iQOO แบรนด์น้องใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 สามารถสร้างกระแสความร้อนแรงได้ทันทีที่เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นแรกในประเทศจีน ด้วยการได้รับเลือกให้เป็น Official Device หรืออุปกรณ์ที่ใช้แข่งขันสำหรับเกมเมอร์ระดับ King of Pro League และพร้อมแล้วที่จะบุกตลาดในประเทศไทย ด้วยเกมมิ่งสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด iQOO 11 5G ที่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพทั้งความแรงของชิปประมวลผล จอแสดงผลคุณภาพสูง และสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120W ทั้งหมดนี้อยู่ในตัวเครื่องที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว ตามแบบฉบับรถแข่งของ BMW

สเปก iQOO 11 5G

  • จอแสดงผล 2K E6 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 144Hz
  • กล้องหลัง 50MP AI Triple Camera
  • กล้องหน้า 16MP Selfie Camera
  • ชิปประมวลผลภาพ V2
  • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
  • ความจำ RAM 16GB (LPDDR5X) + ROM 256GB (UFS 4.0)
  • สนับสนุนการ์ด microSD
  • ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Vapor Chamber
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ (Dual Stereo Speakers)
  • การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi (2.4/5.0GHz), Bluetooth 5.3, OTG, USB Type-C 
  • ระบุตำแหน่ง GPS / GLONASS / Galileo / QZSS / NavIC / GNSS / Beidou
  • เซ็นเซอร์ Accelerometer, Ambient Light Sensor, Gravity sensor, E-Compass, Gyroscope, Infrared Remote, Pressure sensor, In-Display Fingerprint Sensor,
  • ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 13 บนพื้นฐาน Android 13
  • แบตเตอรี่ 5000mAh
  • รองรับชาร์จเร็ว Flash Charge 120W
  • ขนาดตัวเครื่อง 164.86 x 77.07 x 8.72 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 203 กรัม

แกะกล่อง iQOO 11 5G

iQOO 11 5G จัดส่งมาในกล่องสีดำ หน้ากล่องติดโลโก้ iQOO คู่กับ BMW M Motorsport ซึ่งทั้ง 2 เแบรนด์ได้จับมือเป็นพาร์ทเนอร์ระดับพรีเมียมตั้งแต่เดือนสิงหาคมของปีที่แล้ว โดยทาง iQOO ให้การสนับสนุนรถของ BMW เพื่อเข้าแข่งขันในรายการ DTM หรือ Deutsche Tourenwagen Masters

เมื่อยกฝากล่องออกไป จะพบกับสมาร์ตโฟน iQOO 11 5G ที่ได้รับการห่อหุ้มไว้อย่างดี อยู่ในกล่องสีดำลายเคฟลาร์ เมื่อแกะซองออกจากสมาร์ตโฟน จะสังเกตได้ว่า  iQOO 11 5G ได้รับการติดฟิล์มป้องกันหน้าจอมาให้แล้ว

ภายในกล่อง iQOO 11 5G แถมการ์ดรูปภาพรถแข่ง BMW M4 DTM ที่ iQOO ให้การสนับสนุนเพื่อลงชิงชัยในสนามแห่งการประลองความเร็วระดับโลก

การ์ดรูปภาพรถแข่ง BMW M4 DTM แนบมากับแผ่นกระดาษสีดำ เมื่อหยิบการ์ดออกมา จะเห็นว่ามีข็มช่วยถอดถาดใส่ซิมการ์ดแนบมาให้ด้วย


iQOO 11 5G แถมเคสใสมาให้แล้วในกล่อง พร้อมด้วยคู่มือฉบับเร่งด่วน ข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน 


ชั้นล่างสุดเป็นช่องเก็บสายชาร์จ USB Type-C พร้อมด้วย Adapter สำหรับแปลงแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร เป็น USB Type-C 

สำหรับ Power Adapter หรือ ที่ชาร์จแบตเตอรี่ที่แถมมาให้ในกล่อง รองรับชาร์จเร็ว 120W ถือว่าให้อุปกรณ์เสริมมาอย่างครบถ้วน พร้อมใช้งานทันทีตั้งแต่แกะกล่อง 

iQOO x BMW

การจับมือกันระหว่าง iQOO และ BMW M Motorsport ได้สะท้อนถึงนิยามแห่งการเป็นผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมบนสนามแข่ง และสมรรถนะแห่งการขับขี่ที่เหนือชั้นของ BMW สอดคล้องกับที่มาของชื่อแบรนด์ iQOO ที่ย่อมาจาก I Quest On and On หมายถึง การมุ่งพิชิตความสำเร็จอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อบรรลุความสมบูรณ์แบบแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรม จึงเป็นการตอกย้ำความเป็นเจ้าแห่งความเร็วในแบบฉบับรถสปอร์ตที่พร้อมทะยานไปข้างหน้า และความเป็นสุดยอดเกมมิ่งสมาร์ตโฟนที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงในทุกมิติ

