เรียกได้ว่าในตอนนี้ Leagues of Legends : Wild Rift คือคลื่นลูกใหม่ของวงการเกม MOBA อย่างแท้จริง ที่ค่ายอย่าง Riot ได้ตัดสินใจที่จะนำตัวเองเข้าสู่หนึ่งในตลาดเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกแห่งขั่วหนึ่ง หลังจากที่ประสบความสำเร็จใน PC มาแล้วกว่า 10 ปี
ถึงกระนั้น ทั้ง Riot และ LoL ก็ไม่ใช่ค่ายใหม่ แม้ว่าสำหรับวงการเกมมือถือแล้วจะใหม่แบบถอดด้ามมาจริง ๆ ก็ตาม ผลงานของพวกเขาอย่าง LoL ได้กลายเป็นต้นแบบให้กับเกมแนว Mobile MOBA ทุกเกมในช่วงเวลาประมาณ 3-4 ก่อนหน้านี้ ทำให้เกมอย่าง Honor of Kings กลายเป็นเกมที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลกมาแล้ว
เพราะฉะนั้น การมาของ Wild Rift จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นการกลับมาทวงสิ่งที่ตัวเองได้เคยให้คนอื่นไป และแสดงให้โลกเห็นว่า MOBA ยุคใหม่ตัวจริงนั้นเป็เช่นไร โดยที่ Wild Rift นั้นจะเข้าชนกับทั้ง Honer of Kings ของจีน, Mobile Legends ที่โด่งดังในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึง Arena of Valor ที่ถือว่าเป็นตัวเตงของภูมิภาคนี้อีกด้วย
สำหรับประเทศไทย ก็คงเรียกได้ว่าเป็นดินแดนของ Arena of Valor หรือ AoV, RoV ที่พวกเราคุ้นเคยกันดี เพราะฉะนั้นในวันนี้ ก่อนที่จะไปสัมผัสกับตัวเกมจริง ๆ ในปีหน้า เรามาทำความรู้จักกับ Wild Rift กันมากขึ้น โดยการเทียบกับ RoV ว่ามีความเหมือนและแตกต่างกันตรงไหนบ้าง เชิญชมไปพร้อม ๆ กัน
เริ่มจากสิ่งแรกที่เป็นหัวใจหลักของเกม MOBA กันก่อน นั่นก็คือ Hero โดยที่ข้อแรกนี้ Wild Rift ก็แตกต่างกันแล้ว เพราะเกมอย่าง LoL นั้นไม่มี Hero !!
ซึ่งก็เพราะ Hero ในเกม LoL จะถูกเรียกว่า “Champion” (แชมป์เปี้ยน, แชมป์) นั่นเอง ตามเนื้อเรื่องดั้งเดิมของเกม พวกเขาเหล่านี้คือผู้ที่มีตัวตนอยู่ในโลกที่ชื่อว่า Rune Terra และต้องมาต่อสู้แข่งขันกันในเกมที่ชื่อ “League of Legends” เพื่อตัดสินความขัดแย้งระหว่างดินแดนต่าง ๆ โดยผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Summoner ที่คอยควบคุม/ช่วยเหลือเหล่า Champion อีกที
เล่าเรื่องมาพอหอมปากหอมคอ ทีนี้มาเข้ารายละเอียดในเกมจริง ๆ กันบ้าง โดยความแตกต่างระหว่าง Hero ของ RoV และ Champion ใน LoL ก็มีดังนี้
- Hero ใน RoV รวมถึงเกม Mobile MOBA ส่วนใหญ่จะมี 3 Skill แต่ Champion จะมี 4 Skill
- Champion ใน LoL จะแบ่งสายกันชัดเจนกว่าใน RoV เช่น Tank ก็จะอึดมาก แต่ก็มักจะทำ Damage ได้น้อยอย่างเห็นได้ชัด
- Mage และ Marksman ใน RoV จะถูกเรียกว่า APC และ ADC ตามลำดับ (Ability Power และ Attack Damage)
- จากข้อ 3. LoL จะแบ่ง Carry ตามชนิดของความเสียหาย ไม่ใช่วิธีที่พวกเขาสร้างความเสียหายนั่นเอง
- ใน LoL จะไม่มีสาย Roming เหมือนใน RoV แต่จะเป็น Support ที่จะไปอยู่กับ Carry ในเลน Bottom แทน
