แน่นอนว่าเกมออนไลน์แต่ละเกมนั้นก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็น FPS MOBA MMO แต่เชื่อว่าก็มีใครหลายๆคนอาจจะลืมไปว่าการเล่นเกมในสมัยๆ แรกนั้นเริ่มต้นมาจากเกมการ์ดกันโดยเกมที่เราเล่นๆมานี้นั้นก็พัฒนากันมาจากการ์ดเกมนั้นเองโดยสมัยยุคแรกๆคงจะรู้จักกันดีกับ Yu-Gi-Oh หรือการ์ดยูกินั้นเอง แต่ในตอนนี้ทาง Blizzard ค่ายเกมน้ำแข็ง สุดแข็งแกร่ง ก็ได้เปิดตัวเกม Hearthstone ไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้วถือว่าเป็นเรื่องฮื่อฮา เพราะว่าด้วยลักษณะการเล่นที่ใหม่แปลก และ ความสนุกพร้อมกับตัวละครสุดคุ้นเคยที่นำมาจากเกม Warcraft นั้นเองโดยในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกันกับเกม Hearthstone กันครับผม
ลักษณะของเกม
โดยเกมนี้นั้นจะเป็นเกมการ์ดแบบ 1VS1 โดยจะนำตัวละครแต่ละตัวจากเกม Warcraft มารวมกันในเกมนี้โดยเกมนั้นจะแยกออกเป็นแต่ละเผ่าคล้ายๆ กับเกมการ์ดยูกิ นอกจากเผ่าที่เป็นการ์ดแล้วตัวเกมแต่ละเกมนั้นจะแยกกันไปอีกว่าตัวละครที่เราใช้เล่นนั้นจะเป็นอาชีพอะไรโดยตอนนี้นั้นมีตั้งแต่ Mage/Warrior/Druid/Shaman/Warlock/Rouge โดยแต่ละอาชีพนั้นก็จะแตกต่างกันออกไปทั้งเรื่องการ์ดและความสามารถ โดยเป้าหมายของเกมนั้นจะมีลักษณะเดี่ยวกับเกมการ์ดยูกิ นั้นก็คือทำยังไงก็ได้ทำให้เลือดอีกฝ่ายเหลือ 0 ให้ได้โดยแต่ละคนก็จะมีกลวิธีที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ตามสไตล์ของเรา โดยภายในเทิร์นแรกนั้นจะมี Mana อยู่ 1 หน่วย และจะเพิ่มขึ้น 1 หน่วย / 1 เทิร์น ของเรา โดยการ์ดแต่ละใบจะใช้ค่าร่าย(Mana)ไม่เท่ากัน
รายละเอียดอาชีพ
Druid ถือว่าเป็นอาชีพที่เป็นกลางที่สุดเพราะมีทุกอย่างทั้ง Heal (รักษา) , การโจมตีด้วยเวทย์,การโจมตีด้วย Hero,และสร้าง Minion มาโจมตี โดยมีความสามารถนั้นก็คิอ ใช้คริสตัล 2 ชิ้นเพื่อเพิ่มพลังโจมตี 1 และป้องกัน 1 ให้กับตัว Hero
Hunter อาชีพนี้จะเน้นการโจมตีตัว Hero ฝั่งตรงข้ามเป็นหลักโดยแทบไม่ต้องสน Minion ที่อยู่ในสนาม โดยจะเน้นการสร้าง Minion ที่รวดเร็ว โดยมีความสามารถนั้นก็คือ ใช้คริสตัล 2 ชิ้นเพื่อโจมตี Hero ของคู่ต่อสู้เท่านั้น โดยสร้างความเสียหายถึง 2 หน่วย
