หลังจากที่คุณอ่านบทความนี้จบ คุณจะรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ LoL Wild Rift หรือ LoL เวอร์ชันมือถือ
ในบทความนี้ ตอบคำถามยอดนิยมมากมายเช่น
- แตกต่างกับ RoV ยังไง?
- มีแชมเปียนส์กี่ตัว?
- ต้อง Last Shot มินเนียนมั้ย?
- เล่นไอดีเดียวกับบท PC ได้รึเปล่า?
- Riot หรือ Garena เป็นคนให้บริการในไทย?
และในบทความนี้ยังสอนสิ่งที่ผู้ที่จะเล่น LoL Wild Rift ทุกคนควรรู้อีกด้วยเช่น
- วิธีเล่น LoL Wild Rift
- รูน LoL Wild Rift
- สเปคขั้นต่ำมือถือเพื่อรองรับ LoL Wild Rift
- ไอเทมในเกม LoL Wild Lift
- และเรื่องที่ควรรู้อีกมากมาย เนื้อ ๆ เน้น ๆ
เพราะฉะนั้นถ้าคุณสนใจและอยากที่จะที่จะเล่น LoL Wild Rift ให้นำหน้าคนอื่นล่ะก็ คุณจะหลงรักบทความนี้อย่างแน่นอน
งั้นอย่าเสียเวลา…ไปลุยกันเลย!
ปล. ถ้าใครอ่านไม่จบก็กดเซฟไว้เป็น Bookmark ได้ เพราะบอกเลยว่าบทความนี้รายละเอียดอัดแน่นสุด ๆ
ปล2. ทาง Bangkok Esports จะมีการอัพเดทข้อมูลเรื่อย ๆ หากมีเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงครับ
LoL Wild Rift คืออะไร?
โดยก่อนหน้านี้มีภาพหลุดออกมาให้เราได้ดูกันเรื่อย ๆ ในชื่อเรียกว่า LoL Mobile ซึ่งมีออกมาหลายต่อหลายครั้งเป็นอย่างมาก ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ LoL Wild Rift คือ League of Legends หรือ LoL เกม Moba อันดับ 1 ในโลก แต่เป็นเวอร์ชันมือถือและ Console แทน
แต่เดิมเกม LoL นั้นเป็นเกม Moba ที่อยู่ใน PC อย่างเดียว แต่ด้วยความที่อุตสาหกรรมเกมพัฒนาไปเรื่อย ๆ มือถือเลยมีความสำคัญมากขึ้นจนกลายเป็นส่วนแบ่งตลาดขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเกมไปแล้ว
ด้วยเหตุนี้ทาง Riot Games ผู้สร้าง LoL เลยตัดสินใจนำเกม LoL มาปรับเพื่อให้สามารถเล่นในมือถือได้นั่นเอง
จุดที่น่าสนใจคือ ทาง Riot Games บอกว่าไม่ได้นำเอา LoL จากบน PC มายัดไว้ในมือถือเฉย ๆ แต่พวกเขา ‘สร้างเกม LoL’ ขึ้นมาใหม่จาก 0 เลย ทำให้มีหลาย ๆ ส่วนใน LoL Wild Rift แตกต่างจาก LoL PC เช่นท่าทางการเดิน และสกิลของตัวละครซึ่งจากตัวอย่างเราก็เห็นกันแล้วว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปจริง ๆ
LoL Wild Rift ต่างจาก RoV ยังไง?
เชื่อว่านี่จะเป็นหัวข้อที่หลาย ๆ คนคงอยากรู้กัน เพราะผู้เล่นชาวไทยที่เล่น RoV อยู่นั้นก็มีไม่น้อยเลยที่เป็นผู้เล่น LoL เก่า หรือผู้เล่น RoV ตอนนี้ เมื่อเห็น LoL Wild Rift เปิดตัวก็เกิดสนใจ แต่กำลังกังวลว่ามันต่างกับ RoV มากมั้ย
ต้องบอกว่า ถ้าแม่จะเป็น Moba บนมือถือเหมือนกัน แต่มันแตกต่างกันหลายจุดมาก เราไปดูกันเลย!
-
มี Ward
ในเกม RoV มีเพียงฮีโร่บางตัวเท่านั้นที่มีสกิลในการวางกับดักไว้ทำให้สามารถเห็นศัตรู เช่นกับดัก Elsu หรือ Lindis ทำให้เป็นเรื่องยากมากที่จะเห็นศัตรูตามจุดต่าง ๆ ในแผนที่
แต่เกม LoL Wild Rift มีสิ่งที่เรียกว่า Ward ที่เป็นไอเทมในเกม ซึ่งเมื่อใช้งานจะสามารถทำให้เห็นพื้นที่บริเวณรอบ ๆ นั้นได้ ถึงแม้ตัวละครเราจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นก็ตาม (แต่เหมือนตอนนี้จะปัก Ward ได้แค่บางจุด)
2. LoL ต้อง Last Shot ครีปถึงจะได้เงิน (แก้ไข)
ในเกม RoV แค่เราอยู่ใกล้ ๆ ครีปที่กำลังจะตายก็ได้เงินแล้ว แต่สำหรับเกมนั้น ถ้าไม่ทำการสังหารครีปเป็นดอกสุดท้าย หรือ Last Shot จะ ‘ได้เงินน้อยกว่ามาก ๆ’ และยังคงได้ XP อยู่ ซึ่งเรื่องรอการยืนยันต่อไป
แต่ยังดีที่ทางเกมจะมีการบอกว่า ถ้าทำการโจมตีครั้งนี้แล้วจะได้ Last Shot แน่นอน ด้วยการที่โชว์เลือดของเป้าหมายนั้น ๆ เป็นสีขาว
3. ซื้อไอเทมได้เฉพาะที่น้ำพุเท่านั้น
ต่างจาก RoV ที่เมื่อมีเงินเมื่อไรก็สามารถกดซื้อได้เลย สำหรับเกม จะต้องซื้อไอเทมที่น้ำพุเท่านั้น ทำให้ต้องมีการกลับบ้านเรื่อย ๆ มีการ Snowball ในเกมน้อยลง ไม่ใช่การบุกรัว ๆ
4. LoL Wild Rift จะให้บริการโดย Riot Games ไม่ใช่ Garena
สำหรับประเทศไทย Garena เป็นผู้ให้บริการเกม RoV แต่อ้างอิงจากคนที่เคยไปงานฉลองครบรอบ 10 ปีของ Riot Games และได้ทดลองเล่นเกมแล้ว ได้เผยว่า Riot Games จะเป็นผู้ให้บริการเองเลยในไทยไม่ใช่ Garena
5. มีรูนฟรี
ผู้เล่น RoV หลายคนคงหมดเงินในเกมเป็นหมื่น ๆ หรือแสน ๆ แล้วกับการอัปรูนให้เต็มทั้งหน้า
แต่สำหรับเกมจะมีรูนให้ครบเลยตั้งแต่ต้นไม่จำเป็นต้องซื้อ และสามารถเก็บเงินในส่วนนั้นไปซื้อแชมเปียนส์แทนได้
6. มี 4 สกิล
ในเกม RoV จะมีสกิลที่สามารถกดใช้งานได้ทั้งหมด 3 สกิล คือสกิล 1,2 และ Ultimate แต่สำหรับเกมนั้นจะมีสกิล 1, 2, 3 และ Ultimate นั่นเอง ทำให้ตัวละครมีความหลากหลายมากกว่า แต่ตัวละครของทั้งสองเกมมีสกิลติดตัวเหมือนกัน
7. อัป Ultimate ได้เมื่อเลเวล 5
