รีวิว Redmi 10 2022 และ Redmi 10A สมาร์ทโฟนคู่หูพลังแบตอึด 5000mAh พร้อมจอใหญ่ และชิปเกมมิ่งราคาสุดคุ้ม

รีวิว Redmi 10 2022 และ Redmi 10A สมาร์ทโฟนคู่หูในราคาสุดประหยัดและสเปคที่คุ้มค่ามากๆ ทั้ง 2 รุ่นเน้นในเรื่องของแบตเตอรี่ที่จัดหนักมาให้ถึง 5000mAh พร้อมหน้าจอใหญ่เหมือนกันด้วย ใครเล็งรุ่นไหนเอาไว้ก็สามารถรับชมรีวิวได้เลยครับ เราได้จัดรีวิวรวมมาให้แล้ว

Redmi 10 2022

ขอเปิดกันด้วย Redmi 10 2022 สมาร์ทโฟนในสโลแกน “Level Up!” ที่ได้ความแรงจากขุมพลัง Helio G88 พร้อมหน้าจอ Refresh Rate 90Hz รองรับเทคโนโลยี AdaptiveSync  พร้อมด้วยแบตเตอรี่ใหญ่และชาร์จเร็วอีกด้วย

สรุปสเปค Redmi 10 2022

  • ขนาดตัวเครื่อง : 161.95 x 75.53 x 8.92 มม.
  • น้ำหนัก : 181 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล DotDisplay ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 90Hz แบบ AdaptiveSync และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G88 Octa-core ความเร็ว 2.0GHz
  • GPU : Mali-G52 
  • RAM : 4GB
  • ROM : 128GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 512GB
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ 50MP AI Quad Rear Camera ดังนี้
    • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
    • เลนส์ Ultra-Wide Camera ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 120 องศา รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
    • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4G/5G, Bluetooth 5.1, IR Blaster, NFC และพอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับชาร์จไว 18W Fast Charging

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

อุปกรณ์ภายในกล่อง 

  • ตัวเครื่อง Redmi 10 2022 พร้อมติดฟิล์มกันรอย
  • อะแดปเตอร์ 22.5W 
  • สาย USB Type-C
  • เคสใส
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
  • ใบรับประกันสินค้า

ดีไซน์สุดบางพร้อมความพรีเมี่ยมเกินราคา

ดีไซน์ของ Redmi 10 2022 ได้ความประทับใจไปเต็มๆ ครับ โดยฝาหลังใช้วัสดุพลาสติกที่มีความผิวด้าน ช่วยให้ดูมีความพรีเมียมมากขึ้นกว่าปกติ ทั้งยังได้งานประกอบที่แน่นมากๆ อีกด้วย

อีกหนึ่งอย่างที่ชอบมากๆ ในเรื่องดีไซน์ของรุ่นนี้คือความโค้งมนที่ฝาหลัง ช่วยให้การจับถือสะดวกมากขึ้น ใครที่ถือใช้งานบ่อยๆ จะรู้สึกได้เลยว่าไม่เมื่อยหรือและไม่มีรอยบาดของขอบเครื่องด้วย

สำหรับสีสันในรีวิวนี้จะเป็นสีขาว Pebble White ที่มองหาสะอาดตาและดูคลีนมากๆ แค่ก็ยังแฝงไปด้วยความสวยงามที่ละมุนสุดๆ ครับ ทั้งนี้ Redmi 10 2022 ยังมีอีก 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีเทา Carbon Gray และสีน้ำเงิน Sea Blue

หน้าจอไหลลื่น 90Hz พร้อมเทคโนโลยี AdaptiveSync

ใครที่ชอบหน้าจอแบบไหลลื่นใช้งานได้ติดนิ้ว Redmi 10 2022 รุ่นนี้ก็รองรับ Refresh Rate 90Hz ซึ่งความพิเศษอยู่ที่ได้เทคโนโลยี AdaptiveSync ที่ระบบสามารถปรับ Refresh Rate ได้เองโดยอัตโนมัติตามเนื้อหาบนหน้าจอ ได้แก่ 45Hz, 60Hz และ 90Hz โดยประโยชน์ของจุดนี้คือช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้นเยอะเลยครับ

