รีวิว realme 9i 5G ปลุกความเป็น ROCKSTAR ด้วยสเปคสุดคุ้ม หน้าจอ 90Hz Ultra Smooth พร้อม CPU Dimensity 810 5G และกล้อง 50MP

รีวิว realme 9i 5G

รีวิว realme 9i 5G สมาร์ทโฟน “THE 5G ROCKSTAR” ชูโรงด้วยดีไซน์อันโดดเด่นด้วยประกายที่ไม่เหมือนใคร พร้อมสเปคสุดแรง รองรับ 5G ใช้งานได้ไหลลื่นบนหน้าจอ 90Hz Ultra Smooth Display และอื่นๆ เพียบ

สรุปสเปค realme 9i 5G

  • ขนาดตัวเครื่อง : 164.4 x 75.1 x 8.1 มม.
  • น้ำหนัก : 187 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล 90Hz Ultra Smooth Display แบบ LCD ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล), สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 90.5%, 403ppi รองรับ Refresh Rate 90Hz และความสว่างสูงสุด 400 นิต
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 810 5G Octa-core ความเร็ว 2.4GHz
  • GPU : Mali-G57 MC2
  • RAM : 4/6GB
  • ROM : 64/128GB เพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 1TB
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
    • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซลรูรับแสง f/1.8
    • เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
  • เลนส์หน้า AI Beauty Selfie ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
  • ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5GHz + 2.4GHz, Bluetooth 5.2, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ชาร์จเร็ว 18W Quick Charge

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง realme 9i 5G พร้อมติดฟิล์มกันรอย
  • อะแดปเตอร์ 18W Quick Charge
  • สาย USB Type-C
  • เคสใส
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้นและใบรับประกันสินค้า
รีวิว realme 9i 5G

ดีไซน์อันโดดเด่นด้วยแรงบันดาลใจจากแผ่น CD

บอกเลยว่าตั้งแต่ที่แกะกล่องออกมาเห็นฝาหลังของ realme 9i 5G ก็ตาเป็นประกายแล้วครับ โดยรุ่นนี้ชูโรงด้วยดีไซน์แบบ Laser Light Design ที่มีการใส่กลิตเตอร์เข้าในไปฝาหลัง และยิ่งสะท้อนกับแสงจะยิ่งเห็นเลยว่ามีความโดดเด่นแบบสุดๆ ซึ่งกว่าที่จะได้ดีไซน์แบบนี้นั้นมาจากการออกแบบของแผ่น CD แนววินเทจครั้งแรกที่มาสู่ในอุตสาหกรรม โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์ของงาน MET Gala 2022

รีวิว realme 9i 5G
รีวิว realme 9i 5G

สีเด่นๆ นี้จะเป็นสีทองเมทัลลิค Metallica Gold ที่ให้ความเป็นประกายอย่างมาก ซึ่งหากสังเกตให้ดีๆ ที่บริเวณเลนส์กล้องจะมีลูกเล่นที่คล้ายกับการสาดแสงไปยังทั่วฝาหลัง คล้ายกับแผ่น CD ที่มีการเปลี่ยนสีและแสงตามบรรยากาศ ทำให้เรานึกถึงเสียงเพลงทุกครั้งที่จับ realme 9i 5G ทั้งนี้ความพิเศษของ realme 9i 5G คือการเป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่นำกระบวนการ True Unicover มาใช้ โดยเป็นการผสมผสานรวมเลนส์กล้องเข้ากับฝาหลังของตัวเครื่อง

รีวิว realme 9i 5G
รีวิว realme 9i 5G

ส่วนอีกสีจะเป็นสีดำ Rocking Black ที่มีความกริตเตอร์เช่นกัน ให้ความรู้สึกมีที่มีความคมเข้ม มีความเท่ ปลุกความ Rock ในตัวได้เป็นอย่างดีครับ

รีวิว realme 9i 5G
รีวิว realme 9i 5G

เมื่อลองเทียบทั้ง 2 สีจะเห็นความแตกต่างของ Mood & Tone อย่างชัดเจนเลยครับ

รีวิว realme 9i 5G

และอีกอย่างที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือความบาง 8.1 มม. และความเบา 187 กรัมของเครื่องทำให้ realme 9i 5G เป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่เบาและบางที่สุดเมื่อดุในกลุ่มราคาเดียวกันครับ

รีวิว realme 9i 5G

หน้าจอแสดงผลแบบ 90Hz Ultra Smooth Display

รุ่นนี้ไม่ได้ดีแค่ดีไซน์เท่านั้น แต่หน้าจอแสดงผลก็จัดมาให้ใช้งานกันแบบลื่นๆ 90Hz Ultra Smooth ครับ สามารถใช้งานได้ติดนิ้ว เล่นเกมได้ไม่มีสะดุด