สำหรับเกม RoV ผู้เล่นจะสามารถอัป Ultimate ได้เมื่อเลเวล 4 แต่ จะอัปได้เมื่อตัวละครเลเวล 5 ทำให้ตัวเกมมีระยะเวลาการยืนเลนก่อนมีทีมไฟท์นานกว่านิดหน่อย
8. มี Objective เฉพาะตัว
Objective ในเกม RoV จะมี Dark Slayer, Abyssal Dragon และ Spirit Sentinel แต่สำหรับเกม LoL Wild Rift นั้นจะมี Objetive หน้าตาคล้าย ๆ กันแต่ให้เอฟเฟคต่างกัน
Baron Nashor = ทีมใดก็ตามที่สังหารจะได้บัฟเพิ่มโบนัสดาเมจ, โบนัสพลังเวท, วาร์ปกลับบ้านไว, ออร่าที่ทำให้มินเนียนแข็งแกร่งกว่าปกติ
Drake = มังกรในเกมมี 4 ธาตุ (ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ) แต่ละธาตุให้เอฟเฟคแตกต่างกันออกไป (เช่น มังกรไฟเพิ่มพลังโจมตีและพลังเวท) และในแต่ละรอบ มังกรที่เกิดออกมาจะสุ่มธาตุ
Rift Herald = ทีมใดก็ตามที่สังหารจะสามารถเก็บไข่ของ Rift Herald ได้ และเมื่อกดใช้งานจะเรียก Rift Herald ออกมาช่วยตีป้อมอย่างรุนแรง (คล้าย ๆ Drake Mondester ที่ได้จาก Dark Slayer)
9. มีต้นไม้ป่า
ในเกม ที่บริเวณใกล้ป่า, แม่น้ำ และใกล้ป้อมจะมีต้นไม้ที่มีเอฟเฟคพิเศษต่าง ๆ ซึ่งไม่มีใน RoV โดยต้นไม้ป่ามี 3 ชนิด
- ต้น Scryer’s Bloom เมื่อโจมตีมันจะปล่อยละอองออกไปในทิศที่เราโจมตี เพื่อเปิดการมองเห็นเป็นระยะเวลาหนึ่ง
- ต้น Blast Cone เมื่อโจมตี มันจะระเบิดออกส่งผลให้สิ่งที่อยู่รอบ ๆ มันกระเด็นไปตามทิศทางต่าง ๆ
- ต้น Honeyfruit เมื่อโจมตีจะดรอปผลของมันออกมา และถ้าเดินไปเก็บมันจะเคลื่อนที่ช้าลง แต่ฟื้นฟูพลังชีวิตและมานา
ต้นไม้เหล่านี้จะสุ่มเกิดทำให้ตัวเกมมีความหลากหลายและพลิกแพลงมากขึ้น
10. มีมินเนียนชุดละ 4 ตัว
ในเกม RoV จะมีครีปชุดละ 3 ตัว คือตีใกล้ 2 ตัว และตีไกล 1 ตัว
แต่สำหรับ LoL Wild Rift จะมีตัวตีใกล้ 2 ตัว และตัวตีไกล 2 ตัวเท่ากัน ทำให้ใช้เวลาในการเคลียนานกว่า
11. มี Summer Spell ที่ต่างออกไป
ด้วยความที่ตัวเกม LoL Wild Rift อิงมาจาก LoL ทำให้มี Summoner Spell หรือสกิลชาเลนเจอร์ (ในภาษา RoV) ที่ต่างออกไป เช่น LoL มีบาเรีย แต่ไม่มี Disrupt ที่ RoV มี
12. เอา Spell มาได้ 2 อัน
ในเกม RoV จะเลือกสกินชาเลนเจอร์หรือ Spell ได้แค่ 1 อันเท่านั้นต่อเกม เช่นไม่สามารถเอา Flicker กับ Heal มาพร้อมกันได้ แต่ LoL Wild Rift นั้นเอามาทั้ง Heal และ Flash ได้เลยทำให้ตัวเกมมีการพลิกแพลงมากขึ้น
13. มีสเปคมือถือขั้นต่ำที่มากกว่า RoV (จากที่ออกมา ณ ตอนนี้)
จากสเปคที่ปล่อยออกมา LoL Wild Rift ต้องใช้ RAM ขั้นต่ำ 2 GB และ CPU 4 Cores ในขณะที่ RoV ใช้ RAM ขั้นต่ำที่ 1 GB และ CPU 4 Cores
14. มีคูลดาวน์ Ultimate ที่นานกว่า
ในเกม RoV จะสังเกตได้ว่า Ultimate ส่วนใหญ่จะมีคูลดาวน์ไม่เกิน 60 วินาที แต่สำหรับ LoL Wild Rift คูลดาวน์มันอาจจะนานเป็น 70 วินาที หรือมากกว่านั้นเลยก็ได้
วิธีเล่น LoL Wild Rift
หากใครที่ได้ดูคลิปเปิดตัวของทาง LoL Wild Rift คงพอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่ารูปแบบเกมเพลย์ส่วนใหญ่จะแทบไม่ต่างอะไรไปจากเกม Moba Mobile เท่าไหร่นักแต่อาจจะมีการเพิ่มระบบต่าง ๆ เข้ามาในแบบที่เกม Moba อื่น ๆ ไม่เคยมีมาก่อนบ้าง เช่น Ward, Spell 2 อัน หรือรูนที่แปลกใหม่
ถ้าให้อธิบายสั้น ๆ LoL Wild Rift เป็นเกมต่อสู้แบบ 5 ต่อ 5 ที่ผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะเลือกแชมเปียนส์มาต่อสู้กัน ทีมใดก็ตามสามารถทำลายฐานหลัก หรือ Nexus ของอีกฝ่ายก่อนได้จะเป็นทีมที่ชนะไป
มี Loop การเล่นเกมเหมือนเกม Moba อื่น ๆ เช่น เก็บเงิน เก็บค่าประสบการณ์จากการตีป้อม/ตีมินเนียน/ตีมอนสเตอร์ป่า/ฆ่าศัตรู > ซื้อไอเทมให้แข็งแกร่งขึ้น วนไปเรือย ๆ จนสามารถทำลายฐานของศัตรูได้ก่อนนั่นเอง
อย่างไรก็ตามไม่ต้องกังวลไปเพราะหากคุณเคยเล่นเกมอย่าง RoV, Mobile Legends หรือ Vain Glory มาล่ะก็จะสามารถเข้าใจและเล่น LoL Wild Rift ได้ไม่ยากเลยละครับ
LoL Wild Rift มีโหมดอะไรบ้าง?
สำหรับโหมดในเกม LoL Wild Rift คาดว่าจะมีประมาณ 3 โหมดหลัก ๆ (อิงจากที่ Riot Paladin บอกในคลิป) ได้แก่:
- Summoner’s Rift : Normal (โหมดทั่วไป)
- เล่นแบบ 5 ต่อ 5
- เล่นแบบ 3 เลน
- เลือกแชมเปียนส์พร้อมกันทุกคน (ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายเลือกอะไร)
- Summoner’s Rift: Rank Mode (โหมดจัดอันดับ)
- เล่นแบบ 5 ต่อ 5
- มีการแบนตัวละครทีมละ 5 ตัว (คนละตัว)
- เล่นแบบ 3 เลน
- เลือกแชมเปียนส์สลับกันไปมา (ผู้เล่นทีม A เลือก 1 ตัว, ผู้เล่นทีม B เลือก 2 ตัว, ผู้เล่นทีม A เลือก 2 ตัว,… วนไปเรื่อย ๆ)
- การแพ้ชนะในโหมดนี้จะส่งผลต่ออันดับของเรา
- ARAM (เล่นทางเดียว)
- เล่นแบบ 5 ต่อ 5
- ทุก ๆ คนไปเล่นกันในเลนเดียว
- สุ่มตัวละครทุกคน
- เน้นบวกทีมไฟท์กันรัว ๆ
แชมเปียนส์ใน LoL Wild Rift เป็นยังไง?
