6 แต้ม +3), อันดับ 3 อินเดีย (6 แต้ม +3), อันดับ 4 ฟิลิปปินส์ (4 แต้ม +1), อันดับ 5 มาเลเซีย (3 แต้ม +1), อันดับ 6 อินโดนีเซีย (3 แต้ม ผลต่าง 0)
ทั้งนี้ กรณีเดียวที่ขุนพลจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา จะร่วงตกรอบแบบสุดช็อคแฟนบอลชาวไทยนั่นคือ เกมนัดสุดท้าย “ช้างศึก” แพ้ อุซเบกิสถาน และคู่แข่งที่ลุ้นอันดับ 2 ที่ดีที่สุดในกลุ่มอื่นๆ ไม่พลาดแม้แต่ทีมเดียว โดยมีทฤษฎีดังนี้
– คีร์กีซสถาน (กลุ่ม เอฟ) ที่มี 6 แต้ม เกมสุดท้ายขอแค่เสมอ ทาจิกิสถาน
– อินเดีย (กลุ่ม ดี) ที่มี 6 แต้ม เกมสุดท้ายขอแค่เสมอ ฮ่องกง
– ฟิลิปปินส์ (กลุ่ม บี) ที่มี 4 แต้ม เกมสุดท้ายต้องชนะ ปาเลสไตน์ สถานเดียว
– มาเลเซีย (กลุ่ม อี) ที่มี 3 แต้ม เกมสุดท้ายต้องชนะ บังกลาเทศ สถานเดียว และ (หากชนะสกอร์ : ห่าง 1 ลูก ลุ้นไทยแพ้ 0-4, ห่าง 2 ลูก ลุ้นไทยแพ้ 0-3, ห่าง 3 ลูก ลุ้นไทยแพ้ 0-2, ห่าง 4 ลูก ลุ้นไทยแพ้ 0-1)
– อินโดนีเซีย (กลุ่ม เอ) ที่มี 3 แต้ม เกมสุดท้ายต้องชนะ เนปาล สถานเดียว และ (หากชนะสกอร์ : ห่าง 1 ลูก ลุ้นไทยแพ้ 0-5, ห่าง 2 ลูก ลุ้นไทยแพ้ 0-4, ห่าง 3 ลูก ห่าง 2 ลูก ลุ้นไทยแพ้ 0-3, ห่าง 4 ลูก ลุ้นไทยแพ้ 0-2, ห่าง 5 ลูก ลุ้นไทยแพ้ 0-1)
สำหรับการแข่งขันเอเชียน คัพ 2023 ในรอบคัดเลือก จะนำทั้งหมด 11 ทีม ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย ที่มี 24 ทีม โดยขณะนี้มี 13 ทีมที่รอลงเล่นในรอบสุดท้ายอยู่แล้ว ประกอบด้วย ญี่ปุ่น, ซีเรีย, กาตาร์, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, อิหร่าน, ซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, จีน, อิรัก, โอมาน, เวียดนาม และเลบานอน ส่วนเจ้าภาพในรอบสุดท้ายทางเอเอฟซี จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง หลังจีนขอถอนตัวจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ
“เครือซีพี” เบื้องหล…
This website uses cookies.