PLANB คงเป้ารายได้ปีนี้ 5.4 พันลบ.-อัดงบ 1,000 ลบ.เน้นรุก LED ใน 7-11 – efinanceThai

   PLANB คงเป้ารายได้ปีนี้ 5-5.4 พันลบ. พร้อมอัดงบลงทุนระดับ 1,000 ลบ. รุก LED ในร้าน 7-11ส่วนบริษัทร่วมทุน RS คาดจัดตั้งแล้วเสร็จภายใน Q2/64 นี้ พร้อมหวังโอลิมปิกโตเกียวเดินหน้าเติมรายได้มาอีก 350 ลบ.

   นายธนพร เตชวิวรรธน์ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ และเลขานุการบริษัท บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เปิดเผยในงาน Opportunity Day ในวันนี้ว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ 5,000-5,400 ล้านบาท แบ่งเป็นในส่วนสื่อโฆษณานอกบ้าน(Out Of home หรือ OOH) ประมาณ 4,800 ล้านบาท และรายได้จากกลุ่ม Engagement Marketing ประมาณ 880 ล้านบาท ด้านอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 10-15%

   “ภาพครึ่งปีหลังยังติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง โดยคาดว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุม ประชาชนใช้ชีวิตได้ปกติ ทำให้การใช้ชีวิตอยู่นอกที่อยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งสื่อบริษัทเราก็จะได้อานิสงส์และจะเห็นการเติบโตที่ก้าวกระโดดในระยะต่อไปได้”นายธนพร กล่าว

   สำหรับงบลงทุนปีนี้ ตั้งไว้ที่ 700-1,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ใช้สำหรับขยายจอ LED ในร้าน 7-11 ซึ่งปัจจุบันติดตั้งแล้ว 1,050 สาขา และคาดว่าจะขยายให้ได้ครบ 1,500 สาขาในต้นไตรมาส 3/64 และครบ 2,000 สาขาภายในสิ้นปีนี้ และงบสำหรับการปรับปรุงป้ายสื่อ (Renovate) จากการใช้งานมาแล้วประมาณ 5 ปี ทั้งเปลี่ยนหน้าจอและหลอดไฟ เป็นต้น

   นายธนพร กล่าวว่า ส่วนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) กับบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS นั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/64 นี้ โดยการเข้าลงทุนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อการทำการตลาดและการจัดจำหน่ายสินค้า เป็นต้น

   ด้านกีฬาโอลิมปิก โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นคาดว่าจะสามารถจัดการแข่งขันได้ในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ให้บริษัทในปีนี้ประมาณ 500-600 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมารับรู้แล้ว 151 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้ส่วนที่เหลืออีก 350 ล้านบาท ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป

   “หากไม่สามารถจัดการแข่งขันโอลิมปิกได้ หรือมีการยกเลิกก็จะทำให้หยุดการรับรู้รายได้ แต่ค่าใช้จ่ายหรือรายได้ที่บันทึกแล้วในอดีตจะไม่มีผลกระทบ เนื่องจากบันทึกแล้วจะบันทึกเลยไม่มีการยกเลิก”นายธนพร กล่าว

ลักษณะธุรกิจของ PLANB
บริษัทประกอบธุรกิจให้บริการ และผลิตสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ธุรกิจหลักดังนี้ 1. สื่อโฆษณาบนระบบขนส่งมวลชน (Transit Media) 2. สื่อโฆษณาภาพนิ่ง (Classic Media) 3. สื่อโฆษณาดิจิทัล (Digital Media) 4. สื่อโฆษณาภายในห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต (Retail Media) 5. สื่อโฆษณาภายในสนามบิน (Airport Media)6. สื่อโฆษณาออนไลน์ (Online Media) และการเพ่ิมความหลากหลายด้วยการพัฒนาธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วมได้แก่ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง อาร์ทิสเมเนจเม้นท์ และอีสปอร์ตและเกมส์ออนไลน์