“Champion” คือคำที่ใช้เรียก Hero ในเกมตระกูล League of Legends (LoL) ผลงานอันโด่งดังของ Riot ที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน ซึ่งในที่สุดทางค่ายก็ได้ปล่อยตัวเกมในเวอร์ชั่นมือถือ หลังจากที่แฟน ๆ ร้องขอมาอย่างยาวนาน นั่นก็คือ League of Legends: Wild Rift เกมที่เรากำลังจะมาพูดถึงกันในวันนี้
ดังนั้นหากเห็นใครที่เรียกตัวละครในเกมด้วยคำนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะพวกเขาคือผู้ที่เคยเล่น LoL มาก่อนนั่นเอง โดยในช่วงแรกอาจมีความรู้สึกแปลก ๆ ในการเรียกอยู่บ้าง (เพราะเกม MOBA ส่วนใหญ่จะเรียกตัวละครว่า Hero) แต่เมื่อเล่นไปได้ระยะหนึ่ง ความคุ้นชินก็จะทำให้ความรู้สึกแปลก ๆ ที่ว่าหายไปเองอย่างแน่นอน
ตามเนื้อเรื่องดั้งเดิม Champion คือตัวแทนของดินแดนต่าง ๆ ของ Runeterra ในการต่อสู้เพื่อยุติข้อพิพาทหรือตัดสินปัญหาบางอย่าง (เช่นสงคราม) โดยหาก Champion ทีมไหนสามารถทำลาย Nexus ของฝ่ายตรงข้ามได้ก่อน ก็จะเป็นฝ่ายชนะและถือว่าพวกเขามีสิทธิที่พวกเขาอ้าง อย่างเช่นการเป็นผู้ชนะในการทำสงครามเป็นต้น วิธีนี้ทำให้แต่ละดินแดนไม่ต้องเสียเลือดเนื้อของผู้คนในการต่อสู้ รวมถึงรักษาสมดุลของพลัง Rune ที่คอยค้ำจุนโลก Runeterra ที่กำลังใกล้แตกดับเอาไว้
แม้เนื้อเรื่องในตอนนี้ของ LoL นิยามของ Champion อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่เล่าแล้วก็ตาม แต่นักสู้ทั้งหมดก็ยังถูกเรียกในชื่อนี้อยู่ดี ปัจจุบัน LoL มี Champion ทั้งหมด 150 คน แต่จะมีเพียง 42 คนเท่านั่นที่จะเปิดให้ทดสอบในช่วง Closed Beta วันนี้ GamingDose จึงขอนำเสนอข้อมูลของแต่ละสายตามการแบ่งของ LoL ซึ่งก็มีความแตกต่างกับ MOBA เกมอื่น ๆ อยู่ในหลายจุด ตามความสามารถหลาย ๆ แบบของ Champion แต่ละคน
ทั้งนี้ Champion บางคนอาจเป็นได้หลายสาย และแต่ละคนจะถูกวัดระดับความยาก – ง่ายในการเล่นด้วย ★ หากใครที่ได้ดาวสูงก็หมายถึง Champion มีความยากในการเล่นสูงไปด้วย โดยเกณฑ์ที่จะใช้ก็ได้แก่
★ = เล่นง่าย ความสามารถตรงไปตรงมา เหมาะสำหรับมือใหม่
★★ = เหมาะสำหรับคนที่พอมีพื้นฐานในการเล่นแล้ว มีความสามารถหลากหลายตามสายตัวละคร
★★★ = ต้องอาศัยทักษะและความเข้าใจในการเล่นพอสมควร บางตัวอาจเล่นง่ายแต่เล่นให้เก่งยาก (Easy to Play / Hard to Master)
(สามารถเข้าชมรายละเอียดของแต่ละ Champion ใน leagueoflegends.fandom.comโดยการกดที่ชื่อ)
เหล่า Champion อึดถึกตายยาก ทำหน้าที่เป็นกำแพงอันแข็งแกร่งให้กับทีม คอยปกป้อง Champion ที่บอบบางกว่าอย่างเช่นเหล่า Carry มีความสามารถในการเอาตัวรอดสูงสุด แลกกับความสามารถในการทำความเสียหายที่ค่อนข้างต่ำ สามารถแบ่งเป็นสายย่อยได้ 2 สาย คือ Vanguard และ Wardens
กลุ่ม Champion สายต่อสู้ประชิดตัว มีพลังโจมตีปานกลาง-สูง มีความสามารถในการเอาตัวรอดได้ดี บางคนมีพลังโจมตีมากพอที่จะเป็น Carry ได้ด้วย มีเลนประจำคือ Solo Lane สามารถแบ่งเป็นสายย่อยอีก 2 สาย คือ Divers และ Juggernauts
กลุ่ม Champion ที่สร้างความเสียหายจากการโจมตีปรกติเป็นหลักจากระยะไกล มีหน้าที่เป็นตัวสร้าง Damage ให้ทีม Marksman มักจะอยู่ Bottom Lane กับ Controller (Dragon lane ในเกม RoV) เพื่อความปลอดภัยในช่วงต้นเกม
กลุ่ม Champion ที่สร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรงมากด้วยสกิลหรือการโจมตีประชิดตัวเป็นส่วนใหญ่ ถือเป็น Carry ชนิดหนึ่ง มีพลังชีวิตไม่มากแต่คล่องพอสมควร แบ่งได้เป็น 2 สายคือ Assassins และ Skirmishers
Champion ที่เน้นการโจมตีที่รุนแรงด้วย Skill และการสร้างความเสียหายทางเวท ทำหน้าที่คล้ายกับ AD Carry ในบางครั้ง, Mage จะอยู่ Mid Lane ที่เก็บเลเวลได้ไวและสามารถให้เพื่อนมาช่วยได้ง่าย แบ่งได้ถึง 3 สายคือ Artillery, Battlemages, และ Burst
กลุ่ม Champion สายซัพพอร์ตคือผู้ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเล่น แม้บางคนจะมีพลังโจมตีสูงพอจะเป็นสายอื่นได้ก็ตาม แต่ Skill ของสายนี้จะเน้นไปที่การสนับสนุนทีมมากกว่า Controller มักจะอยู่กับ Marksman ใน Dual Lane แยกได้เป็น 2 ชนิดคือ Catchers และ Enchanters
Champion ที่มีความสามารถเฉพาะตัวมาก ๆ จนไม่สามารถจัดกลุ่มได้อย่างชัดเจน หรือมีความโดดเด่นในหลาย ๆ ด้าน ตลอดระยะเวลาของเกม
ก็ถือว่าครบกันแล้วสำหรับ 42 Champion ที่จะมีให้ทดสอบในช่วง Closed Beta นี้ โดยส่วนใหญ่พวกเขาจะมีความสามารถคล้าย ๆ กับต้นแบบใน LoL แต่ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดของสกิลให้เหมาะสำหรับการเล่นในมือถือ มากน้อยตามความซับซ้อนของสกิลนั้น ๆ ก็ขอให้ทุกท่านโชคดีได้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมทดสอบครั้งนี้ แล้วพบกันใน Rift 😀
“เครือซีพี” เบื้องหล…
This website uses cookies.