- Hero ใน RoV จะได้ Ultimate ที่ Lv.4 แต่ใน LoL จะได้ที่ Lv.5
- ในวันเปิดตัว คาดว่าจะมี Champion ให้เล่นได้ราว ๆ 40 คน ตามภาพด้านล่าง
- การเล่นของ LoL จะเป็นลักษณะ “เล่นตามหน้าที่” มากกว่าใน RoV เนื่องจากลักษณะของ Champion ที่ค่อนข้างสุดไปสายหนึ่ง ๆ นั่นเอง โดยมักไม่ค่อยมีตัวละครที่ทำหน้าที่ได้เกินสายของตัวเอง ยกเว้นตัวละครสาย Hybrid บางตัวที่สามารถเล่นเป็นได้ทั้ง APC และ ADC หรือ Support บางคนที่สามารถเป็น Carry ได้ในช่วงท้าย ๆ เกม
อย่างไรก็ตาม Wild Rift นั้นก็ไม่เหมือน LoL ทั้งหมด โดยเฉพาะกับเวลาในการเล่น นั้นทำให้ความจริงในบางข้อ เช่นข้อ 5 ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ จากเกมที่เร็วขึ้นก็อาจทำให้มีสาย Roming เหมือนใน RoV ก็เป็นได้ ที่แน่ ๆ ก็คือ ด้วยจำนวน Skill ที่มากกว่า ก็ย่อมทำให้ Wild Rift มีรูปแบบเกมที่เป็นไปได้มากกว่าอย่างอย่างแน่นอน
โดยรวมแล้ว แผนที่ของ Wild Rift และ RoV นั้นจะมีความเหมือนกันอยู่พอสมควร ต่างกันตรงที่ตำแหน่งและรูปแบบการวางตัวของ Camp ของครีปป่าเท่านั้น แต่แผนที่ของ Wild Rift นั้นมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ซ่อนอยู่มากกว่าพอสมควร สรุปได้ดังต่อไปนี้
- แผนที่ของ Wild Rift จะเป็นแบบ Mirror เหมือน RoV เหมือนให้เหมาะกับการเล่นในมือถือ
- ระบบป้อมของทั้งสองเกมจะเหมือนกัน (3 Tier) และใน Wild Rift จะมีไม่ Inhibitor แบบ PC
- ครีปใน Wild Rift จะเรียกว่า Minion โดยจะออกมาคราวละ 4 ตัว โจมตีไกลและใกล้อย่างละ 2 (RoV จะออกครั้งละ 3)
- จากข้อด้านบน เนื่องจากว่าหากเป็นแผนที่แบบปรกติ ผู้เล่นฝั่งบนจะเสียเปรียบ เพราะมือซ้ายจะบังจอภาพขณะเล่น
- แผนที่ใน Wild Rift จะมีสิ่งที่เรียกว่า Jungle Plant โดยมันจะปรากฏอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในแผนที่ ประกอบด้วย
- Blast Cone : รูปร่างคล้ายหน่อไม้สีแดง เมื่อเก็บ มันจะระเบิดและทำให้ทุกคนกระเด็นออกไป (ลอยข้ามฉากได้)
- Honeyfruit : ผลไม้สีเขียว เมื่อโจมตีมันจะแตกลงไปบนพื้น 5 ลูก เมื่อเก็บจะเพิ่ม Hp และ Mp อีกเล็กน้อย
- Scryer’s Bloom : ดอกไม้สีฟ้า เมื่อโจมตี มันจะเปิดแผนที่ในทิศที่เราหันหน้าไปเป็นรูปกรวย
- นอกจากนี้ ยังมีพืชอีกชนิดที่ไม่มีใน LoL นั้นก็คือดอกไม้ Ward (ยังไม่มีชื่อเรียกในตอนนี้) ซึ่งเป็นจุดสำหรับปัก Ward นั้นเอง
- นั่นก็ทำให้ Wild Rift มีระบบ Ward แม้จะถูกจำกัดจุดที่ปักได้ก็ตาม ทั้งนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้ภายหลัง
- Wild Rift มีมังกรและบอสประจำ Map เช่นกัน ชื่อ Baron Nashor (บารอน) โดยจะเกิดในนาทีที่ 4 และ 10 ตามลำดับ
- การฆ่ามังกรจะให้บัพ แตกต่างกันไปตามชนิดของมังกรที่ฆ่าได้ (มี 4 แบบ) ในตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าบัพนั้นจะเหมือนใน PC หรือไม่