ดีไซน์โฉบเฉี่ยวมาพร้อมแถบ 3 สีของ BMW

iQOO 11 5G ที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว มาในสีขาว Legend White โดดเด่นด้วยแถบ 3 สี ที่ฝาหลัง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งในตำนานของ BMW สีแดงหมายถึงความหลงใหลในการแข่งรถ สีดำหมายถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และสีฟ้าหมายถึงการสํารวจสิ่งที่ไม่รู้จัก

งานประกอบของ iQOO 11 5G เทียบได้กับงานฝีมือที่ประณีต ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยคุณภาพสูง ถูกสร้างด้วยการใช้มีดแบบตรงผ่านเทคนิค One Piece Rotary Cut ที่มีความเรียบและคม โดยใช้ครื่องจักรกลอัตโนมัติที่ทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (CNC – Computer Numerical Control) 

ในส่วนของฝาหลังสีขาว ทำจากหนังที่มีลวดลายของ Clous de Paris ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาหรูหรา ดูเรียบง่ายแต่สะดุดตา อีกทั้งยังทำส่วนขอบด้านข้างให้มีความโค้งมนรับกับฝ่ามือ ช่วยให้ถือจับได้อย่างสบายมือ

ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ที่มห้สีสันสวยงามคมชัด และยังให้ประสบการณ์ที่ดีในการรับชมด้วยพื้นที่ขอบจอบางเฉียบรอบด้าน

จอแสดงผลของ iQOO 11 5G ถูกเจาะหลุมไว้ตรงกึ่งกลางส่วนบน เพื่อติดตั้งกล้องเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล และยังซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอด้วย

ด้านหลังสะดุดตากับกรอบโมดูลกล้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่นูนขึ้นมาจากแผงหลัง ภายในประกอบด้วยกล้อง 3 ตัว พร้อมแฟลช LED 

ด้านข้างมีความบาง 8.72 มิลลิเมตร ถือว่ามีความบางพอสมควรเมื่อเทียบกับขนาดแบตเตอรี่ 5000mAh

ปุ่มปรับระดับเสียง และ ปุ่มเพาเวอร์ ติดตั้งไว้ทางฝั่งเดียวกัน

ด้านบนจะพบกับรูไมโครโฟนตัวที่ 2 และ อินฟราเรด

ด้านล่าง ประกอบด้วย ถาดใส่ซิมการ์ด แบบ 3 ช่อง (Dual Nano-SIM + microSD), ไมโครโฟน, ช่องต่อ USB Type-C (USB 2.0) และ ลำโพง (ให้เสียงสเตอริโอ เมื่อขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านบนที่อยู่เหนือกล้องหน้า อีกทั้งยังมีอัลกอริทึมการขยายเสียงระบบใหม่ ช่วยให้เสียงที่คมชัดระดับ Hi-Fi และเสียงเบสหนักแน่น)

หน้าจอ 2K E6 AMOLED ทัชลื่น 144Hz

iQOO 11 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2K (1440 x 3200 พิกเซล) ที่มีจำนวนพิกเซลเพิ่มขึ้น 77.8 % เมื่อเทียบกับความละเอียด Full HD+ อีกทั้งยังเป็นจอภาพในกลุ่มแรกของโลก ที่ใช้วัสดุเรืองแสง E6 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและการใช้พลังงานได้ 2 เท่า เมื่อเทียบกับวัสดุเรืองแสง E5 สามารถลดการใช้พลังงานลง 13% โดยมีความสว่างเต็มหน้าจอสูงสุด 1,100 นิต ให้ความสว่างสูงสุดเฉพาะที่สูงถึง 1,800 นิต และรองรับ HDR10+ แสดงรายละเอียดของภาพได้อย่างคมชัดด้วยช่วงสี คอนทราสต์ และความสว่างที่แม่นยำยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากความคมชัด หน้าจอของ iQOO 11 5G ยังตอบสนองการแสดงผลและการสัมผัสได้อย่างลื่นไหล ด้วยเทคโนโลยี LTPO ทำให้รองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้สูงสุด 144Hz ขณะเดียวกันยังเป็นจอแสดงผลที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของดวงตาผู้ใช้งาน ด้วยความสามารถปรับลดแสง PWM ได้ที่ความถี่สูง 1440Hz เพื่อลดการกะพริบของหน้าจอ และยังผ่านการรับรองจาก SGS ด้านการตอบสนองต่ออาการเมื่อยล้าทางสายตาในระดับต่ำ