Mage เป็นอาชีพที่เน้นการร่ายเวทย์มนต์เป็นหลักโดยจะค่อนข้างใช้ Mana เยอะแต่ก็เน้นไปที่การโจมตีศัตรูด้วยดาเมจอันมหาศาล ความสามารถนั้นก็คือ ใช้คริสตัล 2 ชิ้น เพื่อใช้ลูกไฟโจมตีคู่ต่อสู้ สร้างความเสียหาย 1 หน่วย
Paladin เป็นอาชีพสายบัพเป็นหลักโดยการ์ดของอาชีพนี้จะเน้นในการเพิ่มความสามารถให้กับเหล่า Minion ในสนามและเสก Minion เข้ามาในสนาม ความสามารถนั้นก็คือ ใช้คริสตัล 2 ชิ้น เพื่อเรียก Summon ชื่อ Silver Hand Recruit พลังโจมตี 1 พลังชีวิต 1 ออกมา
Priest เป็นอาชีพที่เน้นการฮีลถือว่าตายยากที่สุดในเกมเพราะว่าการส่วนใหญ่จะเน้นการฮีล ทั้งฮีล Hero หรือ Minion ความสามารถนั้นก็คือ ใช้คริสตัล 2 ชิ้นเพื่อแลกกับการเพิ่มพลังชีวิตให้กับ Hero หรือ Minion จำนวน 2 หน่วย
Rogue อาชีพนี้นะเน้นการจัดการ Minion อย่างรวดเร็วการ์ดส่วนใหญ่ของ Rouge นั้นจะเป็นอาวุธ หรือ การ์ดที่เป็น Stealth ความสามารถนั้นก็คือ ใช้คริสตัล 2 ชิ้นเพื่อให้ Valeera สามารถโจมตีศัตรูได้ 1 Damage จำนวน 2 เทิร์น
Shaman อาชีพนี้นั้นจะมีการ์ดพิเศษทั้นก็คือการ Totem โดยแต่ละ Totem นั้นก็จะมีความสามารถแตกต่างกันออกไป โดยความสามารถนั้นก็คือ ใช้คริสตัล 2 ชิ้นเพื่อสุ่มเรียก Summon 1 ใน 4 Totem ที่มีความสามารถต่างกัน(เน้นโจมตี,เน้นป้องกัน,เพิ่มพลังโจมตีด้วยเวทมนต์,เพิ่มพลังชีวิต)
Warlock เป็นอาชีพที่เน้นการทำลายการ์ดฝั่งตรงข้าม การ์ดของอาชัีพนี้ส่วนใหญ่จะมีค่าร่ายสูงแต่ก็ส่งผลได้ค่อนข้างดี ความสามารถนั้นก็คือ ใช้คริสตัล 2 ชิ้น และพลังชีวิตของ Hero 2 หน่วย เพื่อแลกกับการเปิดการ์ดเพิ่มอีก 1 ใบ
Warrior เป็นอาชีพที่เน้นจัดการกับ Minion ฝั่งตรงข้ามเป็นหลัก โดยจะเน้นไปที่การ์ดทำลาย Minion หรือ ความสามารถเพิ่มเกราะนั้นเอง ความสามารถนั้นก็คือ ใช้คริสตัล 2 ชิ้น เพื่อเพิ่มพลังป้องกัน 2 หน่วย ให้กับ Hero
รายละเอียดการ์ดต่างๆ
Battlecry : เมื่อลงการ์ดที่มีความสามารถนี้ความสามารถจะแสดงผลทันที
Charge : เมื่อการ์ดใบนี้ลงมาจะสามารถประกาศโจมตีได้ในทันที (ปกติการ์ดธรรมดาจะไม่สามารถประกาศโจมตีในเทิร์นแรกได้)
Choose one : เลือกใช้ความสามารถใดความสามารถหนึ่ง – มีเฉพาะการ์ดประจำ Class Druid เท่านั้น
Combo : ถ้าใช้การ์ดที่มีความสามารถ Combo ต่อจากการ์ดใดก็ตามถึงจะแสดง Effect – มีเฉพาะการ์ดประจำ Class Rogue เท่านั้น
