หลังจากที่ได้เปิดให้คนทั่วโลกบางส่วนได้ลองเล่นกันไปบ้างแล้วในช่วง Closed-beta ตอนนี้ League of Legends: Wild Rift ก็ได้เปิดให้เล่น Open-beta ทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อย สามารถไปดาวน์โหลดมาเล่นได้เลยในตอนนี้ แต่หลาย ๆ คนที่กำลังเล่น MOBA เกมอื่น ๆ อย่าง RoV, Mobile Legends หรือ Vain Glory อยู่ก็อาจจะมีคำถามว่า ทำไมถึงต้องเปลี่ยนมาเล่น League of Legends: Wild Rift กันใช่ไหม วันนี้ Droidsans จะมาเล่าให้ฟังกันครับ
ด้วยความที่ League of Legends: Wild Rift เป็นเกมที่โอนถ่ายมาจากเวอร์ชัน PC แต่อย่างไรก็ตาม เกมนี้ไม่ได้เป็นการพอร์ตมาโดยตรงนะ แต่ถูกพัฒนามาตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ระบบเกมสามารถเล่นบนมือถือได้ง่ายเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ยังคงฟีเจอร์ และระบบแผนที่ที่ยังเป็นแบบ League of Legends อยู่
อีกทั้ง Champion ในเกมทุกตัวก็ยังขยับ และเล่นได้เหมือนกับในเวอร์ชันใน PC เป๊ะ ๆ เลย แต่ตัว Wild Rift ได้มีการพัฒนาโมเดล และอนิเมชั่นให้มีความสดใหม่มากขึ้น แถมยังปรับแต่งสกิลบางสกิลของเวอร์ชันมือถือให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงเสน่ห์ความยากของตัวละครในเกมไว้อยู่เหมือนกัน
League of Legends เป็นเกมที่มีไอเท็มจำนวนที่ค่อนข้างเยอะ สามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ที่ต้องการ โดยไม่มีของที่ต้องออกตายตัวเสมอไป เป็นเพราะว่าในประวัติศาสตร์ League of Legends เวอร์ชัน PC ก็ได้มีคนหัวใสมากมาย คิดค้น Build ของ item แปลก ๆ ที่ตอนแรกดูเหมือนจะไม่เวิร์ค แต่สุดท้ายกลายเป็น Meta (แข็งแกร่งที่สุดในแพทช์นั้น ๆ ) สร้างความปวดหัวให้ผู้พัฒนาต้องมาตามเนิร์ฟอยู่หลายต่อหลายครั้งไป
แถมยังมีตัวละครหลายตัวที่มีสกิลที่ทำความเสียหายเป็นเวทย์ทั้ง ๆ ที่สกิลหลักเป็นกายภาพ ก็สามารถสลับเปลี่ยนมาออกของเวทย์ได้อีกด้วย ไม่แน่คุณอาจจะเป็นคนคิดค้น Build ใหม่เจ๋ง ๆ จนถูกใช้อย่างแพร่หลายก็เป็นได้ 😁
League of Legends มีค่าพลัง และสเตตัสที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน แบ่งออกหลัก ๆ เป็น กายภาพ (Attack Damage) และ และ พลังเวทย์ (Ability Damage) ซึ่งผู้เล่นก็สามารถดูได้ใน Tool Tips ว่าสกิลไหนเป็นเวทย์ และสกิลไหนเป็นกายภาพเพื่อจะสามารถออก item ได้อย่างตรงสาย อีกทั้งของแต่ละชิ้นก็มีเอฟเฟกต์พิเศษที่จะเสริมความแกร่งให้กับ Champion บางตัวเป็นพิเศษช่วยแก้สถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นของตัดฮีล (Gravious Wounds) ที่มาช่วยรับมือกับ Champion ดูดเลือด ไปจนถึง ไปจนถึงของช่วยลดค่าสถานะต่าง ๆ มาแก้เกมตัวที่มีตัว Crowd Control (สถานะผิดปกติต่าง ๆ) ได้อย่างอยู่หมัด
นอกจาก Item ที่เพิ่มค่าสถานะต่าง ๆ แล้ว League of Legends ก็ยังมีระบบของแบบ Active ที่ผู้เล่นสามารถซื้อมาแล้วกดใช้งานได้ทุกเมื่อเป็นเหมือนสกิลเสริม เพื่อพลิกสถานการณ์ให้เราเป็นฝ่ายได้เปรียบได้โดยหลัก ๆ จะมีดังนี้