สแกนนิ้วใต้หน้าจอ

iQOO 11 5G ใช้วิธีการปลดล็อคหรือยืนยันตัวตนตามแบบฉบับสมาร์ตโฟนระดับเรือธง  ด้วยการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล สามารถอ่านลายนิ้วมือและปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว และถ้าไม่สะดวกในการใช้ปลายนิ้ว ก็ยังรองรับวิธีการปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า โดยอาศัยกล้องหน้าความละเอียดสูง ทำงานร่วมกับระบบจดจำใบหน้า ช่วยให้การสแกนใบหน้ามีความแม่นยำ

ชิป Snapdragon 8 Gen 2 รุ่นแรกในไทย

สมาร์ตโฟนของ iQOO มีความโดดเด่นในด้านประสิทธิภาพที่ทรงพลัง เนื่องจากถูกสร้างมาเพื่อรองรับความต้องการของเหล่าเกมเมอร์โดยเฉพาะ นั่นทำให้ iQOO 11 5G มาพร้อมชิปประมวลผลระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Qualcoom ซึ่งก็คือ Snapdragon 8 Gen 2 ที่ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และตามปกติควรจะพบในสมาร์ตโฟนเรือธงที่จะออกมาทำตลาดในช่วงต้นปีหน้า แต่ว่า iQOO 11 5G ได้รับมาใช้งานเรียบร้อยแล้ว


ชิป Snapdragon 8 Gen 2 ถูกสร้างมาแทนที่ Snapdragon 8 Gen 1 โดยมีการการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น ด้วย CPU ที่แรงขึ้น ประกอบด้วย คอร์หลัก ARM Cortex-X3 ความเร็วสูงสุด 3.2GHz + คอร์ด้านประสิทธิภาพ 4 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.8GHz + คอร์ด้านประหยัดพลังงาน 3 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.0GHz ให้ประสิทธิภาพเร็วขึ้น 35% และมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น 40% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน ถึงแม้จะใช้กระบวนการผลิตระดับ 4nm แบบเดียวกัน


ชิป Snapdragon 8 Gen 2 ยังมาพร้อม Adreno GPU ที่มีประสิทธิภาพในการเรนเดอร์กราฟิกเพิ่มขึ้น 25% และประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นมากถึง 45% และจากการทดสอบ Manhattan 3.1 แพลตฟอร์มมือถือ Snapdragon 8 Gen 2 สามารถทำความเร็วได้ 221.6 เฟรมต่อวินาที ซึ่งสูงกว่าชิป Apple A16 ถึง 27 เฟรม ขณะที่การทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น AnTuTu ทำได้ถึง 1,241,301 คะแนน ขึ้นอันดับ 1 ในฐานะสมาร์ตโฟน Android ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แซงหน้าเกมมิ่งสมาร์ตโฟนทุกรุ่นที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

ระบบระบายความร้อน

iQOO 11 5G ได้รับการติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Vapor Chamber ที่มีห้องไอน้ำขนาดใหญ่ชนิดบางพิเศษ 24,768 ตร.มม. ใหญ่กว่าทุกรุ่นที่เคยมีมา และยังมาพร้อมแผ่นแกรไฟต์ 3 ชั้น ช่วยลดอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถลดอุณหภูมิพื้นผิวของตัวเครื่องอได้ 4 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิที่จุดเชื่อมต่อได้เต็มที่ 14 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนที่ไม่มีระบบระบายความร้อน จึงมอบประสบการณ์การเล่นเกมได้น่าประทับใจ

มาตรฐานความจำใหม่ล่าสุด RAM 16GB (LPDDR5X) + ROM 256GB (UFS 4.0)