เชื่อว่าในบรรดาคนที่สนใจอยากจะเล่นเกม League of Legends Wild Rift นั้นส่วนใหญ่แล้วต้องเคยเห็นตัวละครของเกมแบบดั้งเดิมในเวอร์ชั่นคอมพิวเตอร์มาไม่มากก็น้อยบางคนอาจจะเคยเล่นมาเเล้วก็มี
โดยในเวอร์ชั่น PC นั้นมีตัวละครเยอะเป็นร้อยตัวที่โลดแล่นบนโลกของเกม LoL แต่เมื่อมาอยู่ในเกม League of Legends Wild Rift นั้นดูเหมือนว่าทาง Riot จะตั้งต้นที่ 41 ตัวกันก่อนเมื่อเปิดตัวดังนี้
Lux แชมเปียนส์เมจที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีเชื่อว่าจะเข้ามาเป็นขวัญใจของใครหลายคนแน่นอน
Annie แชมเปียนส์เมจสายน่ารักสามารถเรียกหมีออกได้ สาว ๆ ชอบตัวนี้กัน
Yasuo แชมเปียนส์ไฟท์เตอร์ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะมะเร็งของ League of Legends Wild Rift
Zed ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่หลายคนตั้งตารอเล่นกันเลยทีเดียวสำหรับแชมเปียนส์นินจาตัวนี้รับรองว่าเราจะได้เห็นกันเต็มเซิร์ฟเวอร์ไม่แพ้ Yasuo แน่นอน
Master Yi แชมเปียนส์ขวัญใจอีกหนึ่งตัวที่ชาวไทยชอบเล่นกันมาก ๆ เชื่อว่าเมื่อเปิดตัวคนจะต้องเล่นเยอะอย่างแน่นอน
Ahri แชมเปียนส์จิ้งจอกสายเมจอีกหนึ่งในตัวที่ทุกคนต้องเปย์เงินซื้อสกินให้กับนาง
Jinx แชมเปียนส์ที่เป็นตัวโปรโมทเกมในครั้งนี้ เป็นแครี่ที่เก่งมาก ๆ ตัวนึง
Ezreal แชมเปียนส์แครี่ที่มีความพริ้วสูงมากเหมาะกับคนชอบเล่นตอดไปเรื่อย ๆ
Garen แชมเปียนส์สุดคลาสสิคของการเเทบจะเรียกได้ว่าผู้เล่นเริ่มต้นทุกคนแทบจะต้องเคยเล่น
นอกจากนี้ยังจะมีตัวอื่น ๆ ดังนี้ :
- Xin Zhao
- Dr.Mundo
- Nami
- Shyvana
- Malphite
- Miss Fortune
- Vi
- Braum
- Gragas
- Nasus
- Fiora
- Ryze
- Tryndamere
- Vayne
- Ashe
- Blitzcrank
- Fizz
- Jax
- Alistar
- Olaf
- Janna
- Oriana
- Soraka
- Zigg
- Camille
- Teemo
- Jhin
- Twisted Fate
- Darius
- Diana
- Draven
- Cassiopia
และนี่ก็คือทั้งหมดที่ทางเราสามารถหามาได้ในตอนนี้ซึ่งแต่ละตัวก็มีความสามารถที่ไม่เหมือนกันและมีตำแหน่งเป็นของตัวเองเหมือนกับเกม Moba อื่น ๆ เช่นกัน
นอกจากนี้แล้วยังมีบางตัวที่สกิลมีการเปลี่ยนแปลงไป เช่น Ashe ที่เห็นได้ชัด ๆ ว่าอันติของเธอที่แต่ก่อนเคยยิงเป็นเส้นตรงเท่านั้น ตอนนี้กลับสามารถเลี้ยวได้นั้นเองครับ
คลิปบังคับธนู (0.39)
แบบ PC
สุดท้ายสำหรับในหมวดของแชมเปียนส์ในเกม LoL Wild Rift ตอนนี้เลยก็คือแต่ละตัวจะมีสกิลที่ใกล้เคียงกับในเวอร์ชั่น PC ทั้งหมดซึ่งสามารถหาอ่านได้จากในเว็บ LoL
รับรองเลยว่าใครที่ได้เข้าไปศึกษาดูก่อนและเรียนรู้สกิลของแต่ละแชมเปียนส์จะต้องเลือกตัวที่เหมาะกับสไตล์การเล่นตัวเองและไต่แรงค์ได้ง่ายขึ้นเมื่อเกมเข้ามาแน่นอนครับ
ตำแหน่งในเกม LoL Wild Rift
อย่างที่เรารู้กันดีว่าในเกม MOBA แชมเปียนส์แต่ละตัวย่อมมีความสามารถที่แตกต่างกันไปซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการเลือกเล่นว่าแชมเปียนส์ตัวนี้ควรเล่นตำแหน่งอะไร
โดยในเกม LoL นั้นก็ไม่ต่างกันเพราะหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ตำแหน่งนั้นด้วยกันซึ่งจะมีการเรียกแตกต่างไปจากเดิมนิดหน่อยนั้นก็คือ
- Middle Lane : ตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่จะไปเลนกลางตัวที่เล่นมักจะเป็นแชมเปียนส์ที่สร้างความเสียหายได้เยอะ (โดยมากมักจะเป็นสายเวท) ที่ต้องการเงินและเลเวลมาก ๆ อีกทั้งยังสามารถไปช่วยเลนข้างได้อีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น : Lux , Annie , Yasuo , Zed , Ahri , Ryze , Fizz , Oriana , Zigg , Teemo , Twisted Fate - Jungle : โดยมากตำแหน่งนี้จะอยู่ในป่าและออกไปช่วยเพื่อนทำเกมสร้างความกดดันให้กับอีกฝ่ายซึ่งแต่หากเดินได้ไม่ดีก็อาจจะทำให้เพื่อนโดนกดดันทน ดังนั้นแล้วผู้เล่นที่จะเล่นป่าต้องรู้จักแมพได้ดีพอสมควรครับ
ยกตัวอย่างเช่น : Master Yi , Xin Zhao , Shyvana , Vi , Gragas , Olaf - Top Lane เรียกเป็น Baron Lane : ตำแหน่งนี้มักจะไปเลนบนของแผนที่แต่คิดว่าในการเล่นแบบมือถือที่เป็นแผนที่แบบ Mirrior น่าจะต้องเรียกว่าเป็นเลน Baron แทน โดยมากแล้วมักจะเป็นตัวที่แข็งในเลนมาก (ไฟท์เตอร์ทั้งหลาย)
ยกตัวอย่างเช่น Garen , Dr.mundo , Nasus , Fiora , Trydamere , Jax , Camille - Maskman หรือ Carry เรียกเป็น Drake Lane : ตำแหน่งที่สำคัญมากเพราะจะทำดาเมจให้เพื่อนส่วนมากแล้วจะอยู่เลนล่าง แต่หากอยู่ในมือถืออาจจะต้องเรียกว่าเป็นเลน Drake Dragon ครับ (ตัวตีไกลทั้งหลาย)
ยกตัวอย่างเช่น : Jinx , Ezreal , Miss Fortune , Vayne , Ashe , Jhin - Support : สำหรับซัพพอร์ทเกม LoL จะแตกต่างจาก RoV เพราะส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเดินโรมไปมามากเท่าไหร่นักแต่จะอยู่เลนล่างและเลี้ยง Carry ของเราให้เกิดมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สามารถโรมได้เลยนะครับ
ยกตัวอย่างเช่น : Nami , Malphite , Braum , Blitzcrank , Alistar , Janna , Soraka
*ทั้งหมดไม่ตายตัวสามารถปรับเปลี่ยนได้หมด เช่น Yasuo สามารถเล่นเป็น Carry ได้ หรือ Gragas ที่สามารถเล่นเลนกลางได้เช่นกัน
LoL Wild Rift มีรูนอะไรบ้าง?
