ในส่วนของฮีโร่ประเภทแครี่นั้นเรียกด้ว่ามีการปรับกันแทบทุกแพทช์ โดยในแพทช์หน้านี้จะมีผู้โชคดีเพียง 2 ท่านเท่านั้น ได้แก่ Wisp และ Thorne นั่นเอง
แอบกระซิบไว้เลยว่า สายเล่น Wisp ยังไม่เท่าไหร่ สายเล่น Thorne นน่าจะมีเดือดร้อนกันบ้างแหละ แต่ละตัววจะเปลี่ยนไปอย่างไรมาดูกัน
Wisp
ฮีโร่อย่าง Wisp นับว่าจริงๆสกิลของฮีโร่ตัวนี้ค่อยข้างจะสมดุลอยู่แล้วในตัวเองพอสมควรเลยนะ อาจจะต้องรอบ้าง แต่พอเกิดแล้วก็จ่ายดาเมจได้ค่อนข้างดีเลย แต่ในแพทช์หน้าจะถูกปรับในเรื่องของสกิล 2
2nd Skill : Barrel Bomb
Wisp จะยิงลูกระเบิดไปยังทิศทางที่กำหนด สร้างความเสียหายกายภาพ พร้อมกับลดความเร็วเคลื่อนที่ลง 30% เป็นเวลา 1 วินาที จากนั้นมันจะระเบิดเมื่อกลิ้งไปจนสุดทางหรือชนกับกำแพง สร้างความเสียหายกายภาพพร้อมกับสตัน 1 วิ
(สร้างความเสียหาย 60% แก่สิ่งปลูกสร้าง) หากแรงระเบิดโดนฮีโร่ จะลดคูลดาวน์ให้สกิลนี้ 3 วินาที > ลดเวลาสตันลงเหลือ 0.75 วินาที เอาจริงๆก็แอบคิดว่าเยอะเหมือนกันนะ จากเดิม 1 วินาทีเหลือแค่ 0.75 วินาที
สรุป ลดเวลาสตันศัตรูลงเหลือ 0.75 วินาที
Thorne
มาต่อกันที่ Thorneในแพทช์นี้หลายๆคนคงเคยเล่นแล้วแหละ Thorne กระสุนม่วง 3 นัด ซึ่งมันแรงแบบ แรงมากๆ โดยเฉพาะยิงไปนัดแรก แครี่ฝั่งตรงข้ามถ้าโดนเข้าไปก็มีร้องเหมือนกัน
ไม่รู้ยังไง เหมือนผู้พัฒนาเกมได้ยินเสียงกรีดร้องจากคนที่โดน Thorne ยิงใส่ แพชท์หน้านี่เลยปรับสะเลย อย่าเรียกว่าปรับเลยเอาจริงๆ เหมือน Re-work เลยก็ว่าได้ ปรับเยอะมากๆแทบทุกสกิลกันไปเลย ขาด Ultimate สกิลเดียวที่โดนแค่นั้นเอง
Passive Skill : Ready
แพทช์เดิม
สกิลของ Thorne จะไม่ได้รับผลจากเอฟเฟกต์จากบัฟฟ้า (ลดคูลดาวน์) แต่จะเปลี่ยนทุก 1% ของเอฟเฟกต์ลดคูลดาวน์เป็นพลังโจมตีกายภาพ 4 หน่วยแทน
แพทช์ใหม่
สกิลของ Thorne จะได้รับเอฟเฟกต์จากบัฟฟ้าแล้ว
1st Skill : Magic Bullet
เวลาคูลดาวน์ (กระสุน 2 นัด, กระสุน 3 นัด) : 5 วินาที, 10 วินาที > 4 วินาที, 6 วินาที
ความเสียหายจากกระสุนม่วง (Spell damage) : (เดิม)ความเสียหายเวท โดยคิดจากพลังชีวิตของฮีโร่เป้าหมาย ณ ขณะนั้น โดยคิดเป็น 2/4/6% ของพลังชีวิต ณ ขณะนั้น (ยิ่งเลือดฮีโร่เป้าหมายเยอะ Thorne ยิ่งยิงแรง) และยังเพิ่มความเสียหายกายภาพ 1/2/3%
ทุกๆ ความเสียหายเวท 100 หน่วย > ความเสียหายเวทคิดจาก 2/3/4% ของพลังชีวิตสูงสุด และทุกๆพลังโจมตี 100 หน่วย จะเพิ่มความเสียหายกายภาพ 0.5/0.75/1%
ดังนั้นเนี่ย Thorne ในแพทช์หน้าจะยิ่งเบาลง แต่ว่ายิงนัดไหนก็แรงเท่ากันเพราะคิดดาเมจจากพลังชีวิตสูงสุดไม่ใช่พลังชีวิต ณ ขณะนั้น ซึ่งจะมีประโยชน์ค่อนข้างมากเวลาที่ศัตรูเลือดน้อย หรือ Last shot เพราะถ้าคิดจากพลังชีวิต ณ