ไม่เพียงแต่ใช้ชิปเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Qualcoom ด้านความจำ ก็เลือกใช้มาตรฐานใหม่เช่นเดียวกัน ด้วยความจำ RAM แบบ LPDDR5X ซึ่งมีความเร็วในการเขียน/อ่าน 8533Mbps เร็วกว่า LPDDR5 RAM รุ่นก่อนหน้าถึง 33% ในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง 20% ส่วนความจุ ROM ใช้มาตรฐาน UFS 4.0 สามารถเพิ่มความเร็วในการเขียน 45 – 80% และความเร็วในการอ่าน 80% ในขณะที่ลดการใช้พลังงานลงถึง 40% เมื่อเทียบกับ UFS 3.1

ส่วนขนาดความจำก็ให้มาเยอะจุใจด้วย RAM 16GB และสามารถขยายได้อีก 8GB (ยืมความจุ ROM มาใช้เป็น RAM เสมือนจริง) จึงเปรียบเหมือนมีความจำ RAM สูงสุด 24GB และยังมีความจุ ROM มากถึง 256GB หมดกังวลเรื่องความจำเต็ม

ชิปประมวลผลภาพ V2

iQOO 11 5G ยังมาพร้อม ISP หรือชิปประมวลผลภาพ V2 ที่ออกแบบโดย vivo และได้รับการพัฒนามาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว ถัดจากชิป V1 และ V1+ โดยมีสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการอัปเกรดและเทคโนโลยีพื้นฐานใหม่ๆ หน่วยความจำบนชิป หน่วยประมวลผล AI และหน่วยประมวลผลภาพได้รับการสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด

หน่วยเก็บข้อมูลบนชิปใหม่มาพร้อมกับแคช SRAM ขนาดใหญ่ที่มีความจุเท่ากับ 45MB นำความได้เปรียบในการอ่าน/เขียนอย่างรวดเร็ว และใช้พลังงานต่ำ ด้านหน่วยประมวลผล AI ผ่าน DLA Accelerator ทำให้อัตราส่วนประสิทธิภาพพลังงานของ V2 สูงถึง 16.3 TOPS/W ซึ่งเป็น 4 เท่าของชิปอื่นๆ ที่คล้ายกันในอุตสาหกรรม

ชิป V2 มีประโยชน์อย่างมากสำหรับ GPU ของ iQOO 11 5G ช่วยในการแสดงรูปภาพได้ครึ่งหนึ่ง ด้วยการลดอัตราแรงกดในการแสดงรูปภาพของโปรเซสเซอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยลดภาระการทำงานของ GPU โดยเฉพาะในระหว่างการเล่นเกมที่มีการประมวลผลด้านกราฟิกอย่างหนัก 

และด้วยเทคโนโลยี Game Frame Interpolation ของ iQOO 11 5G ยังช่วยมอบประสบการณ์เล่นเกมที่มีอัตราเฟรมสูง 90 Hz ในเกมยอดนิยมเช่น PUBG Mobile, Genshin Impact, COD และ Free Fire เมื่อรวมเข้ากับจอแสดงผล  E6 Super AMOLED ความละเอียดสูงระดับ 2K  ของ iQOO 11 5G ก็ยิ่งทำให้การเล่นเกม Genshin Impact มีอัตราเฟรมสูงถึง 144Hz ขณะที่เกม PUBG Mobile สามารถรองรับอัตราเฟรมสูง 90Hz  

ชิป V2 ยังได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานด้านการถ่ายรูปในสภาวะแสงน้อยได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ฉากกลางคืนสว่างขึ้น และช่วยลด Noise หรือสัญญาณรบกวน พร้อมด้วยอัลกอริทึมฉากกลางคืนขั้นสูงของชิป ก็ทำให้การถ่ายภาพภาพทิวทัศน์ในที่มืดออกมาสวยงาม

ชิป V2 ช่วยให้โหมดถ่ายวิดีโอ Super Night Video สามารถวัดระดับความสว่างโดยรอบและเรียกใช้ชิป V2 โดยอัตโนมัติ ผ่านอัลกอริทึมสำหรับการลดสัญญาณรบกวนในฉากกลางคืน  และอัลกอริทึม MEMC สำหรับการแก้ไขเฟรมวิดีโอ สามารถเพิ่มความราบรื่นของวิดีโอ ทำให้ผู้ใช้วิดีโอกลางคืนได้ดีกว่าที่คาดไว้ และยังช่วยให้ iQOO 11 5G สามารถถ่ายวิดีโอ 4K Super Night Video ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาะแวดล้อมที่มืดสนิท

