PLANB คาดรายได้ปี 64 แตะ 5-5.4 พันลบ. อัดงบลงทุนปีนี้ 1 พันลบ. – efinanceThai

   PLANB คาดรายได้ปี 64 แตะ 5-5.4 พันลบ.  อัตรากำไรสุทธิที่ 10-15%  ระบุใช้งบลงทุนปีนี้ 1 พันลบ. ส่วนอัตราการใช้สื่อโฆษณาปีนี้คาดอยู่ที่ 60-65%  หวังโอลิมปิกโตเกียวหนุนรายได้เข้าบริษัทปีนี้ 500-600 ลบ.

   นายธนพร เตชวิวรรธน์ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์  บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า คาดภาพรวมรายได้ในปี 64 แตะระดับ 5,000-5,400 ล้านบาท แบ่งเป็นในส่วนสื่อโฆษณานอกบ้าน(Out Of home หรือ OOH) ประมาณ 4,800 ล้านบาท และรายได้จากกลุ่ม Engagement Marketing ประมาณ 880 ล้านบาท ด้านอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 10-15%

   โดยในปีนี้บริษัทใช้งบลงทุนประมาณ 700-1,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ใช้สำหรับขยายจอ LED ในร้าน 7-11 ซึ่งเฟสแรกที่เริ่มตั้งแต่ช่วงปีก่อนจะขยายครบ1,500 สาขาได้ในช่วงไตรมาส1/64 และคาดว่าเฟส 2 จะขยายอีก 500-1,000 สาขาได้ในช่วงครึ่งปีหลัง 64 นี้ โดยใช้เงินลงทุนสำหรับโปรเจ็กดังกล่าวประมาณ 400-500 ล้านบาท และงบสำหรับการปรับปรุงป้ายสื่อ (Renovate) จากการใช้งานมาแล้วประมาณ 5 ปี ทั้งเปลี่ยนหน้าจอและหลอดไฟ รวมประมาณ 380-400 ล้านบาท

   นอกจากนี้การผลิตสื่อจากกลุ่ม PLANB ประเภทอื่นๆ นอกจาก LED Screen ใน 7-11 และการรับรู้สื่อของกลุ่ม MACO เข้ามาเต็มปี ส่งผลให้ภาพรวมกำลังผลิตสื่อ(Media capacity)ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 7,650 ล้านบาท ด้านอัตราการใช้สื่อโฆษณา(Utilization rate)ในปีนี้นี้คาดว่าจะอยู่ระดับ 60-65% ซึ่งบริษัทยังต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 , การใช้วัคซีน และจะมีมาตรการผ่อนคลายจากรัฐบาลเพิ่มเติมหรือไม่

    ด้านกีฬาโอลิมปิก โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นคาดว่าจะสามารถจัดการแข่งขันได้ในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ให้บริษัทในปีนี้ประมาณ 500-600 ล้านบาท ส่วนป้ายรถเมล์อัจฉริยะ (Smart bus shelter) ยังเหลือการติดตั้งอีก 235 ศาลา คาดว่าจะสำเร็จภายในไตรมาส 2/64 จากสิ้นไตรมาส 4/63 สามารถติดตั้งแล้ว 115 ศาลา และติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณดังกล่าว (ป้าย cookies) 1,000 ป้าย ซึ่งมียอด Utilization rate ประมาณ 60-65% ทั้งนี้ในส่วนของ Smart bus ที่เหลืออีก 341 แห่ง บริษัทจะปรับปรุงใหม่และส่งมอบให้เขตกรุงเทพภายในครึ่งปีแรกปี 64

ลักษณะธุรกิจของ PLANB

บริษัทประกอบธุรกิจให้บริการ และผลิตสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ธุรกิจหลักดังนี้ 1. สื่อโฆษณาบนระบบขนส่งมวลชน (Transit Media) 2. สื่อโฆษณาภาพนิ่ง (Classic Media) 3. สื่อโฆษณาดิจิทัล (Digital Media) 4. สื่อโฆษณาภายในห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต (Retail Media) 5. สื่อโฆษณาภายในสนามบิน (Airport Media)6. สื่อโฆษณาออนไลน์ (Online Media) และการเพ่ิมความหลากหลายด้วยการพัฒนาธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วมได้แก่ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง อาร์ทิสเมเนจเม้นท์ และอีสปอร์ตและเกมส์ออนไลน์