สำหรับสายที่ชอบดูภาพยนตร์หรือซีรี่ย์ต่างๆ Redmi 10 2022 ก็มาพร้อมหน้าจอแบบ DotDisplay ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ทำให้รับชมวิดีโอได้เต็มตาและได้ความคมชัดระดับ Full HD+ ไปด้วย

พาชมรอบเครื่อง

ที่เหนือหน้าจอแสดงผลจะได้ลำโพงสำหรับสนทนาพร้อมด้วยกล้องหน้าแบบ DotDisplay มาให้ตรงกลางครับ

ฝั่งซ้ายจะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM ได้ 2 ช่อง แต่ช่องที่ 2 จะเป็นแบบ Hybrid ให้เลือกระหว่างซิมที่ 2 หรือใส่ MicroSD Card สูงสุด 512GB 

ด้านขวาตัวเครื่องจะมีทั้งปุ่มเพิ่มและลดเสียง และปุ่ม Power ที่ฝังระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ด้วยกัน

ส่วนด้านล่างตัวเครื่องจะมีทั้งไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1

ขณะที่ด้านบนจะได้ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม., ช่องลำโพงตัวที่ 2 ที่ซ่อนเซ็นเซอร์ IR Blaster หรือตัวอินฟราเรดเพื่อควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าคล้ายรีโมทในตัว และไมโครโฟนตัวที่ 2

สุดท้ายที่ด้านหลังจะมีกล้องหลัง 4 เลนส์ในโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง พร้อมด้วยสัญลักษณ์ “50MP CAMERA” ที่ด้านบน และ “AI CAM PHOTOGRAPHY SYSTEM” ที่าแถบดำด้านล่างครับ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

สำหรับ Redmi 10 2022 ยังคงรันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย MIUI 12.5 อยู่ครับ น่าเสียดายเล็กน้อยที่น่าจะแกะกล่องมาด้วย Android 12 อย่างไรก็ตาม การใช้งานหลักๆ ความเสถียร และฟีเจอร์ที่ให้มาก็ถือว่าครบถ้วนสมราคาแล้วครับ

ระบบความปลอดภัยก็ให้มาครบ

สำหรับระบบความปลอดภัยนอกจากจะมีรหัสผ่านหรือ PIN ตามปกติแล้ว ก็ยังได้ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างด้วย ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกในการสแกนพอสมควรเลยครับ เวลาถือเครื่องมาใช้งานก็จะโดนกับตัวเซ็นเซอร์พอดี

ทั้งนี้เรายังสามารถเพิ่มใบหน้าได้อีก 2 ใบหน้าเลยครับ โดยการใช้งานถือว่ารวดเร็วไม่ต่างจากการสแกนลายนิ้วมือเลย

มาพร้อมลำโพงคู่เสียงสุดกระหึ่ม

อีกหนึ่งสิ่งที่สายความบันเทิงต้องชอบมากแน่นอนคือการที่ Redmi 10 2022 ให้ลำโพงมาถึง 2 ตัว ได้ความกระหึ่มระหว่างการดูวิดีโอและเล่นเกมมากๆ เลยทีเดียว ที่สำคัญยังมีการแยกเสียงในแต่ละฝั่งได้อย่างชัดเจนด้วยครับ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความคุ้มค่าที่ Redmi 10 2022 ใส่เข้ามาให้จากปกติที่เรามักจะไม่ค่อยเห็นในสมาร์ทโฟนราคาระดับกลาง

มาพร้อมโหมดการอ่าน Reading Mode 3.0 

เวลาเราใช้งานและจ้องหน้าจอนานๆ อาจเกิดความเมื่อยล้าดวงตาได้ ในรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับโหมดการอ่านหรือ Reading Mode 3.0 ที่เราสามารถปรับแต่งรูปแบบถนอมสายตาได้ 2 แบบหลักๆ ได้แก่แบบ คลาสสิก ที่จะเป็นการตัดแสงสีฟ้าออกไป ซึ่งเรายังคงเลือกความเข้มได้เช่นเดิมครับ

