“อันดับธุรกิจ” อันดับธุรกิจในไทย ธุรกิจดาวรุ่ง 2566 ธุรกิจมาแรง 2566 เทรนด์ธุรกิจ 2566 ใครที่สนใจเรื่องธุรกิจต้องรู้ เมื่อทางด้าน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิด10 ธุรกิจ ดาวรุ่ง ดาวร่วง ปี 2566 หลังการแพทย์-ความงาม ขึ้นแท่นอันดับ 1 ดาวรุ่ง ส่วนธุรกิจฟอกย้อม ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และวารสาร หนังสือพิมพ์ ติดอันดับดาวร่วง จะมีธุรกิจประเภทไหนอีกบ้าง เช็คอันดับที่นี่ TOP News
โดยล่าสุด นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ แถลง’10 ธุรกิจ ดาวรุ่ง ดาวร่วง ปี 2566′ โดยเปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจปี 2566 มีโอกาสที่ครึ่งปีแรกขยายตัว 3.4-3.6% จากแรงสนับสนุนของภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ภาคการส่งออกซึ่งเป็นดาวเด่นจะแผ่วลง พร้อมประเมินการส่งออกขยายตัวชะลอลง 1.2% จากปี 2565 ที่ขยายตัวได้ 8% ดังนั้น รอยต่อระหว่างไตรมาส 4/2565 และไตรมาส 1/2566 เศรษฐกิจไทยเคลื่อนตัววงแคบเพราะการท่องเที่ยวฟื้นตัว แต่การส่งออกย่อตัวลง ขณะเดียวกันมองว่าในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ปีหน้า การท่องเที่ยวที่เข้ามาสนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจ รวมถึงภาคการบริโภคจะเข้ามาเสริมให้เศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ อีกทั้งการที่ไทยเข้าสู่การเลือกตั้ง เชื่อว่าจะมีมาตรการรับปีใหม่ของภาครัฐออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เห็นยายตัวได้ในกรอบ 3.4-3.6% และมองว่าปลายปี 2566 ขยายตัวได้ 3.7-4% เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น จากภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่านักท่องจะเข้าไทยในช่วงดังกล่าว ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและบริการจึงมีสัญญาณที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจคือการแพร่ระบาดคลี่คลายลง รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนกลับเข้าไทยช่วงครึ่งหลังปี 2566 การส่งเสริมให้ไทยเป็นเศรษฐกิจสีเขียว อีกทั้งการเมือง และรวมถึงผลจากการประชุมเอเปค 2022 ที่ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวดีขึ้น และดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ รวมถึงเสริมการค้า และการลงทุนจากนักลงทุนชาวต่างชาติ ส่วนปัจจัยบั่นทอน คือ การแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์เอ็กซ์บีบี (XBB) ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้ภาระด้านต้นทุนของธุรกิจสูงขึ้น และทำให้ครัวเรือนใช้จ่ายน้อยลง ปัญหาสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เกิดปัญหาห่วงโซ่อุปทานชะงักงันและราคาวัตถุดิบผันผวน ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงความไม่แน่นอนของการเมืองไทยที่ส่งผงกระต่อการทำนโยบายเศรษฐกิจ สำหรับการจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง ประกอบด้วย
- ธุรกิจการแพทย์และความงาม
- ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (ธุรกิจทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์)
- ธุรกิจด้านฟินเทค (fintech) การจัดงานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า
- ธุรกิจจัดทำคอนเทนท์ การรีวิวสินค้า อินฟูเอ็นเซอร์ ธุรกิจสื่อโฆษณาและสื่อออนไลน์
- ธุรกิจแพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลางหรือตลาดกลางด้านอิเล็กทรอนิกส์)
- ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต
- ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง รวมถึงธุรกิจบันเทิงยามค่ำคืน ผับ บาร์ คาราโอเกะ
- ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ ธุรกิจโลจิสติกส์ (เดลิเวอร์รี)
- ธุรกิจเกี่ยวกับอีสปอร์ต ธุรกิจอาหารเสริม ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
- ธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจความเชื่อ (สายมู หมอดู ฮวงจุ้ย) ธุรกิจบันเทิง และธุรกิจเกี่ยวกัญชา ใบกระท่อม อย่างไรก็ตาม ธุรกิจมีการแข่งขันสูงจึงต้องมีการปรับตัวและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผลิตภัณฑ์ รวมถึงตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วย
สำหรับการจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวร่วง ประกอบด้วย
- ธุรกิจฟอกย้อม ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และวารสาร หนังสือพิมพ์รูปแบบกระดาษ
- ธุรกิจรับส่งสื่อสิ่งพิมพ์ตามบ้านและสถานที่ทำงาน ธุรกิจโรงพิมพ์/การพิมพ์
- ธุรกิจคนกลาง
- ร้านขายหนังสือ
- ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผาและเซรามิก
- ธุรกิจร้านถ่ายรูป ธุรกิจหัตถกรรม
- ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ไร้ฝีมือ หรือเสื้อผ้าโหล
- ธุรกิจคริปโตเคอร์เรนซี
- โรงเรียนเอกชน
- ธุรกิจร้านโช นายธนวรรธน์ ระบุว่า สำหรับบางธุรกิจที่เป็นดาวร่วงในปี 2566 นั้น ในปี 2565 อาจเป็นธุรกิจดาวรุ่งมาก่อน ทั้งนี้เป็นผลจากเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และมีการตื่นตัวในเรื่องของสุขภาพมาแรง รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์เข้ามามีบทบาทส่งผลให้ความสวยงามที่เข้ามาพร้อมกันจากการใช้โซเชียลมากขึ้น เช่น การสร้างคอนเทนท์ทั้งในเฟซบุ๊ก (Facebook) อินสตาร์แกรม (Instagrams) ติ๊กต็อก (TikTok) เป็นต้น จากปัจจัยดังกล่าวจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้คนทุกเจเนอร์เรชั่นหันกลับมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น