อีกจุดที่น่าสนใจของ League of Legends: Wild Rift ก็จะเป็นในเรื่องของ Team Composition (การจัดตำแหน่งทีม) ที่สามารถเอามาคอมโบกันได้ทั้งในเลน และในทีมไฟต์ ช่วยให้การเล่นเป็นทีมกับเพื่อนที่รู้จักกันสนุกมากยิ่งขึ้นไปอีก การจัดทีม และเล่นแบบสื่อสารกันดี ๆ สามารถพลิกเกมให้คุณชนะได้ตั้งแต่ช่วงยืนเลนเลยทีเดียว
ยกตัวอย่าง Champion อย่าง Yasuo ที่จะสามารถใช้สกิลอัลติเมตได้ก็ต่อเมื่อมีคนลอยใกล้ ๆ ตัวทีมก็สามารถเลือกตัวที่มีสกิลยก Knock-up ได้อย่าง Malphite หรือ Orianna เพื่อให้สามารถเล่นได้ง่ายขึ้นนั่นเองครับ นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเล็ก ๆ เพียงน้อยนิดใน Champion Pool ของ League of Legends ที่น่าจะอัปเดตเพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ
League of Legends เป็นเกม MOBA ที่น่าจะมัดใจผู้เล่นส่วนใหญ่ (รวมถึงผม) ด้วย Mechanic พิเศษ และสกิลส่วนตัวมากมายทำให้คุณสามารถสร้างสถานการณ์ที่ได้เปรียบให้กับตัวคุณเองในไฟท์ เกิด Outplay Moment ที่ทำให้ทั้งคุณ และฝั่งตรงข้ามต่างเหวอไปตาม ๆ กัน
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Flash หลังสกิลบางอย่างเพื่อเปลื่ยนทิศทางเฉียบพลัน หรือการ Cancel Animation ต่าง ๆ เพื่อซ่อนสกิลเข้าไปใน Animation ของสกิลอื่น รวมถึงเทคนิค Auto Cancels ที่จะทำการรีดดาเมจออกมาให้สูงที่สุดในช่วงตัวต่อตัวกับฝั่งตรงข้ามทำให้คุณสามารถชนะอีกฝั่งได้แม้ว่าอีกฝั่งจะกำลังได้เปรียบอยู่ก็ตาม (ซึ่งเราจะมาสอนเพิ่มเติมในบล็อกหน้า ๆ ต่อไป อย่าลืมติดตามกันด้วย) ทำให้ League of Legends: Wild Rift เป็นเกมที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ได้ตลอดไม่รู้จบ
League of Legends มาพร้อมกับกลุ่ม Champion ที่หลากหลาย ให้ผู้เล่นได้สามารถเลือกได้ตามความชอบ และสไตล์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Tank แนวหน้าสุดถึกทน Carry ตีไกลสุดพลิ้ว นักเวทย์ที่มีความคล่องตัวสูง ไปจนถึงตัวป่วนที่ทำให้อีกฝั่งต้องจิกหัวด้วยความหงุดหงิด อีกทั้งในกลุ่มประเภท Champion ใหญ่ ๆ ยังมีอีกหลายตัวที่สามารถสลับตำแหน่งในการเล่นไปมา ออกของ Build ที่แตกต่างเพื่อเล่นเป็นสไตล์ใหม่ได้อีกด้วย ซึ่งบอกได้เลยว่าตอนนี้ Wildrift อาจจะยังมี Champion จำนวนน้อยกว่าเวอร์ชัน PC มาก แต่ถ้าอัปเดตมาครบเมื่อไหร่ บอกได้เลยว่ามีตัวให้ทุกคนได้ลองเล่นกันแน่นอน
ด้วยความที่เกม MOBA บนมือถือถูกออกแบบให้สามารถเล่นได้ง่ายขึ้นแบบพกพา ทำให้ต้องจำกัดสกิลของตัวละครส่วนใหญ่เป็น 3 สกิลเพื่อให้ง่ายต่อการเล่น และควบคุม อย่างไรก็ตาม League of Legends Wild Rift ตัดสินใจที่จะคงความเป็น Original ของตัวเกม แล้วยังคงนำสกิลทั้งหมดมาใส่ในเวอร์ชันมือถือ เพื่อให้ผู้เล่น PC ยังสามารถเล่นแชมป์เปี้ยนตัวโปรดของตัวเองในมือถือ เหมือนที่เคยเล่นใน PC เลย