ส่วนอีกแบบจะเป็นแบบกระดาษที่หน้าจอจะเพิ่มพื้นผิวให้คล้ายกระดาษมากขึ้นเพื่อช่วยลดอาการเมื่อยล้าได้ดีกว่าเดิมครับ ทั้งนี้ เรายังสามารถเปลี่ยนสีของระบบให้เป็นขาวดำหรือสีของไฟที่จะลดความเข้มของสีลงมาประมาณครึ่งหนึ่งครับ ใครยังไม่เคยลองอันนี้แนะนำมากๆ

 IR Blaster เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้เป็นรีโมทได้ง่ายๆ

Redmi 10 2022 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ IR Blaster ที่เราสามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่น “รีโมท Mi” เพื่อเปลี่ยนให้สมาร์ทโฟนเป็นเหมือนรีโมทเพื่อควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้ทันที เช่น แอร์, ทีวี, พัดลม และอื่นๆ

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ในด้านประสิทธิภาพความแรง Redmi 10 2022 ก็ไม่เป้นสองรองใครในราคาใกล้กันครับ เพราะใช้ขุมพลังเกมมิ่งอย่าง MediaTek Helio G88 แบบ Octa-Core ความเร็วสูงสุด 2.0GHz ช่วยส่งเสริมให้เทคโนโลยีที่ให้มาทำได้ไหลลื่นและเร็วแรงตามที่ควรจะเป็น

เพิ่ม RAM ได้อีก 2GB

สำหรับ RAM พื้นฐานที่มีมาให้อยู่แล้ว 4GB ในรุ่นนี้ก็รองรับเทคโนโลยีขยายหน่วยความจำหรือ RAM ได้อีก 2GB รวมเป็น 6GB เลยครับ ซึ่งจะช่วยให้เราเปิดแอปต่างๆ ได้มากขึ้น และเวลาเปิดขึ้นมาใหม่ก็แทบไม่ต้องโหลดใหม่อีกด้วย

โหมดเพิ่มประสิทธิภาพให้ทำงานอย่างเต็มที่

นอกจากจะเพิ่ม RAM ได้แล้ว Redmi 10 2022 ยังมาพร้อมโหมดที่เน้นประสิทธิภาพของเครื่องให้ทำงานสูงสุดเพื่อความไหลลื่นครับ ซึ่งใครที่จะกำลังเล่นเกมก็แนะนำให้เปิดเอาไว้เลยครับ 

มาพร้อม Game Turbo ผู้ช่วยในการเล่นเกม

ฟีเจอร์นี้นอกจากจะรวมเกมทุกเกมไว้ในที่เดียวให้เราแล้ว ก็ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อให้ไหลลื่น เสถียรมากขึ้น รวมถึงปรับระบบสัมผัสได้ตอบสนองไวกว่าเดิมด้วย

ทดสอบการเล่นเกม

RoV

สำหรับเกม RoV จะเปิดกราฟิกและภาพได้ในระดับสูง รวมถึงเฟรมเรทสูงเช่นกันครับ ซึ่งจากที่เราลองเล่นถือว่าทำได้ดีมาก เฟรมเรทค่อนข้างนิ่ง อยู่ที่ 57-61fps ตลอด และตัวเครื่องก็ไม่ได้ร้อนจนเกินไปครับ

PUBG Mobile

ส่วน PUBG Mobile ในรุ่นนี้ก็เปิดภาพได้ที่ระดับ HD และเฟรมเรทสูงครับ โดยการเล่นทำได้ดีมาก หน้าจอตอบสนองได้ไว

แบตเตอรี่สุดอึด 5000mAh ใช้งานได้ครบวัน

Redmi 10 2022 ให้แบตเตอรี่มาถึง 5000mAh ซึ่งใครที่ใช้งานทั่วๆ ไป อย่างเล่น Facebook หรือดู YouTube สลับๆ กันบ้าง รับรองว่าอยู่ในได้ครบวัน และมีเหลือๆ มาชาร์จในตอนค่ำอีกด้วยครับ

ทั้งนี้ ในการชาร์จก็ยังรองรับ 18W Fast Charging มาให้ด้วย ซึ่งจากที่เราลองชาร์จจากแบตเหลือราว 30% ไปถึง 100% ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีครับ

กล้อง 4 เลนส์ 50MP AI Quad Rear Camera

Redmi 10 2022 ไม่ได้จัดเต็มในเรื่องประสิทธิภาพและด้านหน้าจอเท่านั้นครับ เพราะกล้องหลังก็จัดมาให้ถึง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุดถึง 50 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่ให้มาครบถ้วนเลยทีเดียว

AI ฉลาด ตรวจจับวัตถุได้แม่นยำ

Redmi 10 2022 รองรับเทคโนโลยี AI ที่มีการตรวจจับวัตถุและระบุได้ว่าสิ่งที่เราจะถ่ายคืออะไร ซึ่งจะมีการปรับแต่งตามความเหมาะสมของแต่ละอย่างเลยครับ ซึ่งหลักๆ รุ่นนี้จะเน้นไปที่สีสันที่มีความฉูดฉาดมากๆ ได้ความเข้มเต็มที่ แต่ก็ยังคงความคมชัด และถ่ายย้อนแสง HDR ได้เป็นอย่างดี

Ultra-Wide Angle เก็บได้ครบด้วยความกว้าง 120 องศา

เลนส์มุมกว้างในรุ่นนี้ที่มีมาให้ได้ความกว้างถึง 120 องศาเลยทีเดียว ซึ่งเป็นหนึ่งจากเพียงไม่กี่รุ่นสุดประหยัดที่ถ่ายมุมกว้างขนาดนี้ ช่วยให้เราเก็บองค์ประกอบที่ต้องการได้ครบ และก็เป็นมุมมองที่กว้างกำลังพอดีเลยด้วย

มาพร้อมเลนส์ Macro ถ่ายได้ใกล้สุด 4 ซม.

สำหรับเลนส์นี้คงคุ้นเคยกันพอสมควรแล้วครับ โดยรุ่นนี้ให้เราถ่ายได้ใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร ซึ่งเราแนะนำให้ถ่ายในที่แสงกลางแจ้งครับ จะได้ภาพที่ออกมางดงามมากๆ และได้สีสันสดใส

ถ่าย Portrait ยังคงทำได้ธรรมชาติ

สำหรับโหมดการถ่ายภาพบุคคล Redmi 10 2022 ทำได้ดีสมราคา การตัดขอบรอบตัวบุคคลทำได้ยอดเยี่ยม ค่อนข้างเนียนเลยทีเดียว ทั้งยังสามารถปรับความฟรุ๊งฟริ๊งเพิ่มคาวมเนียนบนใบหน้าได้ถึง 100 ระดับ

ถ่ายภาพกลางคืนด้วย Night Mode ได้สวยงาม

สำหรับการถ่ายในตอนกลางคืนก็ยังคงทำได้สวยงามเลยครับ วัตถุต่างๆ ยังคงออกมาแบบคมชัด เห็นสีสันต่างๆ ได้ชัดเจนกว่าโหมดปกติชัดเจน รวมถึงระยะเวลาของการประมวลผลก็ไม่นานเลยครับ อยู่ที่ประมาณ 2-3 วินาทีเท่านั้น

  • โหมดปกติ / Night Mode

เซลฟี่ได้ใบหน้าที่เนียนและเป็นธรรมชาติ

สำหรับกล้องหน้าที่ให้มา 8 ล้านพิกเซล ทำได้สวยงาม สามารถปรับความเนียนบนใบหน้าได้ 100 ระดับในโหมดปกติ รวมถึงรองรับการถ่ายด้วยโหมด Portrait อีกด้วย ซึ่งจากที่เราไปลองถ่ายมา ภาพได้ความคมชัดมากทั้งในที่กลางแจ้งหรือในที่แสงน้อย (แต่ไม่น้อยเกินไป) โดย Noise เกิดในภาพน้อยมากครับ

สรุปการใช้งาน Redmi 10 2022

สำหรับ Redmi 10 2022 เป็นรุ่นที่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์จริงๆ ครับ การใช้งานทั้งแบบทั่วไปหรือใครที่เล่นเกมที่มีกราฟิกทั่วไปอย่าง RoV และ PUBG Mobile ก็ทำได้ไหลลื่นมากๆ ทั้งยังได้หน้าจอแบบ 90Hz DotDisplay ที่ตอบสนองได้เป็นอย่างดี, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ใช้งานได้ครบวัน และกล้องหลัง 4 เลนส์ คมชัดสูงสุด 50 ล้านพิกเซลที่จัดมาให้ครบทุกฟีเจอร์หลักๆ เลยครับ