มาถึงที่ระบบต่อไปของเกม League of Legends Wild Rift กันแล้วนั้นก็คือเรื่องของ Rune หรือ รูน ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมพลังให้กับแชมเปียนส์ในเกม
ถ้าให้อธิบายสั้น ๆ รูนในเกม LoL Wild Rift นั้นเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มทั้งค่าสถานะและให้เอฟเฟคเฉพาะตัวกับตัวละครนั้น ๆ (คล้าย ๆ รูนกับพลังแฝงของ RoV รวมกัน)
รูนในเกม LoL จะเรียกว่า Keystone Rune โดยมันจะทำให้การเล่นแชมเปียนส์แต่ละตัวมีความแตกต่างกันตามสไตล์ของผู้เล่น
ทาง Riot Games ได้นำระบบรูนนี้มาจากเวอร์ชั่นคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน แต่นำมาปรับให้เข้าใจง่ายขึ้นสำหรับบนมือถือนั่นเอง
หากใครที่ไม่รู้เราจะมาแนะนำคร่าว ๆ ให้รู้จักกันก่อนโดยระบบรูนของ LoL นั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 5 สายด้วยกันซึ่งคาดว่าจะมีทั้งหมดบน League of Legends Wild Rift เช่นกันครับส่วนผลของรูนจะเหมือนกันหรือเปล่าคงต้องรอวันที่เซิร์ฟเวอร์ Beta เปิดให้ลองต่อไปครับ
สำหรับใครที่ไม่เคยเล่นมาก่อนแล้วอยากรู้ว่ามีสายอะไรบ้างเราได้นำมาให้ดูแบบคร่าว ๆ ดังนี้โดยอิงจากบน PC ครับ :
- Precision : เพิ่มพลังโจมตี และสร้างความเสียหายต่อเนื่อง
- Resolve : เพิ่มพลังป้องกัน และควบคุมศัตรู
- Domination : เร่งความเสียหาย และเข้าถึงศัตรู
- Sorcery : เพิ่มความเสียหายจากสกิล
- Inspiration : ตัวช่วยต่าง ๆ เหมาะกับซัพพอร์ท
จากที่ดูในคลิปที่หลุดมา จะเห็นได้ว่ามีการเลือกรูนด้วยกันทั้งหมด 2 อัน คือรูนหลัก 1 อันและรูนรอง 1 อันซึ่งต้องมาติดตามกันต่อไปว่าจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไรครับ
เพิ่มเติมเข้ามามีผู้เล่นสามารถแค้ปหน้าจอระบบรูนมาได้เพิ่มเติมซึ่งค่อนข้างหน้าเชื่อถือไม่น้อยโดยจะมีลักษณะเป็นแบบโดยจากที่ดูนั้นจะมีรูนใหญ่ 8 อันและย่อยลงมาอีก 18 รูนให้เลือก
โดยทางด้านทีมผู้พัฒนาได้ออกมาชี้แจงไว้แล้วว่าเราสามารถเลือกรูนใหญ่ได้ 1 ชิ้นส่วนอีก 3 อันสามารถเลือกตามแถวแนวนอนแบบไม่ซ้ำกันเท่านั้นครับ (นาทีที่11.38)
เกม LoL Wild Rift มี Summoner Spell อะไรบ้าง?
ในส่วนของ Spell ในเกม League of Legends Wild Rift เรียกได้ว่าจากที่เห็นในตัวอย่างต่าง ๆ ผ่านตามานั้นเหมือนกับถอดแบบออกมาจากบนมือถือเลยก็ว่าได้
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นในเกม Moba มือถืออื่น ๆ มักจะเลือกหยิบไปได้แค่ 1 Spell เท่านั้นแต่ใน LoL Wild Rift กลับสามารถหยิบไปได้ถึง 2 Spell ด้วยกันซึ่งเหมือนกับใน PC เลย
แต่ทว่าเบื้องต้นที่เช็คและเห็นมา ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะยังมีเพียงแค่ 8 Spell เท่านั้นซึ่งมีชื่อและความสามารถอ้างอิงจากเวอร์ชั่น PC ดังนี้
- Ghost: เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่
- Heal: เพิ่มเลือดให้ตัวเองและเพื่อนรอบข้าง รวมทั้งเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ชั่วขณะด้วย
- Barrier: เสกเกราะขึ้นมาให้ตัวเองป้องกันความเสียหาย
- Exhaust: ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ และดาเมจที่ศัตรูทำได้ลงชั่วขณะนึง
- Flash: วาร์ปไปในทิศทางที่เลือกระยะสั้น ๆ
- Ignite: เผาศัตรูทำความเสียหายจริงชั่วขณะนึง
- Challenging Smite: ทำดาเมจอย่างรุนแรงใส่มินเนียน หรือมอนสเตอร์ป่า จากนั้นทำการฟื้นฟูเลือดของเรา แต่ถ้ากดใส่แชมเปียนส์จะทำการสร้างสัญลักษณ์ไว้ และถ้าทำการโจมตีปกติใส่ เป้าหมายนั้นจะทำดาเมจใส่เราน้อยลง รวมทั้งทำดาเมจไฟเผาแบบความเสียหายจริงอีก 2.5 วินาที
- Chilling Smite: ทำดาเมจอย่างรุนแรงใส่มินเนียน และมอนสเตอร์ป่า จากนั้นทำการฟื้นฟูเลือดของเรา แต่ถ้ากดใส่แชมเปียนส์จะทำดาเมจ และขโมยความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรูส่วนหนึ่งมาเพิ่มให้กับเรา
และนี่ก็คือ Spell ที่มีในเกม LoL Wild Rift ณ ตอนนี้ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะมีการเพิ่มขึ้นมาก็เป็นได้
เพราะยังมี Spell ที่น่าสนใจอย่าง Cleane ที่จะช่วยให้ผู้เล่นลบสถานะทุกอย่างทิ้งได้ซึ่งเป็น Spell ที่ดีและมักถูกหยิบมาใช้เสมอ
หรือ Teleport ที่สามารถวาร์ปไปยังมินเนียน, ป้อมและ Ward ในจุดต่าง ๆ ได้แต่ไม่ได้ถูกบรรจุในเกมตอนนี้ครับ
แผนที่ในเกม LoL Wild Rift เป็นยังไง?
เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก ๆ อย่างแผนในเกม League of Legends Wild Rift กันบ้าง สำหรับใครที่อาจจะเคยชินกับแผนที่ของเกม RoV หรือ Mobile Legends มาก่อนบอกเลยว่าคุณจะได้ศึกษาอะไรใหม่ ๆ อีกเยอะมาก
ตามที่นาย ไมเคิล เฉา (Michael Chaow) Riot Paladin ผู้ดูแลโปรเจกต์นี้ ได้บอกไว้ก็คือจากเดิมแผนที่จะใหญ่มากและกินเวลาในการเล่นต่อเกมที่นานเกือบชั่วโมงในการเล่น
พวกเขาจะมีการปรับให้แผนที่เล็กลงแต่ดีเทลต่าง ๆ เช่นพุ่มหญ้า สัตว์ป่า ยังคงอยู่ครบด้วยการจัดการวางตำแหน่งสิ่งต่าง ๆ ใหม่ซึ่งจะช่วยให้เกมใช้เวลาในการเล่นที่น้อยลงเหลือเพียงแค่ 15 – 20 นาทีเท่านั้น
สิ่งที่น่าสนใจก็คือหากเป็นในแผนที่เก่าของ League of Legends จะมีสิ่งที่เรียกว่า Inhibitor ซึ่งมีไว้เพื่อเรียกครีปใหญ่ออกมาโดยเมื่ออยู่ในเวอร์ชั่นมือถือแล้วพวกเขาจะตัดมันออกไปทั้งหมด
อีกจุดที่ควรรู้คือแผนที่ในเกม LoL Wild Rift จะเป็นเหมือนของ RoV คือทั้งสองฝั่งจะเห็นเลนล่างอยู่ข้างล่าง เลนบนอยู่ข้างบนเหมือนกัน และเริ่มเดินจากฐานที่อยู่มุมซ้ายเหมือนกัน ต่างจากบน PC ที่เริ่มจากฐานคนะลฝั่ง
นอกจากนี้แล้วสำหรับรายละเอียดภายในแผนที่ซึ่งผู้เล่นที่ไม่เคยเล่น League of Legends มาก่อนแล้วมาเล่น League of Legends Wild Rift เลยนั้นจะต้องไม่เคยเจออย่างแน่นอนนั่นก็คือ:
Blast Cone
หากสังเกตจากลักษณะของมันก็คือเป็นเหมือนกับก้อนดอกไม้สีแดงซึ่งจะตั้งอยู่ในแผนที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในป่าของทั้ง 2 ฝ่าย
คุณสมบัติของเจ้าสิ่งนี้ก็คือเมื่อเราตีมันแตกจะทำให้ทุกคนที่อยู่รอบบริเวณของมันกระเด็นไประยะหนึ่งแน่นอนว่ามันสามารถช่วยในเรื่องของการ Gank หรือหลบหนีได้เป็นสีสันของเกมอีกอย่างครับ
Honeyfruit
ไม่ได้มีเพียงแค่ Blast Cones เท่านั้นที่เป็นสิ่งพิเศษเพราะพวกเขายังมีจุดเติมเลือดที่เรียกว่า Honeyfruit รับรองว่าคุณไม่เคยเห็นในเกม Moba มือถือที่ไหนมาก่อนสังเกตได้จากมันจะเป็นผลสีเขียว ๆ อยู่ตามเลนและบริเวณแม่น้ำของทั้ง 2 ฝั่งครับ
คุณสมบัติของเจ้าสิ่งนี้ก็คือเมื่อเราตีมันแล้วจะมีลูกเล็ก ๆ แตกออกมาจำนวนนึงซึ่งหากผู้เล่นเดินไปเหยียบมันจะช่วยฟื้นฟูเลือดแต่จะติดสถานะเดินช้าลงนิดนึงไม่นานมากนั้นเอง
แถมให้อีกนิดคือจากที่สังเกตมานั้นหากเราเล่นในเกม RoV เมื่อป้อมที่อยู่นอกสุดแตกแทนฮีลเลือดจะหายไปด้วยแต่สำหรับเจ้า Honeyfruit แล้วดูเหมือนว่าจะไม่หายไป
สังเกตได้จากภาพด้านบนว่าแม้ป้อมจะแตกไปแล้วแต่จุดสีเขียวในมินิแมพที่ยังคงอยู่ซึ่งมันหมายถึงเจ้าผลไม้ชนิดนี้ซึ่งหากเรามาวิเคราะห์กันแล้วมันจะมีบางช่วงที่ผลไม้นี้ถูกตีก็จะหายไปจากแมพแต่อันนี้ยังอยู่แสดงว่าแม้ป้อมแตกไปแล้วแต่ไม่ได้ส่งผลอะไรถึงมันนั่นเองครับ
Scryer’s Bloom
Scryer’s Bloom หรือเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ละอองแสงเปิดแมพเป็นอีกสิ่งลูกเล่นในแผนที่ซึ่งจากที่สังเกตดูเห็นว่ามีเช่นกันแม้จะยังไม่ชัดเจนมาก
โดยหน้าที่ของมันก็คือมีไว้เปิดแผนที่ได้ระยะหนึ่งในทิศทางที่เราเลือกซึ่งหากละอองโดนศัตรูจะส่งทำให้เรามองเห็นช่วงระยะเวลาหนึ่งช่วยให้เราเลือกว่าจะต่อสู้หรือหลีกเลี่ยงได้ง่ายขึ้นครับ
และนี้คือวิธีการทำงานของทั้ง Blast Cone , Honeyfruit และ Scryer’s Bloom ครับ
ดอกไม้ Ward
สิ่งพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่ทุกคนต้องไม่เคยเห็นกันมาก่อนก็คือ ดอกไม้ Ward ก็คือเจ้าดอกไม้ 2 ดอกติดกันสีเหลืองแดง ซึ่งมันยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ
จากที่สังเกต เหมือนมันจะตั้งอยู่ในแผนที่ส่วนสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพุ่มข้างระหว่างเลนด้านแม่น้ำหรือหลุมบารอนและมังกร
จากคำบอกเล่าของผู้ที่ไปทดลองเกมมาแล้ว ดอกไม้ Ward จะเป็นดอกไม้ที่ผู้เล่นสามารถไปกด Trintklet เพื่อวาง Ward ไว้ที่ดอกไม้นั้นได้ แปลว่าจะวางได้เฉพาะบางที่เท่านั้น ไม่ใช่วางที่ไหนก็ได้
Ward จะช่วยเพิ่มการมองเห็นในเกม และจะเข้ามามีบทบาทสำคัญให้กับผู้เล่นทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งซัพพอร์ทได้มีหน้าที่ชัดเจนมากขึ้น
แน่นอนว่าผู้เล่นทุกคนที่มาจากเกมอื่นต้องเรียนรู้เรื่องนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยล่ะครับ
จากโพสต์ของทาง The Game Room หนึ่งในตัวแทนประเทศไทยที่ได้ไปสัมผัสเกมดังกล่าวมาก่อนแล้วเผยว่าการใช้ Ward จะบังคับที่ปักเพื่อให้ง่ายต่อการเล่นสำหรับมือใหม่ แต่ในอนาคตก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ครับ
มังกร/Drake
มังกรมีหลายธาตุให้ผลที่ต่างกันโดยเท่าไปแล้วมังกรในเกมอย่าง RoV มักจะให้เป็นบัฟ ค่าประสบการณ์ และเงินอีกเล็กน้อยในการฆ่าแต่ละครั้ง ซึ่งสำหรับ LoL Wild Rift จะไม่มีกันโดยมี 4 ธาตุด้วยกันก็คือ มังกรดิน, น้า, ลมและ ไฟ ที่จะให้ผลที่แตกต่างกันออกไปครับ
แต่มังกรบางตัวจะให้บัฟไม่เหมือนบน PC เช่น มังกรลมได้รับดูดเลือด/เวทแวมไพร์ หรือมังกรดินให้โล่ เป็นต้น
มังกรจะเกิดในนาทีที่ 4
Elder Dragon
เจ้ามังกรตัวนี้จะเป็นขั้นกว่าของ Drake ซึ่งจะเกิดเมื่อตอนเลทเกมไปแล้วแทนที่พวก Drake ทั้งหลายซึ่งความสามารถของมันคือทำให้เราโจมตีติดไฟใส่ศัตรูและยังช่วยเพิ่มคุณสมบัติของบัฟจากมังกรที่เหลือในตานั้นที่เราสามารถฆ่าได้ด้วยครับ
Rift Herald
เจ้าสิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งในลูกเล่นสำคัญของเกม LoL เลยก็ว่าได้ โดยมันจะเกิดตรงหลุม Baron ก่อนซึ่งหากฝ่ายไหนสังหารได้จะมีบัฟที่เหมือนกับบารอนแต่แค่คนเดียวเท่านั้น
เมื่อสังหารมันจะดรอปไข่ออกมา ที่เมื่อกดใช้จะสามารถกดปล่อยมันออกมาเพื่อให้มันวิ่งไปทำลายป้อมที่ใกล้ที่สุดช่วยในการดันเลนได้ดีมากครับ
Rift Herald จะเกิดพร้อมมังกรในนาทีที่ 4
Baron Nashor
Baron หรือเจ้าหนอนยักษ์สีม่วงของเกม League of Legends Wild Rift ซึ่งหากใครที่เคยเล่นเกม RoV มาก่อนจะต้องรู้จัก Dark Slayer ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสำคัญเหมือนกับมังกร
โดยหากเป็น Dark Slayer เราจะได้บัฟทุกคนพร้อมทั้งคนที่สังหารได้จะเรียกมังกรออกมาช่วยตีบ้านได้ แต่สำหรับ Baron นั้นนอกจากที่เราจะได้บัฟเพิ่มพลังแล้วหากเป็นในเวอร์ชั่น PC เรายังจะสามารถได้ออร่าที่ทำให้มินเนี่ยนแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วยซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่สำคัญจากเกมมือถือทั่วไปเลยครับ
แต่รายละเอียดของเกมยังไม่ได้ออกมามากนักซึ่งก็ไม่แน่ว่าบัฟดังกล่าวที่หากสังหาร Baron ได้จะเปลี่ยนไปหรือไม่
สรุปก็คือว่าแผนที่แทบจะทั้งหมดของเกมจะมีรายละเอียดหลักที่เหมือนกับในเวอร์ชั่นของ PC มาก ๆ แต่จะมีบางอย่างที่เพิ่มเติมเข้ามาอย่างเห็นได้ชัดซึ่งผู้เล่นอย่างเรา ก็ต้องปรับตัวตามกันไปโดยเฉพาะผู้เล่นที่ไม่เคยเล่น League of Legends คงต้องศึกษากันดี ๆ เลยละครับ
Baron Nashor จะเกิดในนาทีที่ 10 ของเกม
ไอเทมในเกม LoL Wild Rift จะมีอะไรบ้าง?