สำหรับใครที่คุ้นเคยกับ RoV มาบ้างแล้ว ก็น่าจะรู้ว่าผู้เล่นสามารถเลือกสกิลที่เรียกว่า Talents มาใช้ได้ 1 อย่าง แต่ใน League of Legends ผู้ใช้งานสามารถเลือก Spells มาใช้ได้ถึง 2 อย่างพร้อมกัน ทำให้สามารถเปลี่ยนแปลงสไตล์ และรูปแบบการเล่นเกมได้อย่างที่ใจต้องการ ซึ่งมาตรฐานแล้วผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะหยิบ Flash (Flicker ใน RoV) พร้อม Spell อะไรก็ได้ตาม Champion ที่เล่น อีกทั้งเรายังสามารถเลือก Spell เพื่อไปแก้ทางตัวละครบางตัวได้อีกด้วย เช่นการหยิบ Ignite ที่มีเอฟเฟกต์ในการลดการรักษาไปสู้กับ Champion ที่มีสกิลฮีลหรือดูดเลือด ไปจนถึงการหยิบ Exhaust เพื่อเอาไปใช้ลดดาเมจตัว Assassin ชั่วขณะได้อีกด้วย
League of Legends ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว Champion ทุกตัวในเกม (ส่วนใหญ่) มีจุดอ่อนจุดแข็งที่ชัดเจน ผู้เล่นสามารถเลือกตัวมาแก้ทางได้ตามสถานการณ์ หรือจะออกของเพื่อมาทำให้ได้เปรียบมากขึ้นก็ทำได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการจะแก้ทางอีกฝั่งนั้น จำเป็นต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเกมค่อนข้างมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการกดดันเลน คุมมินเนี่ยน ไปจนถึงการหลบสกิลต่าง ๆ เพื่อที่จะสามารสร้างความได้เปรียบให้กับตนเองในสถานการณ์สำคัญ ๆ ได้นั่นเองครับ
อีกจุดที่ยังไม่เคยเห็นเกม MOBA บนมือถือที่ไหนเคยทำมาก่อนก็น่าจะเป็นในส่วนของระบบ Vision แบบเต็มรูปแบบเหมือนในเวอร์ชัน PC ซึ่งใน League of Legends Wild Rift ก็มาพร้อมกับระบบ Vision Ward ที่ให้ผู้เล่นสามารถวาง Ward ไว้ในจุดต่าง ๆ ของแผนที่ได้อย่างอิสระเพื่อที่จะสามารถวางแผน ป้องกันการแก๊ง ไปจนถึงคอยตามป่าฝั่งตรงข้ามว่าอยู่ส่วนไหนของแมพ เพื่อที่จะสามารถเล่นแบบเสี่ยง ๆ ได้โดยไม่ต้องกลัวโดนแก๊ง อีกทั้งท้ายเกมเรายังสามารถวาง Ward เหล่านี้ไว้ในจุดสำคัญต่าง ๆ เช่นมังกรหรือบารอนเพื่อที่จะสามารถไปก่อกวนได้หากฝั่งตรงข้ามตัดสินใจที่จะเก็บ Objective
อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของแต่ละคน แต่จากความรู้สึกส่วนตัวผมว่า League of Legends: Wild Rift มีกราฟิกที่สวยงาม แถมยังทำสีแผนที่ และตัวละครออกมาให้สามารถแยกออกกันอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มองง่ายสบายตา แม้อยู่ในไฟท์วุ่นวาย ก็ยังสามารถมองเห็นได้ไม่มีปัญหาเลย
ต่างกับเกม MOBA มือถือในตลาดทั่วไป ตอนนี้ League of Legends: Wild Rift มีตัวละครให้เลือกมากมายหลายตำแหน่ง แต่ต้องบอกนะว่าตัวละครทุกตัวมีราคาเท่ากันทั้งหมด แถมการเก็บเงินเพื่อซื้อตัวก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ซึ่งจากที่ลองเล่นมาราว ๆ 1 สัปดาห์ เล่นไปรวม ๆ ทั้งสิ้น 32 เกม ตอนนี้ผมได้ตัวใหม่มารวม ๆ เกือบ ๆ 5 ตัวแล้ว แถมยังมีกิจกรรม และเควสแจกตัวถาวรอีกมากมายที่จะอัปเดตมาให้เราได้เล่นเรื่อย ๆ อีกด้วย
เห็นแบบนี้แล้วใครที่สนใจก็สามารถไปรีบโหลดมาเล่นกันได้เลยนะครับทั้งใน App Store และ PlayStore อีกทั้งต่อจากนี้จะมีเดี๋ยวทีมงานจะทำ Content เกี่ยวกับ League of Legends Wild Rift ออกมาเรื่อย ๆ สำหรับใครที่สนใจก็รอติดตามกันได้เลยครับ 😁
“เครือซีพี” เบื้องหล…
This website uses cookies.