รีวิว realme 9i 5G

ทั้งยังได้ขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.55 นิ้ว มีความคมชัดระดับ FHD+ ทำให้ใช้งานได้ชัดเจน จะดูภาพยนตร์ ซีรี่ย์หรือเล่นเกมก็ทำได้เต็มตาแน่นอน ไม่มีโมดูลใหญ่ๆ มาบดบังความสวยงามทำให้เราดูแล้วสบายตายิ่งขึ้น

รีวิว realme 9i 5G

พาชมรอบเครื่อง

บริเวณหน้าจอส่วนบนจะได้กล้องหน้า 8MP ในหยดน้ำ พร้อมลำโพงเพื่อสนทนาที่ด้านบนครับ

รีวิว realme 9i 5G

ส่วนทางซ้ายจะมีปุ่มเพิ่มและลดเสียง และได้ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ 3 Slot แบ่งเป็น nanoSIM 2 ช่อง และ MicroSD Card อีก 1 ช่อง

รีวิว realme 9i 5G

ทางขวาจะมีปุ่ม Power ที่มีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ครับ

รีวิว realme 9i 5G

ที่ด้านล่างเครื่องยังคงมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้ ตามด้วยไมโครโฟนตัวหลัก พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก

รีวิว realme 9i 5G

ท้ายสุดที่ด้านหลังจะมีกล้อง 3 เลนส์ที่เรียงเป็นสามเหลี่ยม พร้อมไฟแฟลชอีก 1 ดวงครับ ซึ่งความพิเศษอยู่ที่ realme 9i 5G จะไม่มีกรอบเลนส์มาให้ ทำให้ตัวกล้องมีความโดดเด่นและใช้พื้นที่ให้เห็นฝาหลังแบบเต็มๆ มากขึ้นครับ

รีวิว realme 9i 5G

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ

realme 9i 5G แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ครอบทับด้วย realme UI 3.0 ที่เป็นรุ่นล่าสุดของ realme ทำให้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้มาครบถ้วนแน่นอน และมีความเสถียรของการใช้งานอีกด้วย

รีวิว realme 9i 5G

ใช้งาน 5G Dual Standby ได้ไหลลื่นไม่มีหลุด

ใครที่ชอบเปิดใช้งาน 5G ผ่านเครือข่าย realme 9i 5G ก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ จับสัญญาณได้แน่น ไม่ค่อยหลุดไป 4G เท่าไหร่ครับ (อาจขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ด้วยนะ) ทั้งยังใช้งาน 5G ได้ทั้งแบบ SA/NSA ทำให้การใช้งาน 5G ไม่เหวี่ยงเกินไปและไม่กินแบตเตอรี่ครับ

รีวิว realme 9i 5G

ระบบความปลอดภัยให้มาครบถ้วน

ใน realme 9i 5G มาพร้อมระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าวตัวเครื่องด้านขวาครับ ซึ่งทำงานได้ดีมาก ยังไม่เจออาการที่สแกนไม่ติดเลยครับ

รีวิว realme 9i 5G

ขณะที่การสแกนใบหน้าก็ยังคงใช้ได้ดีและแม่นยำครับ

รีวิว realme 9i 5G

แถบด้านข้างอัจฉริยะเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

ใน realme UI 3.0 จะมีฟีเจอร์แถบด้านข้างอัจฉริยะมาให้ครับ โดยจะเป็นการนำแอปพลิเคชั่นหรือการตั้งค่าต่างๆ เข้ามาอยู่ในแถบข้างหน้าจอเพื่อให้เราเข้าถึงได้เร็วขึ้น ใครที่ใช้อะไรบ่อยๆ ก็สามารถแก้ไขได้ตามใจชอบเลยครับ

รีวิว realme 9i 5G

ปรับเปลี่ยน UI ได้ตามสไตล์ที่เป็นเรา

และสิ่งที่หลายคนได้ใช้กันแน่นอนคือการปรับ UI ให้มีสีสันและรูปแบบที่เราชอบครับ ซึ่งในรุ่นนี้ก็ทำได้เช่นกัน โดยปรับได้ทั้งสีไอคอน ธีม วอลเปเปอร์ รวมถึงลักษณะของไอคอนแอปและการตั้งค่าด่วนด้วยครับ