สุดยอดประสบการณ์การเล่นเกม

iQOO 11 5G ถูกสร้างมาเป็นเกมมิ่งสมาร์ตโฟน ด้วยจอแสดงผล 2K AMOLED คุณภาพสูง ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรขสูงสุด 144Hz ใช้ชิปประมวลผลที่ทรงพลังอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 รวมถึงชิป V2 ที่ช่วยในการประมวลผลกราฟิกเกม และยังมีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Vapor Chamber ช่วยให้เล่นเกมได้เป็นเวลานาน โดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ

จอแสดงผลของ iQOO 11 5G ไม่เพียงแต่ให้อัตราการรีเฟรขสูงสุด 144Hz แต่ยังรองรับอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate สูงถึง 1200Hz จึงจอบสนองการควบคุมเกมได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังใช้เซ็นเซอร์วัดความเร็วเชิงมุมและเซ็นเซอร์เร่งความเร็ว ช่วยให้ iQOO 11 5G รองรับการควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวตัวเครื่องได้ 6 รูปแบบ

นอกจากจะเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลแล้ว iQOO 11 5G ยังให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงมากขึ้น ด้วยมอเตอร์เชิงเส้นแกน X แบบคู่ ที่ให้การสั่นสะเทือนแบบผสมในฉากเกมที่ซับซ้อน ขณะที่ลำโพงคู่ ก็ให้เสียงดังคมชัด และเสียงเบสที่หนักแน่น ทำให้การเล่นเกมมีความสมบูรณ์แบบทั้งภาพและเสียง

กล้องหลัง 50MP AI Triple Camera

การถ่ายภาพถือเป็นอีกจุดเด่นของ iQOO 11 5G โดยมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ที่มีความไวสูง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย อีกทั้งยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ช่วยเพิ่มความคมชัดทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ iQOO 11 5G ยังมีกล้อง Ultra Wide สำหรับเก็บภาพในมุมมองกว้างพิเศษ และกล้อง Telephoto ที่สามารถโฟกัสได้ในระยะใกล้-ไกล รองรับซูมออปติคัล 2 เท่า และซูมดิจิทัลสูงสุด 20 เท่า อีกทั้งยังช่วยในการถ่ายภาพ Portrait ด้วย

  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (ISOCELL GN5) รูรับแสง f/1.88
  • กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • กล้อง Telephoto 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45

เมื่อเข้ามาในแอปกล้องของ iQOO 11 5G จะพบกับโหมดถ่ายภาพ Sports, Night, Portrait, Photo, Video ขณะที่โหมดอื่นๆ ถูกรวบรวมไว้ใน More ได้แก่ 50MP, Pano, Slo-mo, Time-lapse, Pro, Super Macro, Ultra HD Document, Long Exposure และ Dual View

โหมด Photo รองรับการซูมตั้งแต่ 0.6x ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานกล้อง Ultra Wide และสามารถซูมได้สูงสุด 20x แบบดิจิทัล สามารถเพิ่ม Filter ได้หลากหลายสไตล์ จากไอคอนที่มุมล่างขวามือ และที่แถบเครื่องมือด้านบน มีไอคอนสำหรับใช้งานฟีเจอร์ HDR และ Natural color


โหมด Portrait สามารถซูมได้ 2 ระยะ มาพร้อมฟีเจอร์ Style / Filter ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับภาพบุคคล มีฟีเจอร์ Beauty ช่วยปรับความงามบนใบหน้า และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ฟีเจอร์ปรับค่า F สำหรับละลายฉากหลัง เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ Bokeh

โหมด Video รองรับการซูมตั้งแต่ 0.6x แต่ซูมได้สูงสุด 10x สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 8K สามารถเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวบุคคลในวิดีโอด้วย Bokeh Portrait Video ช่วยละลายฉากหลังให้เป็นดวงไฟโบเก้อย่างธรรมชาติ

นอกจากนี้ ชิป V2 ยังช่วยให้กล้องหลังของ iQOO 11 5G สามารถถ่ายวิดีโอ 4K Super Night Video ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที ได้อย่างสวยงามในเวลากลางคืน

โหมด Night รองรับการซูมในช่วง 0.6x – 20x เหมือนกับโหมด Photo หมายความว่าสามารถเปิดใช้งานกล้อง Ultra Wide เพื่อถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ในสภาวะแสงน้อยได้อย่างดี และยังสร้างภาพถ่ายยามค่ำคืนให้อลังการมากขึ้นกับโหมด Pano Night (เปิดใช้งานจากแถบเครื่องมือด้านบน) โดยโหมด Pano Night ได้รับการพัฒนาให้ถ่ายภาพแบบพาโนราม่าในเวลากลางคืน ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ทำงานร่วมกับอัลกอริทึมการติดตาม ช่วยในการติดตามโฟกัสและแพนกล้อง ทำให้การถ่ายภาพพาโนราม่าในเวลากลางคืนเป็นเรื่องง่าย

