หุ่นยนต์ใต้น้ำ DTG3 RoV เป็นหุ่นยนต์ที่จะช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมใต้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัท Halma บริษัทผลิตเทคโนโลยีสายสิ่งแวดล้อมได้ทำการซื้อกิจการบริษัท Deep Trekker บริษัททางด้านการผลิตยานพาหนะและหุ่นยนต์ใต้น้ำด้วยวงเงินกว่า $47 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยที่หุ่นยนต์ของบริษัท Deep Trekker นี้ ทางบริษัท Halma จะนำไปใช้ในเรื่องของการวิเคราะห์ทางด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
หุ่นยนต์ใต้น้ำของ Deep Trekker ที่บริษัท Halma จะทำการใช้งานมีชื่อว่า DTG3 RoV เป็นหุ่นยนต์ใต้น้ำที่ใช้ปริมาณแบตเตอรีที่สามารถใช้ได้มากถึง 8 ชั่วโมง หากอยู่ในน้ำได้ลึกมากถึง 200 เมตร เช่นเดียวกันหุ่นยนต์ DTG3 RoV มีความสามารถในการดำน้ำลึกได้อีก 305 เมตร แต่ก็ต้องแลกมาด้วยปริมาณแบตเตอรี่ที่ลดน้อยลง หุ่นยนต์นี้แบ่งออกเป็น 2 รุ่นด้วยกันก็คือ รุ่น Pivot RoV กับ Revolution RoV
สำหรับรุ่น Pivot RoV สามารถใช้งานได้ในระยะเวลา 3 ชั่วโมง ในขณะที่รุ่น Revolution RoV ใช้งานได้ถึง 6 ชั่วโมง ทางด้านบริษัท Deep Trekker ได้มีการออกแบบหุ่นยนต์ใต้น้ำเพื่อการตรวจสอบและรองรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเพาะสัตว์น้ำ, โครงสร้างพื้นฐาน, พลังงาน, ใช้สำหรับการค้นหาและการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้น
ทางด้านแอนดรูว์ วิลเลียม (Andrew Williams) ผู้บริหาร Halma ได้กล่าวว่า การซื้อกิจการบริษัทหุ่นยนต์ถือเป็นโอกาสที่ดีในการยกระดับตลาดให้เติบโตมากขึ้น พร้อมกับให้ภาครัฐเอาจริงเอาจังในการออกข้อบังคับในการควบคุมดูแลสุขภาพ, ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมต่อปัญหาโลกร้อนที่เป็นอยู่ในเวลานี้
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัท Deep Trekker ทำกำไรได้จากการขายหุ่นยนต์ได้มากถึง $15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยผลกำไรประมาณ 2 ใน 3 มาจากการซื้อขายกันระหว่างบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ผลกำไรกว่า 15 % มาจากทางยุโรปเป็นหลัก โดยบริษัท Deep Trekker ได้มีการก่อตั้งขึ้นในปี 2010 มีการจัดจำหน่ายอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ มากกว่า 99 ประเทศ และจะมีการขยายสาขาไปยังประเทศในแถบลาตินอเมริกาในอนาคต
ข้อมูลจาก : therobotreport.com
ภาพจาก : Deep Trekker