รีวิว realme 9i 5G
รีวิว realme 9i 5G

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

MediaTek Dimensity 810 5G เข้ามาเป็นหน่วยประมวลผลที่ขับเคลื่อน realme 9i 5G ให้ทำงานได้เต็มสปีดเลยทีเดียว ด้วยสเปคที่มาแบบ Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz โดยชิปตัวดังกล่าวนับว่าเป็นชิปที่รองรับ 5G ที่คุ้มค่าและเร็วแรงมากสุดในระดับราคาเดียวกันเลยครับ ควบคู่กับ GPU Mali-G57 MC2 ทำให้ประมวลผลด้านกราฟิกได้ดี เล่นได้ภาพสวยๆ ได้เลยครับ

รีวิว realme 9i 5G

เพิ่ม RAM ได้สูงสุด 5GB ด้วย Dynamic RAM Expansion

พื้นฐานของ realme 9i 5G ให้ RAM มาที่ 6GB อยู่แล้วครับ แต่เราสามารถเปลี่ยนพื้นที่ว่างของ ROM เป็น RAM ได้สูงสุด 5GB รวมเป็น 11GB ซึ่งเทียบเท่ากับเรือธงหลายๆ รุ่นเลยทีเดียว โดยจุดนี้ทำให้การสลับแอปหรือการเปิดแอปต่างๆ ก็ทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย

รีวิว realme 9i 5G

ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 9.4.3 ได้มาที่ 400,334 คะแนน

รีวิว realme 9i 5G

ทดสอบการเล่นเกม

RoV

รีวิว realme 9i 5G

ใครที่จะซื้อมาเล่นเกม RoV ก็สามารถเล่นได้ไหลลื่นแบบสบายๆ เลยครับ เฟรมเรททำได้นิ่งมากๆ เครื่องก็ไม่ร้อนเกินไป รวมถึงการตอบสนองของหน้าจอก็ทำได้ยอดเยี่ยมเลยครับ

APEX Legends Mobile

รีวิว realme 9i 5G

ส่วนเกม APEX Legends Mobile เราเปิดภาพกราฟิกสูงสุดทั้งหมดครับ แต่ realme 9i 5G ก็เล่นได้ไม่มีสะดุดเลยครับ ภาพไม่แตกและไม่เจออาการเฟรมดรอปเลยระหว่างที่เล่นไปประมาณ 3 รอบ

Asphalt 9: Legends

รีวิว realme 9i 5G

และกับเกมกราฟิกสวยๆ อย่าง Asphalt 9: Legends ก็เปิดภาพระดับสูงได้ด้วย ซึ่งทดสอบเล่นไปประมาณ 30 นาทีก็ทำได้ดีเลยครับ ไม่เจอการกระตุกใดๆ และยังได้ภาพที่สวยงามอีกด้วย

แบตเตอรี่ใหญ่ 5000mAh พร้อม 18W Fast Charge

สำหรับแบตเตอรี่ 5000mAh ที่ให้มาในรุ่นนี้ หาหชาร์จเต็มในช่วงเช้าก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ดู YouTube เล่นเกมเบาๆ รวมถึงเล่นโซเชียลแล้วครับ มีแบตเหลือเฟือให้กลับมาเล่นช่วงกลางคืนได้สะด้วย โดยระยะเวลาของการใช้เมื่อแบตเต็ม 100% จะสามารถสแตนบายด์ได้นานถึง 848 ชั่วโมง, ฟังเพลงนาน 105 ชั่วโมง, ดู YouTube นาน 16.4 ชั่วโมง และการโทรเข้า-ออกนาน 42.5 ชั่วโมง

รีวิว realme 9i 5G

ทั้งนี้ realme 9i 5G ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charge ที่เราได้ทดสอบชาร์จจริงจาก 22% ไปถึง 100% ใช้เวลาไปประมาณ 120 นาทีครับ ซึ่งถือว่าไม่ได้นานมากกับแบตที่ใหญ่ขนาดนี้

รีวิว realme 9i 5G

กล้อง 50MP AI Triple Camera ถ่ายได้สวย จบได้ที่หลังกล้อง

ในเรื่องกล้องก็ยังคงจัดเต็มาให้เหมือนเดิมใน realme 9i 5G ที่แม้ว่าจะเป็นรุ่นประหยัดแต่ฟีเจอร์ก็อัดแน่นมาให้ใช้กันเต็มที่เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ AI HDR, Portrait, Street Photography Mode 2.0, Nightscape หรืออื่นๆ อีกเพียบ

รีวิว realme 9i 5G

กล้องหลัก Ultra HD 50MP พร้อม AI HDR

ที่เลนส์หลักของ realme 9i 5G ก็จัดเต็มด้วยความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล พร้อมใช้งานเทคโนโลยี AI HDR ได้ด้วยเช่นกันครับ การปรับแต่งสีสันต่างๆ ก็ทำได้ดีมาก เพิ่มความสดใสของสีให้มากขึ้นโดยไม่ต้องแต่งเพิ่ม ควบคู่กับการได้เซ็นเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในระดับเดียวกัน ทำให้รับแสงได้มากกว่าเดิม ทั้งยังประมวลผลได้เร็วอีกด้วยครับ

