มีทเดอะเพรสซีเกมส์หวังเพิ่ม 9 ทองรวมแถลง 4 รอบกร้าวคว้า 62 ทอง

มีทเดอะเพรส ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 รอบที่ 4 อีก 5 สมาคมประกาศความพร้อม ยันช่วยกันคว้ารวมกัน 9 เหรีญทอง โดย จักรยาน กับ เทเบิลเทนนิส มั่นใจมี 2 เหรียญทอง ส่วนบิลเลียดและสนุกเกอร์ รวมถึงยกน้ำหนัก การันตีเบื้องต้น 1 เหรียญทองอย่างน้อย ทำให้รวมมีทเดอะเพรสซีเกมส์ 4 ครั้ง ทัพไทยมีโอกาสคว้าแล้ว 62 เหรียญทอง จาก 26 สมาคมกีฬาที่เดินทางมาขึ้นเวทีแถลงความพร้อม

    นายศิริ สาระผล อุปนายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานแถลงข่าว “มีท เดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31” รอบที่ 4 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อประเมินโอกาสและความหวังในการคว้าเหรียญรางวัลของทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันที่เวียดนาม ที่ห้องประชุม 222 โซนอี สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อ 25 เม.ย.65 โดยในรอบนี้ มี 5 สมาคมกีฬา เข้าร่วมแถลงความพร้อม

    นายสันติ โหลทอง นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย เผยความพร้อมของทัพอีสปอร์ตไทยว่า สำหรับทีมอีสปอร์ต เรามีนักกีฬาดีกรีระดับแชมป์โลกอยู่ในแคมป์ทีมชาติมากมาย เรื่องเหรียญไม่น่าจะเป็นที่กังวลใจ ส่วนเรื่องที่น่ากังวลคือ ตารางการแข่งขันที่ไม่นิ่ง ซึ่งอาจทำให้ทีมไทยเกิดความสับสน อีกอย่าง เจ้าภาพเวียดนาม ตัดเกมต่อสู้ที่ไม่ถนัดออกเกือบหมด รวมถึงเกมเทคเคน 7 ที่ไทยคว้าเหรียญทองในซีเกมส์หนก่อน อย่างไรก็ดี เกมอื่นที่เขาบรรจุเข้ามา ก็ยังเข้าทางเราอยู่ อย่าง ฟีฟ่า ออนไลน์ 4 ทีมชาติไทย เพิ่งคว้าแชมป์นานาชาติมาล่าสุดมาได้ หรือจะเป็น พับจี เราก็มีผู้เล่นระดับแชมป์โลก ดังนั้นเราก็ต้องพยายามให้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ให้มีจุดบกพร่อง ครั้งนี้ตั้งเป้าไว้ว่าผลงานจะดีกว่าครั้งที่แล้ว เชื่อว่ามีหวังถึง 5 เหรียญทอง แต่ตั้งเป้าไว้ก่อนที่ 3 ทอง 3 เงิน จาก 4 เกมความหวังคือ ฟีฟ่า ออนไลน์ 4, พับจี, ฟรี ไฟร์ และ อารีน่า ออฟ วาลอร์ หรือ “เอโอวี””

    ต่อด้วยสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย นายสมโภช ยิ้มพลอย อุปนายกสมาคมฯ พร้อมด้วย พ.ท.หญิง ดร.อภิญญา ดัชถุยาวัตร เลขาธิการสมาคมฯ ขึ้นชี้แจงแถลงความพร้อมร่วมกันว่า ซีเกมส์ครั้งที่แล้ว ไทยไม่ได้ส่งทีมเข้าร่วม เพราะมีปัญหาเรื่องโทษแบนเรื่องสารกระตุ้น ทว่าหนนี้ไทยกลับมาส่งครบ 14 รุ่น แบ่งเป็นชาย 7 รุ่น, หญิง 7 รุ่น ซึ่งที่ผ่านมานักกีฬาไทยเก็บตัวฝึกซ้อมมาโดยตลอด ในฝั่งผู้หญิง เวียนนาม และฟิลิปปินส์ ที่มีนักกีฬาระดับเหรียญโอลิมปิก ถือว่าแข็งแกร่งมากๆ ส่วนผู้ชาย มาเลเซีย ก็แข็งแกร่งสุดเช่นกัน เป้าหมายของทีมเบื้องต้น มองว่ามีลุ้น 1 เหรียญทอง และก็มั่นใจลึกว่าน่าจะทำได้ไม่น่าน้อยกว่า 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ซึ่งเป็นผลงานในการแข่งขันเมื่อปี 2017 ที่มาเลเซีย