Redmi 10A 

ต่อด้วย Redmi 10A ที่จัดกล้อง 13 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่พลังอึดถึง 5000mAh ตามสโลแกน “13MP Dual Camera, 5000mAh Battery” ซึ่งรุ่นนี้จัดว่าเป็นหนึ่งในรุ่นที่ราคาประหยัดและตอบโจทย์สำหรับคนที่หาไว้ใช้งานทั่วไปสักรุ่นแน่นอน

สรุปสเปค Redmi 10A

  • ขนาดตัวเครื่อง : 164.9 x 77.0 x 9.0 มม.
  • น้ำหนัก : 194 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล  Dot Drop Display ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล)
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G25 Octa-core ความเร็ว 2.0GHz
  • GPU : PowerVR8320 
  • RAM : 3GB
  • ROM : 64GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 1TB
  • กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
    • เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g, 2.4G, Bluetooth 5.0 และพอร์ต Micro USB 2.0
  • แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ชาร์จ 10W

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

อุปกรณ์ภายในกล่อง 

  • ตัวเครื่อง Redmi 10A 
  • อะแดปเตอร์ 10W
  • สาย Micro USB 2.0
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิม
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
  • ใบรับประกันสินค้า

ดีไซน์ฝาหลังโค้ง 3 มิติได้ความเป็นธรรมชาติ

Redmi 10A มาพร้อมกับดีไซน์ฝาหลังที่มีความโค้งแบบ Unibody ที่ตัวขอบเครื่องและฝาหลังเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้เราจับถือได้ถนัดมือ พร้อมใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงครับ

ทั้งนี้ ลวดลายที่ฝาหลังก็มีเส้นตรงเป็นลวดลายที่เพิ่มเข้ามาทำให้ดูโดดเด่นมากขึ้น โดยสีสันในรุ่นนี้ก็มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Sky Blue ในรีวิว, สีเทา Graphite Grey และสีเงิน Chrome Silver

หน้าจอใหญ่ Dot Drop Display 6.53”

Redmi 10A ใช้หน้าจอแสดงผลแบบ Dot Drop Display ที่เป็นแบบหยดน้ำตรงกลาง ช่วยให้หน้าจอมีขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้ว ควบคู่กับความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) ทำให้ยังรับชมได้คมชัดเช่นเคยครับ

พาชมรอบเครื่อง

เหนือหน้าจอแสดงผจะมีกล้องหน้าในหยดน้ำ พร้อมด้วยลำโพงสำหรับการสนทนาครับ

ด้านซ้ายตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง และช่องใส่ MicroSD Card ให้อีก 1 ช่อง รวมทั้งหมดเป็น 3 ช่อง

ส่วนด้านขวาจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power มาให้

ที่ด้านล่างตัวเครื่องจะมีไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต Micro USB 2.0 และลำโพงตัวหลัก

ขณะที่ด้านบนมีเพียงช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้

และที่ด้านหลังจะมีโมดูลกล้องหลังขนาดใหญ่ โดยแถบบนแนวนอนจะเป็นกล้อง 2 เลนส์ ส่วนด้านล่างจะเป็นไฟแฟลช LED และสัญลักษณ์คำว่า “AI” เท่านั้น ทั้งนี้ ที่ด้านนอกกรอบเลนส์กล้องจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วยครับ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

สำหรับ Redmi 10A แกะกล่องมาพร้อม Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5 โดยการใช้งานและฟีเจอร์ที่สำคัญยังคงมีมาให้ครับ

ระบบความปลอดภัย

Redmi 10A มาสามารถสแกนลายนิ้วมือได้ที่ด้านหลังเครื่องซึ่งตำแหน่งถือว่าค่อนข้างสะดวกเวลาเราถือเครื่องและนิ้วชี้ไปอยู่บริเวณตัวเซ็นเซอร์พอดีครับ