สำหรับไอเทมในเกม League of Legends Wild Rift ในตอนนี้ถึงแม้จะยังไม่มีการปล่อยรายชื่อไอเทมทั้งหมดออกมา แต่ผู้ที่เคยไปทดลองเกมมา (The Game Room) ก็ออกมาบอกแล้วว่าไอเทมจะมีไม่เท่าบน PC เพื่อลดความซับซ้อนในตัวเกม
จากการดูคลิปที่ปล่อยออกมา พอจะสรุปได้ว่าไอเทมส่วนใหญ่มีหน้าตาที่ใกล้เคียงกับในเวอร์ชั่น PC ทั้งนั้นโดยล่าสุดได้มีผู้เล่นออกมาปล่อยภาพของไอเทมเพิ่มเติมซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นไอเทมแบบกดใช้งานทั้งหลายในเกม
โดยหลายชิ้นหากเป็นผู้เล่น LoL เก่าจะพอรู้ว่าคืออะไรบ้างแต่ที่น่าสนใจเลยคือ Spell Teleport มาอยู่ในไอเทมซะอย่างนั่้นรวมถึงรองเท้าที่ออกสามารถกดใช้งานได้ซึ่งใน PC ไม่มีครับ ล่าสุดอัพเดทไอเทมกดสามารถมีได้แค่ 1 ชิ้นต่อ 1 คนเท่านั้นอีกด้วยครับ
และจากการคาดการณ์ของทางเราเเล้วขอคิดไว้ก่อนเลยว่าไอเทมน่าจะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับของเดิมแต่อาจจะมีบางชิ้นที่ไม่ได้นำเข้ามารวมถึงมีการปรับค่าสถานะต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับในเวอร์ชั่นมือถือครับ
แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่เคยลองเล่นเกมมาแล้วก็บอกว่า ในเกม LoL Wild Rift จะมีไอเทมเฉพาะด้วย
สำหรับใครที่อยากจะเข้าไปดูรายละเอียดของไอเทมคร่าว ๆ ก่อนก็ศึกษาไว้เล่นได้ที่เว็บ LoL ตรงนี้เลยครับ
มีระบบแรงค์ใน LoL Wild Rift มั้ย?
เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาเล่นเกม League of Legends Wild Rift คงไม่ได้หวังเล่นเพียงแต่บันเทิงเท่านั้นเพราะสำหรับอีกหลายคนนี้อาจจะเป็นโอกาสของพวกเขาในการพิสูจน์ฝีมือและได้เป็นนักกีฬา Esports จากการเล่นเกมนี้
หนึ่งในสิ่งที่จะทำให้พวกเขาไปถึงตรงนั้นได้คือต้องมีพื้นที่ให้พิสูจน์ฝีมือและความเก่งกาจนั้นก็คือระบบเเรงค์ซึ่งจากหน้าเว็บหลักได้ประกาศว่ายังไงก็มีระบบแรงค์แน่นอน
หากไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วละก็ระบบแรงค์ของ LoL Wild Rift คนจะมีความคล้ายคลึงกับในเวอร์ชั่น PC แน่นอนซึ่งจะเรียงลำดับได้ 9 ขั้นดังนี้
- Iron
- Bronze
- Silver
- Gold
- Platinum
- Diamond
- Master
- Grand Master
- Challenger
คาดกันว่าอาจจะมีสูงสุดตามนี้แต่อาจจะมีการลดขั้นลงมาเพื่อไม่ให้ต้องไต่ยากเกินไปก็อาจจะเป็นไปได้ขึ้นอยู่กับว่าทาง LoL Wild Rift จะมีการลดขั้นไหนลงหรือไม่แน่ว่าก็อาจจะมาแบบเต็มรูปแบบ
ซึ่งทางเรามองว่าก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะคนในแต่ระดับจะได้ชัดเจนทำให้เจอคนในระดับเดียวกันเล่นได้อย่างสูสีและสนุกสนานครับ
เทคนิคที่ผู้เล่น LoL Wild Rift ควรรู้
มาถึงเทคนิคสำหรับการเล่น LoL Wild Rift ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เล่นหน้าใหม่ไม่ว่าจะย้ายมาจาก RoV หรือผู้เล่น LoL เก่าที่เลิกเล่นไปแล้วกลับมาเล่น ได้แก่:
- ต้องลาสมินเนี่ยนถึงจะได้เงิน
หากใครที่คุ้นชินกับเกม Moba อื่น ๆ บนมือถือจะรู้ดีเลยว่าเราไม่ต้องสังหารมินเนี่ยนก็สามารถได้รับเงินได้แม้จะน้อยหน่อยก็ตาม
แต่สำหรับ LoL Wild Rift แล้วหากเราไม่ตีมินเนี่ยนก็จะไม่ได้เงินสักกะ Gold เดียวครับ ดังนั้นแล้วอย่าลืมลาสมินเนี่ยนกันด้วย
ทาง Riot เองเข้าใจดีว่าการจะตีให้โดนแต่ละตัวบนมือถือเป็นเรื่องที่ยากมาก พวกเขาจะออกแบบตัวชี้มาให้เพื่อทำให้พวกเราลาสได้ง่ายขึ้นครับ
2. อย่าลืมปัก Ward
เชื่อว่านี่จะเป็นระบบใหม่สำหรับคนไม่เคยเล่นเกม Moba บน PC มาก่อนเลย นั่นก็คือระบบ Ward ที่จะช่วยเพิ่มการมองเห็นในแผนที่ให้กับฝ่ายเรา มันจะทำให้เราไม่ต้องเสี่ยงเข้าไปดูในจุดต่าง ๆ เอง อาจโดนดักฆ่าได้
ดังนั้นหากเรามีวิชชั่นเยอะ ๆ ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดีและทำให้เราเล่นได้อย่างสบายใจครับ แรก ๆ อาจลืมกันบ้างแต่พอเริ่มทำเป็นก็จะง่ายเองครับ
3. ผลไม้ป่าสำคัญมาก
อีกหนึ่งในสิ่งที่เป็นลูกเล่นสำคัญของเกมเลยก็คือผลไม้ป่าที่มีหลายชนิดเป็นอย่างมากซึ่งจะช่วยให้การเล่นเกมมีความหลากหลายมากขึ้นดังนั้นแล้วอย่ามองข้ามและไปศึกษามาให้ดีเพราะคุณจะได้ใช้มันอย่างแน่นอน
เช่นการใช้ Blast Cone เพื่อเข้ามาไปตีมังกร, การใช้ Scryer’s Bloom เพื่อเช็คพุ่มไม้และป่าของศัตรูก่อนไปแกงค์ในเลน และอื่น ๆ อีกมากมาย
LoL Wild Rift แตกต่างกับ LoL PC ยังไง?