- การฆ่าบารอนจะให้บัพเช่นกัน ในส่วนนี้มีการยืนยันแล้วว่าจะให้บัพที่เหมือนกับแบบ PC (ทั้งทีมและครีปจะเก่งขึ้น)
- ในนาทีที่ 4 ในหลุมบารอน จะมี Rift Herald เกิดก่อนบารอน หากใครฆ่าได้ จะได้บัพเหมือนฆ่าบารอน
- นอกจากนี้ หากฆ่า Rift Herald ได้ มันจะดรอบไข่เพื่อไว้เรียกมันออกมาช่วยสู้ได้ด้วย (เหมือน Drake Mondester ใน RoV)
เพื่อไม่ให้บทความยาวจนเกินไป เราก็ขอเข้าสู่ส่วนสุดท้ายที่สำคัญอย่าง “ระบบการเล่นของเกม” โดยใน RoV นั้นเรียกได้ว่าถอดแบบมาจาก LoL PC อยู่หลายจุด ทำให้เชื่อว่าแฟน ๆ RoV ที่แม้เข้าไปใน Wild Rift เป็นครั้งแรกก็จะต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน โดยเราก็ได้สรุปมาให้แล้วเช่นกัน ดังนี้
- ระบบ Rune ของ Wild Rift จะเรียกว่า Keystone ซึ่งจะคล้าย ๆ กับ “พลังแฝง” ใน RoV
- Keystone มีทั้งหมด 5 สาย ตามสายของ Champion ในเกม LoL ได้แก่ Fighter, ADC, APC, Jungle และ Support
- Keystone ไม่ต้องซื้อ มีให้เลือกจัดได้ตามต้องการ มีสายหลัก/รอง เหมือนกับพลังแผงใน RoV อยู่พอสมควร
- ใน Wild Rift ผู้เล่นจะต้อง Last Shot ครีปเพื่อให้ได้เงิน ไม่เหมือนกับ RoV ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็ได้เงินแล้ว
- ในเกมจะมีระบบช่วยเหลือในการ Last Shot โดย Hp bar ของ Minion จะเป็นสีขาว หากเราสามารถ Last ได้
- Challenger Skill ใน RoV จะชื่อ “Summoner Spell” ใน Wild Rift โดยมีทั้งตัวที่เหมือนกันและต่างกัน แต่ Spell ใน LoL PC นั้นจะยังมาลงให้กับ Wild Rift ยังไม่ครบทุกตัว (ขาด Teleport และ Clean) ผู้เล่นสามารถใส่ Spell ได้ 2 อันพร้อมกัน
- ผู้เล่นสามารถซื้อของระหว่างอยู่ในเลนได้ แต่จะต้องไปรับที่ร้านค้าเอง ต่างกับ RoV ที่ซื้อตรงไหนก็ได้
- Item จะต่างกับ RoV อยู่พอสมควร โดยที่ใน LoL จะมี Item ที่มีความสามารถแปลก ๆ มากกว่า
- Item จะมาไม่ครบเท่ากับใน PC และบางชนิดจะมีความสามารถที่เปลี่ยนไป และมี Item ใหม่ ๆ ด้วย
- Wild Rift จะให้บริการโดย Riot Game ต่างกับ LoL PC และ RoV ที่ให้บริการโดย Garena ทำให้ไม่สามารถใช้ ID เดียวกันได้
- แผนที่ใน LoL จะเป็นโทนมืด ๆ ครึม ๆ แต่ใน RoV จะเป็นโทนที่สว่างกว่า ผู้เล่นจะสังเกตได้อย่างชัดเจนหากได้เล่น
- ความสามารถของ Champion บางตัวจะคล้าย ๆ กับใน RoV แต่ไม่มีตัวไหนที่เหมือน 100%
- ใน Wild Rift จะมีตัวละครที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์มากกว่าเล็กน้อย ซึ่งนี่เป็นจุดขายของ LoL เลยก็ว่าได้
- ใน LoL มีตัวละครที่เป็น “มะเร็ง” ของเกมเช่นเดียวกับ RoV โดยจะเป็นซามูไรถือดาบยาว ผู้ใช้วิชาสายลม 😀
สำหรับเหล่า Summoner ทั้งหลายที่กำลังอยากเล่นกันเต็มแก่แล้ว ก็คงต้องรอกันอีกซักพัก โดยที่ LoL : Wild Rift จะเปิดให้บริการในไตรมาสแรกของปี 2020 ติดตามรายละเอียดได้ที่ Fanpage หลักของเกมที่นี่ แน่นอนว่าในช่วงเวลาก่อนเปิดเกม จะต้องมีข้อมูลออกมาเพิ่มอย่างแน่นอน โปรติดตามชม