Microsoft เข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard ด้วยเงินกว่า 2.2 ล้านล้านบาท ได้กลายเป็นดีลครั้งประวัติศาสตร์ที่มีมูลค่ามหาศาล
การเข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard บริษัทผู้พัฒนาเกมและเนื้อหาความบันเทิงรายใหญ่ ทำให้ Microsoft บริษัทไอทียักษ์ใหญ่กลายเป็นบริษัทที่ทำการซื้อขายกิจการที่มีมูลค่ามหาศาล ด้วยเงินกว่า 68.7 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (2.2 ล้านล้านบาท) ซึ่งทำให้เกิดการพูดถึงความน่าจะเป็นหลังจากนี้ และนี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในแวดวงเทคโนโลยีหลังมีการเข้าซื้อกิจการ วันที่ 18 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา
บริษัทเกมอันดับ 3 ของโลก
การได้เป็นเจ้าของกิจการบริษัทเกมรายใหญ่อย่าง Activision Blizzard ทำให้ Microsoft กลายเจ้าของบริษัทเกมที่มีรายได้เป็นอันดับ 3 ของโลกไปโดยปริยาย อีกทั้งยังเป็นการเปิดทางเข้าสู่ธุรกิจเกมอย่างเต็มตัว และเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะ Activision Blizzard มีทั้งเกมชื่อดังจำนวนมากและแพลตฟอร์มที่ช่วยในการเข้าถึงเนื้อหาของเกม เมื่อนำมารวมกัน Microsoft ก็จะมีช่องทางในการให้บริการหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สมาร์ตโฟน เครื่อง PC เครื่องเล่นเกมแบบคอนโซล และคลาวด์ รวมไปถึง Metaverse ที่กำลังได้รับความสนใจด้วย
เจ้าของลิขสิทธิ์เกมดัง
Microsoft จะกลายเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เกมดัง เช่น Call of Duty, Overwatch, Diablo, World of Warcraft, Hearthstone และอื่น ๆ รวมไปถึงเกมในกลุ่ม Candy Crush ทั้งหมด เรียกว่าได้ผูกขาดลิขสิทธิ์เกมชื่อดังไว้เป็นจำนวนมาก นอกจากการวางแผนเตรียมป้อนเกมเข้าสู่แพลตฟอร์มตัวเองแล้ว Microsoft ยังเตรียมที่จะผลิตเนื้อหาเกมแบบ Exclusive มากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงผู้เล่นในแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
เตรียมเข้าสู่ Metaverse
การเข้าซื้อกิจการของ Activision Blizzard ได้กลายเป็นโอกาสและช่วงเวลาที่ดีของ Microsoft ในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่จะช่วยในการเข้าถึง Metaverse ผ่านการพัฒนาเกม โดย Microsoft นั้นมีเทคโนโลยี Mesh และเกมที่ช่วยจำลองโลก Metaverse อยู่แล้ว แต่การเข้าซื้อกิจการบริษัทเกมรายใหญ่จะยิ่งทำให้ Microsoft มีความพร้อมในการเข้าถึงโลก Metaverse ได้เร็วขึ้น และอาจกลายเป็นผู้นำในด้านนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น
ความหลากหลายของเนื้อหาเกม
คอเกมส์หรือผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์จากส่วนนี้มากขึ้น เพราะนอกจากสีสันที่จะเกิดขึ้นในแวดวงของผู้พัฒนาเกมแล้ว ยังมีทางเลือกที่มากมายที่กำลังจะเกิดขึ้น บริษัทเกมคู่จะตื่นตัวและมีการปรับตัวไปอย่างไร แต่ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการแข่งขันซึ่งจะทำให้เกิดความหลากหลายอย่างแน่นอน
ที่มาข้อมูลและภาพ: news.microsoft, bloomberg, gamesindustry, cnbc
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech