ตำรวจยืนยันจำเป็นต้องควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุมจะนะ จ.สงขลา ที่รวมตัวทวงข้อเรียกร้องจากรัฐบาล บริเวณทำเนียบรัฐบาล เมื่อคืนนี้ โดยยืนยันใช้ยุทธวิธีตามหลักสากล ไม่ใช้ความรุนแรงในการเข้าควบคุมตัวกลุ่มชาวบ้าน
วันนี้ (7 ธ.ค.2564) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า มีความจำเป็นต้องควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น จ.สงขลา จำนวน 37 คน พร้อมดำเนินคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดเกี่ยวกับการกีดขวางพื้นผิวการจราจรตาม พ.ร.บ.จราจรฯ หลังจากมาชุมนุมบริเวณประตูข้างทำเนียบรัฐบาล เมื่อคืนนี้ เพื่อทวงสัญญาจากรัฐบาล กรณีจะจัดให้มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA แบบมีส่วนร่วมก่อนการก่อสร้างโครงการเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
สำหรับการชุมนุมมีการตั้งสิ่งกีดขวางการจราจรผ่านเข้าออกพื้นที่ประตูด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามส่งตัวแทนเข้าไป เพื่อขอให้ยุติการจัดกิจกรรมในบริเวณดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากกลุ่มผู้ชุมนุม และยังฝ่าฝืนการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และประเด็นสำคัญ คือข้อเรียกร้องของชาวบ้านกลุ่มนี้ รัฐบาลเคยรับข้อเรียกร้องไปแล้ว เมื่อปี 2563 โดยข้อเรียกร้องอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน
นอกจากนี้ จากการข่าวยังพบว่าการชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านจะนะ มีการแฝงตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มอื่น และมีแนวโน้มอาจจะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งยืนยันได้จากหลักฐานที่พบว่าหลังจากที่ตำรวจควบคุมตัวกลุ่มชาวบ้านไปไว้ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต แล้ว มีกลุ่มวัยรุ่นพยายามจุดพลุ และก่อความวุ่นวายบริเวณด้านหน้าสโมสรตำรวจ
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า การใช้ยุทธวิธีเมื่อคืนนี้ เป็นไปด้วยความละมุนละม่อม ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ใช่การสลายการชุมนุม มีการใช้ตำรวจหญิงชุดควบคุมฝูงชน เข้าไปดูแลกลุ่มชาวบ้านที่เป็นสตรีและผู้สูงอายุ รวมทั้งเคลื่อนย้ายสิ่งของสัมภาระของกลุ่มผู้ชุมนุมให้พ้นพื้นผิวจราจร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักวิชาการ-นักกิจกรรม ออกแถลงการณ์ประณามการสลายการชุมนุมชาวบ้านจะนะ
ตร.ขอคืนพื้นที่ข้างทำเนียบ คุมม็อบลูกทะเลจะนะเข้าสโมสรตำรวจ
2 กมธ.รับเรื่องสอบปัญหาตั้งนิคมฯ จะนะ
“ลูกสาวทะเลจะนะ” ทวงสัญญานายกฯ ยกเลิกนิคมอุตสาหกรรม
นายกฯ ไม่ยืนยันยุติโครงการเมืองต้นแบบจะนะหรือไม่