แถบเครื่องมือด้านบนของโหมด Night ยังมีโหมด Long Exposure ที่ช่วยให้กล้องเปิดรับแสงได้ยาวนานเป็นพิเศษ สำหรับถ่ายฉากสวยๆ ในเวลากลางคืน ตัวอย่างที่เห็นได้บ่อยก็คือ ภาพรถยนต์กำลังแล่นในเมือง ซึ่งจะทำให้แสงไฟของรถยนต์ออกมาเป็นเส้นสายเต็มท้องถนน ขณะที่ไอคอนบริเวณมุมล่างขวามือ ก็มีฟีเจอร์ Style เป็นฟิลเตอร์สำหรับเปลี่ยนอารมณ์หรือโทนสีภาพ และ Scene ตัวช่วยในการถ่ายภาพในฉากต่างๆ ให้เป็นเรื่องง่าย

โหมด Sports พบเห็นได้ไม่บ่อย แต่มีอยู่ใน iQOO 11 5G เป็นตัวช่วยในการถ่ายภาพกีฬาหรือวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่เร็ว มาพร้อมฟีเจอร์ Night Motion และ Live Photo เมื่อเปิดใช้งาน Live Photo กล้องหลังจะบันทึกภาพ 1.5 วินาที ก่อนและหลังการกดปุ่มชัตเตอร์ เพื่อไม่ให้พลาดจังหวะที่สำคัญ

กล้องหน้า 16MP Selfie Camera

กล้องหน้าได้รับการติดตั้งไว้ในหลุมบนหน้าจอ มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 โดดเด่นที่โหมดถ่ายภาพ Portrait ซึ่งมาพร้อม Style สำหรับปรับโทนสีภาพได้มากมาย แบ่งเป็นหมวดหมู่ Classic, Shadows และ Filter อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Beauty สำหรับปรับความงามบนใบหน้า และปรับค่า F เพื่อเบลอฉากหลังได้ ขณะที่โหมด Video ของกล้องหน้า รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที โดยสามารถใช้งานฟีเจอร์ Style, Beauty และ Bokeh ในการถ่ายวิดีโอเซลฟี่ได้เช่นกัน

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง

แบตใหญ่ชาร์จเร็ว Flash Charge 120W

อีกจุดเด่นของสมาร์ตโฟน iQOO 11 5G คือเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120W สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากระดับ 0 – 50% ภายในเวลาเพียง 8 นาที ที่น่าสนใจก็คือ แบตเตอรี่ยังมีความจุมากถึง 5000mAh ซึ่งถือว่ามีความจุสูงมากเมื่อเทียบกับการรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120W ทำให้ iQOO 11 5G ตอบสนองการใช้งานที่ยาวนานตลอดท้งวัน และยังใช้งานได้อย่างต่อเนื่องเพราะใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว

สรุปราคาและการจำหน่าย

iQOO 11 5G มีคุณสมบัติทุกอย่างที่สมาร์ตโฟนเรือธงควรจะมี ทั้งงานดีไซน์และการประกอบที่พรีเมียม ประสิทธิภาพที่ถือว่าทรงพลังที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟน Android ด้วยชิปเรือธง Snapdragon 8 Gen 2 ทำงานร่วมกับชิป V2 ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ และจอแสดงผลที่ให้ทั้งความคมชัดและตอบสนองการสัมผัสได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งยังมีระบบกล้องหลังคุณภาพสูง ให้ภาพถ่ายที่สวยงามทั้งในสภาพแสงปกติและในสภาวะแสงน้อย เรียกได้ว่า iQOO 11 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ครบเครื่อง เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่เน้นฟังก์ชั่นครบครัน และยังให้ความคุ้มค่าเมื่อเทียบราคากับเรือธงรุ่นอื่นๆ ในตลาด


iQOO 11 5G เปิดราคาทางการที่ 27,990 บาท เริ่มวางจำหน่าย 16 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวอุปกรณ์เสริม iQOO Cooling Back Clip Pro ราคา 1,699 บาท และหูฟัง iQOO Wireless Active ราคา 1,199 บาท