ขณะนั้นเนี่ยยิ่งเลือดศัตรูน้อยยิ่งยิงได้เบา ทำให้สังหารฮีโร่ศัตรูได้ยากยิ่งขึ้น
ลดความเร็วศัตรูจากกระสุนเหลือง (Slow) : ลดความเร็วศัตรูลง 5/10/15% (+1/2/3% ต่อ Lv. ของสกิล) และสะสมได้ 3 ครั้ง > ลดความเร็วศัตรูลง 20/30/40% (+4/6/8% ต่อ Lv.) ลดความเร็วศัตรูได้มากขึ้นแต่ว่าในแพทช์ใหม่ไม่สามารถเก็บ stack หรือสะสมได้แล้ว
แม้ว่าในแพทช์เดิมลดความเร็วได้แค่ 15% ก็จริงนะแต่ว่าเรายังสามารถเก็บ stack ได้ถึง 3 ครั้ง ดังนั้นถ้าเรายิงรัวๆเนี่ย เราจะสามารถลดความเร็วศัตรูได้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในแพทช์ใหม่คือยิงนัดเดียว ก็ลดความเร็วฮีโร่ศัตรูได้สะเกือบหยุดนิ่งเลย
ถ้าเล่นแบบเน้นจ่ายดาเมจไวๆ ก็ยังนับว่าโอเคอยู่นะสำหรับการปรับกระสุนเหลือง แต่อันนี้ก็ขึ้นกับผู้เล่นแต่ละคนที่จะนำไปปรับการเล่นกันแล้ว
ความเสียหายจากกระสุนฟ้า (Cold shrink) : ลดคูลดาวน์สกิล 2 และ 3 ลงเป็นเวลา 0.2/1/1.5 วินาที (+0.1/0.2/0.3 วินาทีต่อ Lv. สกิล) > ไม่มีลดคูลดาวน์ แต่เพิ่มเป็นยิงกระจายในระยะ 3/4.5/6 เมตรเข้ามาแทน ยิ่งใส่กระสุนฟ้าเยอะ ยิ่งยิงกระจายได้เยอะ
และกระสุนฟ้าจะทำความเสียหายอยู่ที่ 50% ของพลังโจมดีกายภาพ
ยังไม่พอสำหรับการปรับสกิล 1 ของ Thorne ยังมีการเอาสกิล Overload ออก คือเดิมเนี่ยเมื่อใส่กระสุนครบ 3 นัดจะทำให้ Thorne ได้รับบัพ Overload 5 วินาที ซึ่งจะทำให้วิ่งเร็วขึ้น แต่ในแพทช์หน้าคือไม่มีแล้ว ใส่กระสุนครบ 3 นัดก็วิ่งเร็วเท่าเดิมเลย แต่ก็มีมี mechniam ใหม่
เข้ามาทดแทนคือ เมื่อเราสังหาร (kill) หรือช่วยเหลือ (assists) จะลดคูลดาวน์สกิล 2 : Excite ลง 50/60/70/80/90/100% (ขึ้นกับ Lv. ของสกิล1) ยิ่ง Lv.ของสกิล1เยอะยิ่งลดคูลดาวน์สกิล2ได้เยอะและเยอะสุดๆเลยคือ 100% ไม่ต้องรอคูลดาวน์กันแล้ว
2nd Skill : Excite
เวลาคูลดาวน์ : 12/10.8/9.6/8.4/7.2/6 วินาที > 12/11.2/10.4/9.6/8.8/8 วินาที เพิ่มระยะเวลาในการคูลดาวน์มา 2 วินาที แต่ว่าเรายังสามารถใช้ควบคู่ไปกับ mechanism ใหม่ของสกิล 1 ได้ ดังนั้นหากเราสังหาร หรือช่วยเหลือไปเรื่อยๆ
ก็จะลดคูลดาวน์สกิลนี้ลงได้สูงสุดถึง 100% ก็คือ recooldown ไปเลย mechnism ใหม่นี้จึงมีประโยชน์มากๆในวงไฟท์
กระสุนม่วง สร้างความเสียหายจริง : เดิมทีเมื่อเราใช้สกิล 2 ในขณะที่บรรจุกระสุนม่วง และโจมตีปกติครั้งถัดไป Thorne จะสร้างความเสียหายจริง 4/8/12% ตามพลังชีวิตที่เสียไปของศัตรู > แต่ในแพทช์ใหม่จะไม่คิดดาเมจจากพลังชีวิตที่เสียไปแล้วแต่จะโจมตีเป็น %เลือด