มาพร้อมโหมดการอ่านตัดแสงรบกวนสีฟ้า

สำหรับโหมดนี้ยังคงมีมาให้เหมือนกันครับ แต่สามารถใช้งานได้ในการตัดแสงสีฟ้าเท่านั้น ซึ่งยังคงช่วยลดอาการเมื่อยล้าดวงตาได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเวลาใช้งานนานๆ ครับ

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

Redmi 10A ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล MediaTek Helio G25 แบบ Octa-Core ความเร็วสูงถึง 2.0GHz ซึ่งชิปตัวนี้เป็นชิปเกมมิ่งราคาสุดคุ้มที่ใครชอบเล่นเกมเบาๆ ก็สามารถเล่นได้ไหลลื่น รวมถึงใครที่ใช้งานเพื่อเล่นโซเชียลทั่วไปก็ยังคงทำได้เป็นอย่างดีครับ

ทดสอบการเล่นเกมด้วย RoV

จากที่เราลองเล่นเกม RoV ถือว่าเป็นที่น่าพอใจมากๆ คับ สามารถเปิดกราฟิกและเฟรมเรทได้สูงทั้งหมด (ยกเว้นการแสดงผลที่ได้ระดับสูง) ซึ่งพอเข้าไปเล่นจริงๆ เฟรมเรทนิ่งมากๆ อยู่ที่ประมาณ 60fps เกือบตลอด แต่จะมีบางช่วงที่ร่วงลงมาบ้างแต่ตัวเกมไม่ได้กระตุกเกินไปจนเล่นไม่ได้ครับ

แบตเตอรี่ใหญ่ 5000mAh ใช้งานได้เกิน 1 วันแน่นอน

ด้วยการที่ Redmi 10A มาพร้อมชิปเกมมิ่งที่ใช้งานทั่วไปได้ไหลลื่นและประหยัดพลังงานไปในตัว พร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวถึง 5000mAh บอกเลยว่าการใช้งานทั่วไป 1 วันนี่เหลือๆ เลยครับ จาก 100% ในช่วงสายๆ ยังเหลือถึง 60% ในตอนค่ำ ซึ่งยังเหลือให้ใช้ต่อได้อีกวันด้วย

กล้องหลังคู่ 13MP

สำหรับกล้องหลังของ Redmi 10A ที่ให้มา 13 ล้านพิกเซลถือว่าทำได้ดีเกินตัวและเกินราคาด้วยฟีเจอร์ที่พร้อมใช้งานเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นโหมด AI ที่ตรวจจับวัตถุต่างๆ ได้เยอะพอสมควรและมีความแม่นยำ รวมถึงถ่ายภาพย้อนแสงที่ให้เราเปิด HDR ได้ด้วยเช่นกันครับ ขณะการถ่าย Portrait ที่ตัดขอบได้ค่อนข้างเนียน

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Redmi 10A

สรุปการใช้งาน

ส่วนรุ่นเล็กๆ ราคาประหยัดอย่าง Redmi 10A ก็เป็นอีกรุ่นที่ใช้งานได้คุ้มค่าเหมือนกันครับ โดยชูโรงด้วยหน้าจอที่ใหญ่เต็มตา ใช้งานได้คมชัด รวมถึงสามารถเล่นเกมทั่วไปได้สบายๆ เลยครับ และที่ชอบสุดเลยคือแบตเตอรี่ที่อึดมากๆ อยู่ต่ำๆ ได้ถึง 1 – 2 วันเลยทีเดียว ใครที่ไม่อยากชาร์จแบตระหว่างวันตลอด Redmi 10A ตอบโจทย์ได้แน่นอนครับ

ราคาและวันวางจำหน่ายทั้ง 2 รุ่น

Redmi 10 2022 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Carbon Gray, Pebble White และ Sea Blue โดยจะวางจำหน่ายรุ่นความจุ 4GB+128GB ในราคา 5,699 บาท 

และ Redmi 10A มีให้เลือก 3 สีเช่นกัน ได้แก่สี Graphite Grey, Chrome Silver และ Sky Blue โดยจะวางจำหน่ายรุ่นความจุ 3GB+64GB ในราคา 3,999 บาท สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