Deathrattle : การ์ดจะแสดงผลต่อเมื่อถูกทำลาย แต่ถ้าถูกนำออกจากบอร์ด ด้วยวิธีอื่น เช่น ถูกโยนกลับขึ้นมือ ถูกสับกลับเข้าไปในกอง ความสามารถจะไม่แสดงผล
Divine Shield : ทนทานต่อการโจมตีหรือเวทย์มนต์ได้หนึ่งครั้ง แต่ถูกนำออกจากเกมด้วยวิธีอืนๆได้เช่น ถูกโยนกลับขึ้นมือ ถูกสับกลับเข้าไปในกอง
Discover : สุ่มการ์ดที่เราไม่มีใช้ในเด็คขึ้นมาให้เลือก 3 ใบ
Enrage : แสดงความสามารถต่อเมื่อบาดเจ็บหรือได้รับความเสียหาย แต่ถ้าถูก Heal จนเลือดเต็มผลการทำงานก็จะหายไป
Freeze : ไม่สามารถใช้งานได้ 1 เทิร์น
Immune : ไม่ได้รับดาเมจใดๆทั้งสิ้น
Inspire : จะแสดงความสามารถก็ต่อเมื่อเราใช้ความสามารถของ Hero
Overload : เมื่อใช้การ์ดที่มมีค่านี้ในเทิร์นหน้าจะโดนลด Mana ตามค่า Overload
Secret : คล้ายๆกับการ์ดกับดักของ ยูกิ แต่จะทำงานแบบอัตโนมัติโดยเมื่อครบจุดประสงค์ของการ์ด การ์ดจะทำงานแบบอัตโนมัติ
Silence : เมื่อใช้การ์ดที่มีความสามารถนี้ใส่การ์ดใด เป้าหมายจะสูญเสียความสามารถทั้งหมด รวมไปถึง Deathrattle, Divine shield, Taunt, Buff และ Debuff ด้วย
Spell Damage : เพิ่ม Damage ของ Spell โดยเหมาะมากๆกับสาย Mage
Summon : เรียกการ์ดที่ระบุเมื่อครบตามเงื่อนไข (ส่วนใหญ่จะมาควบคู่กับ Battlecry หรือ Deathrattle)
Taunt : อีกฝ่ายต้องเลือก โจมตีการ์ดใบนี้ก่อนเท่านั้น ถ้ายังไม่ตายจะไม่สามารถเลือกเป้าหมายอืนได้
Transform : เปลี่ยนเป้าหมายเป็นสิ่งอื่น ไม่สามารถถูกแปลงกลับด้วย Silence ได้
Wind-fury : ในหนึ่งตาสามารถโจมตีได้สองครั้ง
รายละเอียด Deck ต่างๆ
Aggro = เด็คประเภทนี้ถือว่าเป็นเด็คที่เล่นง่ายที่สุดอาชีพที่เหมาะที่จะจัดเด็คประเภทนี้นั้นก็คือ Hunter โดยเด็คนี้จะมีแนวทางในการเล่น ที่เน้นการโจมตี Hero ฝั่่งตรงข้ามเป็นหลักโดยที่ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะลงการ์ดอะไรมานั้นเอง ดังนั้นเด็คนี้จึงสามารถจบเกมได้ไวที่สุดแต่ก็พลาดท่าได้ง่ายที่สุดเช่นกัน
Zoo = อีกหนึ่งเด็คที่สามารถเล่นได้อย่างง่ายดายนั้นก็คือ Zoo โดยแนวทางการจัดเด็คประเภทนี้จะเน้นไปที่การลง Minion ที่ฆ่ายากๆหรือลง Minion ที่สามารถเสก Minion อีกตัวละมาได้จึงทำให้ในบอร์ดของเรานั้นเต็มไปด้วย Minion อันมากมายมหาศาล