คือคิดดาเมจพลังชีวิตสูงสุดของศัตรู โดยจะมีดาเมจอยู่ที่ 2/3/4% ของพลังชีวิตสูงสุด และทุกๆพลังโจมตีกายภาพ 100 หน่วย จะเพิ่มดาเมจอีก 0.5/0.75/1% ดังนั้นในแพทช์เดิม Thorne จะยิงแรงขึ้นเมื่อฮีโร่เป้าหมายเสียพลังชีวิตมากขึ้น
แต่ในแพทช์ใหม่นี้จะยิ่งด้วยดาเมจเท่ากัน สรุปเลยคือการใช้สกิล 2 ขณะบรรจุกระสุนม่วง ทำให้เหมือนเรามีดาเมจจากกระสุนม่วงในสกิล 1 เลยแต่เปลี่ยนจากความเสียหายเวทเป็นความเสียหายจริงแทน แต่ยังไงแล้วเนี่ย ดาเมจที่ได้จากการใช้สกิล 2 ก็ลดลงไปอย่างเห็นได้ชัดเลย
กระสุนเหลือง (สตัน) : เมื่อใข้สกิล 2 ขณะบรรจุกระสุนเหลืองจะทำให้การโจมตีครั้งถัดไปสตันศัตรูเป็นเวลา 0.5/1/1.5 วินาที (กระสุน 1 นัด/กระสุน2นัด/กระสุน3นัด) > 0.5/0.75/1 วินาที โดนเนิฟเวลาในการสตันลงนั่นเอง
กระสุนฟ้า (โจมตีเป็นวงกว้าง) : เมื่อใข้สกิล 2 ขณะบรรจุกระสุนฟ้าจะทำให้การโจมตีครั้งถัดไปเพิ่มโบนัสความเสียหายกายภาพ 1.0/1.5/2.0 หน่วย (กระสุน 1 นัด/กระสุน2นัด/กระสุน3นัด) แต่ไม่สามารถติดคริติคอลได้ > 100% พลังโจมดีกายภาพ และสามารถติดคริติคอลได้
และยังลบเอา mechanism ที่เพิ่มโอกาสในการติดคริติคอลออกไปอีกด้วย แต่ก็เพิ่ม mechanism ใหม่เข้ามาแทน เมื่อ Thorne ใช้สกิล 2 จะรีคูลดาวน์สกิล 1 หมดเลยสามารถบรรจุกระสุนต่อได้เลย (สกิล1 และสกิล2 ช่วยลดคูลดาวน์กันและกัน ทำให้ Thorne พริ้วขึ้นมากๆ)
และยังมีอีก 1 ความสามารถที่เพิ่มเข้ามาคือหากเราบรรจุกระสุนไม่ครบ 3 นัด แล้วเรากดใช้สกิล 2 พุ่งไป Thorne จะบรรจุกระสุนเข้าไปอัตโนมัติอีก 1 นัด โดยจะ copy กระสุนนัดล่าสุดที่เราบรรจุไป เช่นเราบรรจุกระสุนม่วงไว้ 1 นัด เมื่อเรากดสกิล 2
เราจะได้กระสุนม่วงเพิ่มมาอีก 1 นัด
สรุป ในแพทช์หน้า Thorne เหมือนโดน remake มาอีกรอบเลยก็ว่าได้ทั้งในเรื่องของ mechanism ที่มีการเอาออกบ้างยัดเพิ่มมาบ้าง ไหนจะดาเมจที่ไม่ได้แรงเวอร์แบบเดิมแต่ว่าค่อนข้างคงที่เพราะคิดจาก %พลังชีวิตเกือบทั้งหมดเลย อาจจะต้องฝึกเล่นกันใหม่เลยก็ได้
Max
Passive Skill : Static Shock
ลดค่าการตัดเลือด : max ลง จากเดิมเป็น 50% > 40% ในแพทช์หน้านี้ ฮีโร่หลายตัวที่มีสกิลการตัดเลือดเนี่ย สกิลเหล่านี้ก็มักจะโดนเนิฟลงไปบ้าง เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับ item นั่นเอง เพราะในแพทช์หน้าสิ่งที่ค่อนข้างจะเด่นเลยคือ การเนิฟการตัดเลือดหรือดูดเลือดลงไป
มองว่าในแพทช์หน้าเราอาจจะได้เล่นเกมกันยาวขึ้น อาจจะต้องมีการวางแผนการเล่นใหม่ เล่นเป็นทีมให้มากยิ่งขึ้น เพราะฮีโร่หลายๆตัวที่โดนเนิฟลงไปก็ยืนด้วยตัวเองยากอยู่นะ
ยังไม่หมดสำหรับการปรับสมดุลฮีโร่ ยังคงเหลือปรับสมดุลFighter/Assassin อยู่อีกนะ อย่าลืมติดตามกันนะ