    ด้าน วิสุทธิ์ กสิยะภัทร ผู้จัดการทีมจักรยาน เผยว่า ซีเกมส์ 2019 ทีมสองล้อไทย คว้าได้ 6 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง น่าเสียดายในหนนี้ อีเวนท์ บีเอ็มเอ็กซ์ ที่เราได้ 2 เหรียญทองหนก่อน ถูกตัดออก เพราะเจ้าภาพอ้างว่าไม่มีนักกีฬา และไม่มีสนามแข่งขัน หนนี้เหลือชิงชัย 3 ประเภท คือ ประเภทถนน, ครอสคันทรี และดาวน์ฮิลล์ ความหวังของสมาคมมองว่ามีโอกาสได้ 2 เหรียญทอง โดยรอบนี้เรามีลุ้นหลายอีเวนท์เหมือนกัน อาทิ ประเภทถนนหญิง ซึ่งเวลานี้ จุฑาธิป มณีพันธ์ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มพีค เช่นเดียวกับ เพชรดารินทร์ สมราช ซึ่งก็จะต้องวัดกับ เหงียน ธิ ทัต แชมป์เอเชีย ของเจ้าภาพ โดยประเภทถนนหญิง หากใครได้เหรียญทอง ก็มีโอกาสจะช่วยทีมเบิ้้ลเหรียญทองทีมหญิงด้วย

    “ส่วนประเภทถนนบุคคลชาย พีระพล ชาวเชียขวาง กับ สราวุฒิ สิริรณชัย มีสิทธิ์ลุ้นเหรียญ 1 ทอง ด้านดาวน์ฮิลล์ เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ กับ วิภาวี ดีคาบาเลส ยังเป็นตัวความหวังของทีมเหมือนเดิม ก็มีสิทธิ์หยิบเหรียญทองเพิ่มได้เช่นกัน ส่วนครอสคันทรีชาย นอกจาก กีรติ สุขประสาท ที่เป็นแชมป์เก่า ก็อยากให้จับตา พูนศิริ ศิริมลคล ที่สมาคมส่งไปเก็บตัวที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งก็มีลุ้นจะสอดแทรกคว้าเหรียญรางวัลให้ทีม”

    ต่อด้วย นาวาเอก พิเศษ สมศักดิ์ ตรีธาร อุปนายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย “โค้ชกิจ” กรกิจ เสริมกิจเสรี ผู้ฝึกสอนเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย เผยถึง ความพร้อมว่า ทางโอลิมปิกให้โควตานักกีฬาไทยมาทั้งหมด 9 คน แบ่งเป็น หญิง 5 และ ชาย 4 ซึ่งล่าสุดส่วนใหญ่จะเดินทางไปแข่งโปรทัวร์นานาชาติเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และได้ฝึกซ้อม โดยตัวแทนทีมชาติทั้ง 9 คน นี้ส่วนใหญ่เป็นชุดเดิม ความหวังคงอยู่ที่ทัพนักกีฬาหญิงที่ผลงานในปีหลังๆ ดีขึ้นมาเป็นลำดับ ซีเกมส์ในครั้งนี้จึงสามารถคาดหวังได้จากทั้งประเภทหญิงเดี่ยว, หญิงคู่, คู่ผสม และ ทีมหญิง จาก 7 อีเวนต์ที่จัดแข่งคาดหวังว่าน่าจะคว้าได้ 2 เหรียญทองจากประเภทนักกีฬาหญิง ซึ่งแน่นอนว่าในกีฬาระดับซีเกมส์ นอกจากสิงคโปร์ที่โอนผู้เล่นสัญชาติจีนมาช่วยแล้ว ชาติอื่นๆ ไทยชนะได้หมด