-
ไม่มี Inhibitor
บน PC เกม LoL จะมีสิ่งที่เรียกว่า Inhibitor ที่เป็นสิ่งก่อสร้างอยู่ข้างหลังป้อมระดับที่ 3 ถ้ามันถูกทำลาย มินเนียนในเลนนั้นจะกลายเป็น Super Minion (ครีปแบบโหด)
ใน LoL Wild Rift จะเอารวม Inhibitor เข้ากับป้อมระดับ 3 เลย ทำให้เมื่อป้อมระดับ 3 แตกปุ๊บ มินเนียนในเลนนั้นจะกลายเป็น Super Minion ทันที และแน่นอนว่า ป้อมจะเกิดใหม่ไม่ได้เหมือน LoL ด้วย
2. จะใช้เวลาเล่นน้อยกว่า LoL PC
นักพัฒนาได้บอกในจุดนี้ว่า เกมมือถือนั้นต้องกินเวลาในการเล่นน้อย ทำให้ตัว LoL Wild Rift นั้นจะใช้เวลาเล่นต่อ 1 เกมประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น
แต่ LoL PC ใช้เวลาถึง 30-60 นาที ด้วยเหตุนี้ทำให้ตัวเกมหลาย ๆ อย่างเลยต่างกันออกไป
3. LoL Wild Rift นั้นเป็นเซิร์ฟเวอร์แยกกับ LoL PC
แปลว่า ผู้เล่นทั้ง 2 แพลตฟอร์มจะไม่มีทางมาเจอกันเด็ดขาด และถ้าต้องการเล่นทั้งคู่ จำเป็นต้องมี 2 ไอดีแยกกัน
4. แชมเปียนส์ตัวเดียวกันใน LoL Wild Rift มีสกิลที่แตกต่างจากแชมเปียนส์ตัวเดียวกันที่อยู่บน LoL PC
สังเกตได้จากคลิปเปิดตัวว่า Ultimate ของ Ashe ใน LoL Wild Rift นั้นสามารถควบคุมทิศทางได้ ซึ่งใน Ashe ใน LoL PC ไม่สามารถทำได้
5. LoL Wild Rift มีแชมเปียนส์ไม่เท่า LoL PC
ด้วยการที่ LoL Wild Rift นั้นสร้างขึ้นมาใหม่จาก 0 ทำให้แชมเปียนส์ยังมาไม่ครบเท่าบน PC อ้างอิงจากประกาศ ในตอนที่เปิดให้เล่น LoL Wild Rift จะมีทั้งหมด 40 ตัว ในขณะที่ PC มีทั้งหมด 146 ตัว
6. ไม่มีป้อมข้าง ๆ Nexus แต่ Nexus ยิงเลเซอร์ได้แทน
เพื่อเกมที่รวดเร็ว LoL Wild Rift จะไม่มีป้อมป้องกัน Turret แต่ในทางกลับกัน Nexus จะยิงเลเซอร์อันรุนแรงเพื่อป้องกันตัวเองได้แทน
7. ไอเทมในเกม LoL Wild Rift แตกต่างจาก LoL PC
ถึงแม้จะยังไม่ได้มีระบุว่า ไอเทมในเกม LoL Wild Rift มีกี่ชิ้น แต่ก็มีข้อมูลบอกมาแล้วว่า มันจะมีไอเทมน้อยกว่าบน PC แน่นอน
รวมทั้งไอเทมบางชิ้นยังมีเอฟเฟคที่เปลี่ยนไปด้วย เช่น รองเท้าใน LoL Wild Rift ทุกคู่จะมีสกิลที่สามารถกดแล้ววิ่งเร็วแบบรูน Predator ได้ หรือ Youmuu เปลี่ยนเอฟเฟคที่ทำให้เมื่อไม่ได้ต่อสู้จะเคลื่อนที่ไวขึ้นแทน
8. LoL Wild Rift เลเวลตันที่ 15
แชมเปียส์ใน LoL บน PC จะมีเลเวลสูงสุดที่ 18 แต่สำหรับบนมือถือจะสูงสุดที่ 15 เท่านั้น ทำให้ตัวเกมดำเนินไปไวมากขึ้น เพราะดาเมจหรืออะไรต่าง ๆ จะ Scale ไวขึ้นมาก
9. LoL Wild Rift จะอัปสกิลได้สูงสุด 4 เลเวลเท่านั้น
จากการที่เลเวลสูงสุดอยู่เลเวล 15 ทำให้แต้มในการอัปสกิลมีน้อยลง ด้วยเหตุนี้สกิลธรรมดาจะอัปได้มากสุด 4 เลเวล และสกิล Ultimate อัปได้มากสุด 3 เลเวล
การที่เลเวลของสกิลตันไวขึ้นจะทำให้ดาเมจของสกิลแต่ละเลเวลเยอะขึ้นโดยเฉลี่ยทำให้ตัวเกมไวขึ้นนั่นเอง
10. LoL Wild Rift ไม่มีระบบ Turret Plate
บน LoL PC จะมีระบบที่เรียกว่า Turret Plate โดยป้อมใน PC นั้นจะมีโล่หลายอัน ยิ่งป้อมถูกโจมตี โล่ก็จะยิ่งหาย และเมื่อโล่หายไปป้อมก็จะอึดขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งเมื่อโล่หายจะแจกเงินให้กับผู้เล่นที่อยู่แถวนั้นด้วย
สำหรับ LoL Wild Rift มันไม่มีระบบนั้น ทำให้ป้อมถูกทำลายได้ว่องไวมากขึ้นตามคอนเซ็ปเกม
11. LoL Wild Rift มีป่าที่แตกต่างจาก LoL
ใน LoL Wild Rift นั้นจะมีลักษณะการจัดวางสิ่งต่าง ๆ ในป่าที่แตกต่างออกไป เช่นขยับ Krug ไปไว้ด้านเฉียงขวาของบัฟแดง, ปรับกำแพงบริเวณป่า หรือปรับในส่วนของพุ่มไม้ แต่ในส่วนที่เหลือไม่แตกต่างมาก
ในคอมจะหน้าตาประมาณนี้ สังเกตตำแหน่งของแคมป์ Krug ว่าจะอยู่ล่างบัฟแดง
12. LoL Wild Rift มีสกินไม่ครบ
จากการที่ Riot สร้างเกม LoL ขึ้นมาใหม่บนมือถือ ทำให้เกม LoL Wild Rift ไม่ได้มีสกินเหมือน LoL PC แต่ก็มีสกินที่ได้รับความนิยมอย่าง Star Guardian หรือ Dark Star อยู่
อีกจุดที่น่าสนใจคือ ถึงแม้จะมีสกินไม่ครบ แต่สกินของ LoL Wild Rift ก็มีความเฉพาะตัวที่ไม่มีใน PC เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น Fisherman Jax
ตัดภาพมาที่ในคอม…
13. LoL Wild Rift มีการปัก Ward ที่จำกัด
บน PC ผู้เล่นเกม LoL จะสามารถปัก Ward ที่ไหนของแผนที่ก็ได้ แต่สำหรับ LoL Wild Rift นั้นจะมีบางตำแหน่งในแผนที่เท่านั้นที่สามารถปักได้ (แต่ไม่แน่ในอนาคตอาจเปลี่ยนในจุดนี้)
14. LoL Wild Rift ระบบรูนแตกต่างกับ LoL PC
จากคลิปตัวอย่างเกม LoL Wild Rift ที่หลุดออกมา เหมือนจะมีการเลือก Keystone Rune หลัก และรองอย่างละอันจากนั้นให้เลือก Keystone Rune อีกอันเท่านั้น แต่เหมือนจะมีระบบ Emblem (คล้าย ๆ รูนเสริมที่อัปเกรดได้นอกเกม) เพิ่มเข้ามาให้ใส่อีก 2 อัน (อันนี้ยังไม่ยืนยัน)
ต่างจากใน PC ที่เลือก Keystone Rune หลัก 1 อัน, ในสายเดียวกันได้ 3 อัน และ Rune สายอื่น ๆ อีก 2 อัน
15. LoL Wild Rift ได้เงินจากการ Last Shot ครีปเยอะกว่า
สำหรับ LoL บน PC เมื่อสังหารครีปตีไกลจะได้เงินประมาณ 14 แต่สำหรับ LoL Wild Rift แล้วจะได้มากถึง 40 เลยทีเดียว ทำให้ผู้เล่นสามารถได้ไอเทมไวขึ้น และเกมดำเนินไปไวขึ้นนั่นเอง
สเปคมือถือที่ใช้เล่น LoL Wild Rift ทั้ง Android และ IOS
หลังจากที่รู้ข้อมูลกันไปขนาดนี้แล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกที่จำเป็นมาก ๆ นั่นก็คือมือถือที่ใช้เล่นเกม League of Legends Wild Rift ซึ่งตามที่ในเว็บหลักของพวกเขาแจ้งมานั้นมีรายละเอียดเขียนไว้ว่า :
“นี่ยังไม่ใช่การตัดสินใจที่เด็ดขาด แต่พวกเราตั้งเป้าหมายที่จะให้เกมสามารถเข้าถึงได้มากที่สุดโดยอุปกรณ์ต่าง ๆ มากที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ นี่คือสเปคของโทรศัพท์มือถือที่เราตั้งเป้าไว้ในปัจจุบัน:
สำหรับอุปกรณ์ Android พวกเราหวังว่าจะสามารถเล่นได้บนอุปกรณ์ที่มีสเปคใกล้เคียงกับ Samsung Galaxy A7: 1GB RAM, Qualcomm Snapdragon 410 processor และ Adreno 306 GPU