Mid game = ตามชื่อเด็คเลย เด็คนี้จะมีความสามารถในช่วงกลางเกมเป็นหลักโดยเน้น Minion ที่มีค่ารายที่ไม่น้อยและไม่มากจนเกินไป จุดเด่นๆก็คือช่วงกลางเกมเราจะเก่งมากแต่ต้นกับท้ายอาจจะสู้ลำบากสักนิดหน่อย
Tempo = เด็คนี้จะคล้ายๆกับเด็ค Mid Game แต่จะเน้น Minion ที่สามารถเล่นได้ในทุกๆเทิร์นดังนั้นหมายความว่าเราต้องมี Minion ที่มีค่าร่ายตั้งแต่ 1-7 เพื่อให้เรามี Minion อยู่ในบอร์ดทุกเทิร์นและสามารถคุมบอร์ดได้นั้นเอง
Control = เป็นอีกหนึ่งเด็คที่เล่นแล้วรู้สึกง่วงง่ายมาก แต่ก็เก่งมากเช่นกัน โดยจะแบ่งเป็น Fatigue หรือ Combo โดยเด็คประเภทนี้นั้นจะเน้นการที่ใช้การแต่ละใบให้คุ้มค่าที่สุดเล่นแบบประหยัดๆ การ์ดและสวนทีเดียว ส่วนใหญ่มักจะใช้ minion mana สูงๆ
Fatigue = เด็คนี้จะเป็นหนึ่งในประเภทของ เด็ค Control โดยจะเน้นดึงเกมหรือถ่วงเกมให้ได้นานที่สุดเพื่อเข้าสู่ช่วงได้เปรียบของเรานั้นเอง
Combo = เหมือนกับด้านบนก็คือ เน้นดึงเกมเป็นหลักจนกว่าการ์ดที่เป็น Combo ชุดเดียวตาย หรือ สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาลขึ้นมีพร้อมที่จะ บรรเลงการ์ดแบบจัดหนักจัดเต็มจนอีกฝ่ายต้องร้องกรี๊ด
โหมดการเล่นต่างๆ
โหมดแข่งขั้น = จะแยกออกเป็นอีก 2 โหมดนั้นก็คือ มาตราฐาน และ อิสระ
– เล่นมาตรฐาน เป็นการเล่นโดยใช้การ์ดซึ่งอยู่ในชุดการ์ดมาตรฐานเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่
– เล่นอิสระ เป็นการเล่นโดยไม่มีการจำกัดของชุดการ์ด
โหมดพจญภัยคนเดียว = จะถือว่าเป็นโหมดเนื้อเรื่องของเกมนี้คงไม่ผิด โดยหลังจากที่ชนะแต่ละด่านได้แล้วจะได้การ์ดพิเศษไปใช้กันนั้นเอง
โหมดลานประลอง = มีค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วม 170 โกลด์ ต่อการเข้าร่วมแข่งขัน 1 ครั้ง ผู้เล่นจะได้สิทธิ์ในการเลือกฮีโร่ 1 ตัวจาก 3 ตัวที่ระบบเกมทำการสุ่มมาให้ แล้วเลือกการ์ดที่เกมจัดเป็นเด็คให้ครบ 30 ใบ เพื่อนำไปแข่งกับผู้เล่นอื่น โดยของรางวัลที่จะได้นั้นก็แตกต่างแล้วแต่ว่าเราสามารถเก็บชัยชนะมาเท่าไหร่ โดยเรามีสิทธิ์ แพ้เพียง 3 ครั้ง
โหมดท้าประลอง = ในโหมดนี้จะสามารถเข้าเล่นได้ต่อเมื่อผู้เล่นมีเลเวลของฮีโร่คลาสใดคลาสหนึ่งจนถึงเลเวล 20 ซึ่งโหมดนี้จะเปลี่ยนกติกาไปทุกๆ สัปดาห์ แต่ถ้าสามารถชนะมาได้ก็จะได้รับเป็น แพคการ์ดนำไปเปิดฟรีๆกันเลย