ถ่าย Portrait สวยเนียนไม่ต้องแต่งเพิ่ม

ในโหมดการถ่ายภาพบุคคลหรือ Portrait ก็ยังคงเป็นจุดเด่นของ realme ครับ โดยใน realme 9i 5G ก็ยังถ่ายได้เนียนตา มีการเบลอได้และตัดขอบรอบตัวบุคคลได้ดีเลยทีเดียวครับ ทั้งนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเมื่อถ่ายโหมดนี้คือความสดใสของภาพที่ให้มาจัดเต็มมากๆ

เข้าถึงอารมณ์ได้มากขึ้นด้วย Street Photography Mode 2.0

ใครที่ชอบถ่ายภาพแนว Street หรือฟิลเตอร์ที่ให้อารมณ์แตกต่างจากเดิมก็มาพร้อมฟีเจอร์ Street Photography Mode 2.0 ที่ได้เพิ่ม 90s Pop Filter เข้ามา ทำให้ดูภาพที่ย้อนยุคเบาๆ และให้อารมณ์ของภาพที่ดูหลากหลายมากกว่าการถ่าย Portrait แบบเดิมๆ

Nightscape ถ่ายกลางคืนได้สวยงาม

realme 9i 5G ยังถ่ายภาพกลางคืนได้อย่างสวยงาม เก็บแสงได้ดีเลยจากการที่ได้เซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น ก็เก็บได้มากขึ้นครับ ทั้งยังมีการประมวลผลที่รวดเร็วพอสมควรครับ เพียง 2-3 วินาทีก็ได้ภาพกลางคืนออกมาแล้ว นอกจากนี้ ก็ยังมี Nightscape Filter อีก 5 แบบให้ใช้งานกันเลย ไม่ว่าจะเป็นสีทองทันสมัย, ไซเบอร์พังก์, ฟลามิงโก, จักรวาล และพิศวง

ถ่าย Macro ได้ใกล้สุด 4 ซม.

สำหรับอีกฟีเจอร์ที่มีมาให้จะเป็นการถ่าย Macro ที่ถ่ายวัตถุได้ใกล้สุดถึง 4 เซนติเมตร ซึ่งถ้าถ่ายในที่แสงปกติจะได้ภาพที่ค่อนข้างชัดและสีสดมากๆ ครับ

กล้องหน้า 8MP เซลฟี่ได้สวยเนียนปรับบิวตี้ได้เต็มที่

ใครที่มาสายเซลฟี่บอกเลยว่า realme 9i 5G ทำได้แบบสวยเนียนตาและปรับบิวตี้ได้แบบธรรมชาติมากๆ จบหลับกล้องได้เลยทันทีพร้อมอัปลงโซเชียลได้เลย

สรุปการใช้งาน realme 9i 5G

สำหรับ realme 9i 5G จัดเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปคต่างๆ ที่ให้มาทั้ง 90Hz Ultra Smooth Display ขุมพลัง Dimensity 810 5G ที่ใช้งานได้ไหลลื่น เล่นเกมสบาย พร้อมจัดการพลังงานได้ยอดเยี่ยม ส่วนกล้องหลังก็จัดมาให้ 3 เลนส์ ฟีเจอร์ครบถ้วนเลยครับ (แต่ถ้ามีเลนส์ Ultra-Wide Angle จะแจ่มเลยครับ) และเรื่องของแบตเตอรี่ก็อึดจริงๆ ด้วยความจุ 5000mAh ที่ใช้งานได้เต็มวันแน่นอนครับ

ราคาและวันวางจำหน่าย

realme 9i 5G (6+128GB) มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีทอง Metallica Gold และสีดำ Rocking Black โดยสนนราคาอยู่ที่ 9,499 บาท วางจำหน่ายที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 20 – 26 สิงหาคมพร้อมรับฟรี !! กระเป๋า Backpack, Phone stand, เครื่องทำความชื้นและชุดหูฟัง รวมมูลค่า 4,287 บาท และพิเศษยิ่งขึ้น รับเพิ่มสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือนพร้อมประกันจอแตกนานสูงสุด 1 ปี

และสำหรับช่องทางออนไลน์สามารถสั่งซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมผ่านช่องทาง Shopee, Lazada, JD CENTRAL และ This shop โดยเมื่อสั่งซื้อผ่านช่องทาง Shopee, Lazada และ JD CENTRAL ในวันที่ 23 – 31 สิงหาคม รับฟรี กระเป๋า Backpack, Phone stand, เครื่องทำความชื้น และชุดหูฟัง