สำหรับอุปกรณ์ iOS พวกเราตั้งเป้าหมายที่จะให้ Wild Rift สามารถเล่นได้บน iPhone 5S ขึ้นไป”
แต่ทว่ามันก็ยังไม่ได้ครอบคลุมเท่าไหร่นักจนกระทั่งมีคนออกมาวัดสเปคขั้นต่ำที่ควรใช้ และที่แนะไว้เล่นเกม LoL Wild Rift ดังนี้
สเปคขั้นต่ำ :
- CPU : 1.2GHz – 4 Cores
- Ram : 2 GB
- Storage : 1.5 GB – 1.8 GB
- Android Version : 4.0.3 ขึ้นไป
- iOS Version : 8.0 ขึ้นไป
สเปคที่แนะนำ :
- CPU : 1.6GHz – 8 Cores
- Ram : 2 – 3 GB
- Storage : 1.5 GB – 2 GB
- Android Version : 6.0. ขึ้นไป
- iOS Version : 9.0 ขึ้นไป
โดยทั้งหมดนี้ไม่ได้ออกมาจากทางเว็บหลักแต่เป็นสเปคที่ผู้เล่นด้วยกันคาดว่าน่าจะเหมาะสมซึ่งทางเราคิดว่าน่าจะช่วยในการเลือกใช้มือถือเพื่อเล่นเกม LoL Wild Rift กันได้ครับ
วิธีสมัครหรือลงทะเบียนเล่น LoL Wild Rift
สำหรับในตอนนี้หลังจากที่เกม LoL Wild Rift ได้มีการประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาได้บอกว่าจะเปิดให้เล่นพร้อมกันทั่วโลกภายในปี 2020 (ตอนนี้เปิดทดลองในจีน) ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่นอย่างพวกเราต้องรอกันแห้งไปหน่อย
แต่สำหรับใครที่ไม่อยากรอก็สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับข่าวสารได้เช่นกันผ่านทางหน้าเว็บหลักของ League of Legends Wild Rift เลยครับ อาจมีลุ้นให้เล่นก่อนถ้าลงทะเบียนไว
หรือสำหรับคนที่มีโทรศัพท์ใช้ระบบ Andriod ก็สามารถที่จะไปลงทะเบียนได้เช่นกันด้วยการเข้าไปที่ Google Play และเสิร์ชคำว่า League of Legends Wild Rift หรือ Wild Rift ก็จะเจอกับตัวเกมและให้เราไปกดลงทะเบียนได้เลยครับ
ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วทางเราคิดว่าอันนี้ดูจะเป็นอะไรที่น่าเชื่อถือมากที่สุดในบรรดาทั้งหมดเพราะอยู่บน Google Play
แต่สำหรับคนที่ใช้ iOS ก็ยังต้องรอการลงทะเบียนผ่าน Store ไปก่อน
และถ้าตัวเกมมาจริง ๆ ผู้ที่เคยไปทดลองเกมเผยว่า จะเป็น Riot ที่เป็นผู้ให้บริการเองเลยไม่ใช่ Garena เพราะฉะนั้นก็คงเป็นการสมัครไอดีกับทาง Riot แทน ไม่ได้ล็อคอินด้วย Garena อีกต่อไป
วิธีดาวน์โหลด LoL Wild Rift
ในส่วนของวิธีดาวน์โหลดนั้นก็จะหนีไม่พ้นบน Google Play สำหรับชาว Andriod ซึ่งในตอนนี้เปิดให้ลงทะเบียนไปเป็นที่เรียบร้อยและรอวันเปิดตัวก็จะสามารถเข้าเล่นได้
ส่วน Appstore สำหรับทางชาว iOS ก็รู้ ๆ กันดีอยู่แล้วว่ามักจะมาช้าเสมอด้วยข้อกำหนดหลาย ๆ อย่างของทาง Apple (ลูกเมียน้อยตลอด TwT) ก็ได้แต่ภาวนาให้วันที่ปล่อยสามารถปล่อยพร้อมกันได้ครับ
นอกจากนี้แล้วเชื่อว่าจะต้องมีผู้เล่นที่นำเกม LoL Wild Rift ไปเล่นบนคอมพิวเตอร์ทั้งที่เกมถูกพอร์ตลงมาจาก PC แล้วก็ตามซึ่งทางเราก็ขอเสนอว่าให้เตรียมโหลด Bluestack อีกหนึ่งในตัวช่วยมาไว้สำหรับเล่นหรือสตรีมกันครับ
วิธีเติมเงิน LoL Wild Rift
อีกหนึ่งในคำถามยอดฮิตที่หลาย ๆ คนที่พร้อมจะเปย์ พร้อมจะจ่ายตังค์ให้กับเกม LoL สุดรักของพวกเขาต้องเกิดคำถามขึ้นมาแน่ว่าเราจะสามารถเติมเงินได้อย่างไรบ้าง ?
คำตอบในตอนนี้ก็คือคาดว่าสามารถซื้อได้ผ่าน Appstore ของ IOS กับ Google Play สำหรับ Andriod ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเกมมือถือสามารถเติมได้ผ่าน 2 ช่องทางนี้อยู่แล้วแม้ว่าเรทที่ได้จะไม่ค่อยดีนักก็ตาม
อีกหนึ่งในสิ่งที่ยืนยันได้ระดับนึงก็คือจากทาง Dx Channel ซึ่งเขาได้ไปงานแถลงข่าวของ Riot ครบรอบ 10 ปีที่สิงคโปร์มา ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า Riot จะมาเปิดให้บริการในไทยเองกับมือไม่ผ่าน Garena แล้วซึ่งทำให้เราคงไม่สามารถเติมผ่านทาง Garena Shell แน่นอนครับ
ส่วนสำหรับช่องทางอื่น ๆ นั้นต้องรอการประกาศต่อไปครับว่าจะมีใครมาเข้าร่วมในครั้งนี้บ้าง
LoL Wild Rift จะมี Esports หรือไม่?
อย่างที่เรารู้กันดีว่านอกจากเกม LoL Wild Rift จะเล่นเพื่อความบันเทิงแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่คาดไม่ได้เลยก็คือการแข่งขันแบบจริงจังหรือที่เรียกกันว่า Esports และเชื่อกันได้เลยว่าหลังจากการเปิดตัวได้ไม่นานทาง Riot จะต้องทำลีก LoL Wild Rift ขึ้นมาเอาใจแฟน ๆ อย่างแน่นอนครับ
อีกหนึ่งเหตุผลที่เกม LoL Wild Rift จะมี Esports อย่างแน่นอนก็มาจากการที่ เกม Moba บนมือถือนั้นกำลังมาแรงมากในวงการ Esports อย่างบ้านเราที่มีคนดูการแข่ง RoV เป็นแสน ๆ คนพร้อมกันทั่วประเทศ
และรอบนี้ การนำ LoL มาลงมือถือทำให้มัน Mass ขึ้นไปอีก แปลว่าจะมีผู้ชมเกมนี้มากขึ้น ซึ่ง Riot คงไม่พลาดโอกาสทองในการจัดแข่งอย่างแน่นอน และคงเป็นอีเวนท์ที่แยกออกมาจาก LoL บน PC เลย
ติดตามข่าวสาร LoL Wild Rift ได้ที่ไหนบ้าง
สำหรับการติดตามข่าวสารเรื่องของความคืบหน้าเกม League of Legends Wild Rift นั้นมีได้หลากหลายช่องทางเป็นอย่างมากแต่ที่ควรจะดูบ่อย ๆ และติดตามไว้เลยก็คือ
- เว็บ League of Legends Wild Rift
- แฟนเพจของ Riot Games
- กลุ่มระดับ Global ของเกม League of Legends Wild Rift
- กลุ่มเกม League of Legends Wild Rift ในไทย
นอกจากนี้แล้วหากอยากติดตามได้จากคนในวงการเกม Esprots ได้ชื่อดังทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Sunwaltz / เฮียโก้ HeaGow เป็นต้นครับ
สรุป
ทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลที่ทางเรา Bangkok Esports ได้เตรียมไว้ให้สำหรับทุกคนที่อยากจะเล่นเกม League of Legends Wild Rift หรือ LoL Mobile เพื่อเตรียมความพร้อมในวันข้างหน้าของปี 2020 ที่เกมเปิดให้เราเล่นนั้นจะได้มีความรู้ และพร้อมจะไต่แรงค์ไปกับเพื่อน ๆ ด้วยกันครับ
แล้วคุณล่ะคิดว่า LoL Wild Rift จะกลายเป็นเกมมือถืออันดับ 1 ในบ้านเราได้หรือไม่? คอมเมนต์บอกกันได้ด้านล่างเลยครับ