    ปิดท้ายที่ นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกสมาคมฯ ขึ้นกล่าวความพร้อมของทีมบิลเลียดและสนุกเกอร์ไทยว่า ซีเกมส์รอบนี้ มีชิง 10 เหรียญทอง แบ่งเป็น บิลเลียด 2 ทอง ประเภทเดี่ยวและคู่, สนุกเกอร์ 2 เหรียญทอง ประเภท 15 แดง และ 6 แดง, พูล 4 เหรียญทอง จากประเภท 9 ลูก และ 10 ลูก ชาย-หญิง และ แครอมบอล 2 เหรียญทอง จากประเภท 1 ชิ่งเดี่ยว และ 3 ชิ่งเดี่ยว โดยสนุกเกอร์ เราใช้มือสมัครเล่นลงชิงชัย นำโดย กร นครปฐม และ นุ๊ก สงขลา และเรายังมี ต๋อง ศิษย์ฉ่อย วัย 53 ปี มาร่วมแข่งขันด้วย ซึ่งในประเภทสนุกเกอร์ คู่แข่งสำคัญ คือมาเลเซีย

    “บิลเลียด เราต้องเตรียมปะทะกับดีกรีระดับแชมป์โลกอย่าง ปีเตอร์ กิลคริสต์ ที่โอนสัญชาติมาอยู่กับประเทศสิงคโปร์ ส่วนประเภทพูลนั้นเราตั้งความหวังไว้กับนักกีฬาหญิง ในส่วนของเรื่องการตั้งเป้านั้นจริงๆ ทางสมาคมฯ อยากจะบอกว่ามีโอกาสคว้า 2 เหรียญทอง แต่ประเมินสถานการณ์แล้ว นักกีฬาจากเวียดนามเจ้าภาพและสิงคโปร์อยู่ในช่วงที่พัฒนาฝีมือขึ้นมาดี ดังนั้นทางสมาคมฯ ขอตั้งเป้า 1 เหรียญทองไว้ก่อนจากสนุกเกอร์หรือบิลเลียด

    สรุปความคาดหวังในงานมีทเดอะเพรสกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 รอบที่ 4 ทั้ง 5 สมาคมกีฬา ตั้งเป้าคว้ารวม 9 เหรียญทอง แบ่งเป็น อีสปอร์ต 3 เหรียญทอง, ยกน้ำหนัก 1 เหรียญทอง, จักรยาน 2 เหรียญทอง, เทเบิลเทนนิส 2 เหรียญทอง และ บิลเลียดและสนุกเกอร์ 1 เหรียญทอง ทำให้รวมมีทเดอะเพรส 4 ครั้ง ทั้ง 26 สมามกีฬา ประกาศความหวังของทัพไทยในโอกาสคว้าเหรียญทองซีเกมส์ อยู่ที่จำนวน 62 เหรียญทอง

    ทั้งนี้การแถลงความพร้อมทัพไทย ในงานมีทเดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 หนสุดท้าย (ครั้งที่ 5) จะมีขึ้นในวันพุธ ที่ 27 เม.ย.65 ที่ห้องประชุม 222 โซนอี สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 13.00 น. โดยในวันกล่าวจะมี 12 สมาคมกีฬา ประกอบด้วย เทควันโด, คาราเต้, วูซู, กรีฑา, ยิงปืน, ยิงเป้าบิน, เทนนิส, ไตรกีฬา, เรือพาย (กรรเชียง, แคนู, คายัค), ลีลาศ, หมากรุกเซี่ยงฉี่ และกอล์ฟ เข้าแถลงความพร้อมและความคาดหวังร่วมกันเป็นหนสุดท้าย